“จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” จริงหรือมั่ว?

0
758
kinyupen

จากตอนก่อนหน้านี้ที่เราพูดถึงเทโลเมียร์ ที่สัมพันธ์กับอายุที่ยืนยาว ซึ่ง เจ้า Telomere นี่แหละตัวการที่ทำให้เรา “แก่”

“เทโลเมียร์”(Telomere) เป็นส่วนปลายสุดของโครโมโซมในเซลล์ เมื่อแรกเกิดเทโลเมียร์จะมีความยาวที่สุด และทุกครั้งที่เซลล์แบ่งตัวเพื่อซ่อมแซมร่างกาย เทโลเมียร์จะค่อยๆ หดสั้นลงเรื่อยๆ เมื่อเทโลเมียร์หดสั้นลงมากๆ จนไม่มีเทโลเมียร์หลงเหลืออยู่ จะทำให้เกิดการเสื่อมของอวัยวะต่างๆ หรือความแก่ชราตามมา

ฟังพอดแคสต์ที่เกี่ยวข้อง

 

วันนี้กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตนำพอดแคสต์ 100+ EP23 : “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” จริงหรือมั่ว?  ที่พูดถึงสาเหตุที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรม อายุสั้นลง แล้วเป็นสิ่งที่บางทีเราก็ไม่เคยจะคาดคิด ก็คือในเรื่องของ “สุขภาพจิต” ความเครียดและวิตกกังวลต่างๆ 

 

สุขภาพจิตที่เข้าขั้นแย่ที่สุดจะอยู่ในสภาวะที่ทางการแพทย์เรียกว่าเป็น “โรคซึมเศร้า” หรือเป็นโรควิตกกังวล

บางครั้งในสังคม อย่างสังคมเมืองในปัจจุบัน หลายๆ คนก็จะมีภาวะเบื้องต้นก็จะเป็นภาวะวิตกกังวล จนกระทั่งอาการที่ร้ายแรงจนถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า

 

“โรคซึมเศร้า” บางครั้งก็จะมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างเฉียบพลัน บางครั้งเพียงชั่วข้ามคืนจากคนที่ปกติดีๆ เนี่ยกลายเป็นผมขาวเลยเราคงเคยเห็น หรือตื่นขึ้นมาเช้าอีกวันหนึ่งมีอาการป่วยอย่างรุนแรงมีผื่นขึ้นตามตัวหรือทำให้กินอาหารไม่ได้ นอนไม่หลับ แล้วทำให้อาการเจ็บป่วยต่างๆ มีผลมากขึ้น

 

จนกระทั่งไม่อยากที่จะพบปะผู้คนออกสังคม โดยเฉลี่ยก็จะมีการคิดสั้นและพยายามที่จะหาฆ่าตัวตายนั่นก็เป็นภาวะที่ร้ายแรงของโรคซึมเศร้า

 

อะไรจะเป็นตัวกำหนดว่าเราเริ่มเข้าข่ายที่จะเป็นโรควิตกกังวลแล้ว

การที่เป็นโรควิตกกังวล หมายความว่าเราวนเวียนอยู่กับความคิดแล้วก็เหตุการณ์ซ้ำๆ ทำซ้ำๆ เป็นเวลายาวนานอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่ตลอดเวลา อาจเข้าข่ายเป็นโรควิตกกังวล

 

หนังสือมีเขายกตัวอย่างผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง ยืนรอรับลูกชายกลับบ้านอยู่ริมถนน ผู้หญิงคนนี้เขาจะวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลาแล้วก็เป็นห่วงลูกชาย หลังจากเลิกเรียนก็จะไปซ้อมกีฬาซ้อมเบสบอล เขาก็จะเป็นห่วงและวิตกกังวลทุกวัน ว่าลูกชายจะได้รับบาดเจ็บ ได้รับอันตรายจากหกล้ม โดนลูกเบสบอล มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไหม เดินทางมาจะเป็นยังไง จะปลอดภัยไหม แล้วเขาก็วนเวียนอยู่กับความคิดอย่างนี้ทุกวันทุกวัน

 

เขาก็เข้าไปปรึกษาจิตแพทย์ พบว่าเหตุการณ์แบบนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ เป็นการวินิจฉัยว่าเธอเป็นโรควิตกกังวล ก็จะถือว่าเป็นหัวข้อใหม่แล้วก็เป็นมาตรฐานในการขีดเส้นของการเป็นโรคเจ็บป่วยทางจิต

 

 

ซึ่งโรคกังวลเนี่ยเป็นโรคเบื้องต้น เปรียบเทียบเหมือนกับโรคไข้หวัด ที่คนมักจะมีอาการที่เป็นหวัดอยู่บ้านตลอดเวลา แต่คงไม่มีใครเป็นหวัดทุกวัน แล้วก็วิตกกังวลซ้ำๆ อยู่กับเรื่องทุกวันอย่างเช่นหาผู้หญิงคนนั้นที่ยกตัวอย่างมา แน่นอน บางคนก็อาจจะวิตกกังวลได้ถ้าเกิดลูกกลับไม่ตรงเวลา แต่คงไม่ใช่ว่าจะต้องวิตกกังวลแบบนั้นอยู่ทุกวันซ้ำๆ

 

ความเกี่ยวพันกับเทโลเมียร์

คุณเอลิซาเบธพบว่าคนที่มีแนวโน้มที่เป็นโรควิตกกังวล (ยังไม่ถึงขั้นภาวะซึมเศร้า) ก็มีแนวโน้มที่เทโลเมียร์สั้นลง เมื่อมีเทโลเมียร์สั้นลงก็ชี้ชัดว่าจะทำให้เซลล์ที่เสื่อมสภาพลงไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็ทำให้เซลล์ที่สำคัญก็คือเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน Drop ลงไป ทำให้สามารถที่จะเป็นโรคภัยไข้เจ็บได้ง่ายๆ

 

ปัจจุบันนี้ที่ถูกวิธีใช้เป็นโรคซึมเศร้ามีมากกว่า 350 ล้านคนทั่วโลกที่ประสบภาวะนี้ และก็ยังมีการวิจัยที่ได้รับการยืนยันจากประเทศจีนเป็นประเทศขนาดใหญ่พอสมควรนะจากมหาวิทยาลัย oxford และมหาวิทยาลัยหนานจิงของไต้หวัน พบว่าการวิจัยจากผู้หญิงจีนจำนวน 100 คน ผู้ที่อยู่ในภาวะซึมเศร้าจะมีเซลล์ที่สั้นลง คนที่มีภาวะซึมเศร้าคล้ายกับมีความวิตกกังวล แต่จะแสดงปฏิกิริยาความรุนแรงมากกว่า มีเวลาระยะเวลาที่นานขึ้น แล้วก็เทโลเมียร์ก็จะสั้นมากขึ้นกว่าด้วย นั่นก็เป็นอีกงานวิจัยหนึ่งที่ยืนยันถึงสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยมันก็คือความเครียดนั้นเอง

 

10 เดือนกับจุดเปลี่ยนสำคัญ

แล้วก็มีผลของงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่เนเธอร์แลนด์ ที่มีกลุ่มวิจัยอยู่ 3 กลุ่ม ได้แก่

  1. กลุ่มคนที่มีภาวะซึมเศร้าที่มีระยะเวลายาวนานกว่า 10 เดือน
  2. กลุ่มที่มีภาวะซึมเศร้าวิตกกังวลที่มีระยะเวลาเริ่มต้นไม่ถึง 10 เดือน (มีเรื่องที่เข้ามากระทบจิตใจทำให้เกิดภาวะวิตกกังวลไม่ถึง 10 เดือน)
  3. กลุ่มที่ไม่ได้มีภาวะที่เป็นโรควิตกกังวล

 

สิ่งที่ค้นพบก็คือเลข 10 เดือนก็จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ หมายความว่ากลุ่มคนที่มีโรควิตกกังวลมีภาวะวิตกกังวลและโรคซึมเศร้าที่ยังไม่ถึง 10 เดือนจำนวนความยาวของเทโลเมียร์ไม่ได้มีคนเปลี่ยนแปลงทางที่สั้นลงเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้มีความวิตกกังวล

ในขณะที่กลุ่มคนที่มีภาวะวิตกกังวลซึมเศร้าเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 10 เดือน นักวิจัยชี้ชัดว่าเทโลเมียร์สั้นลงอย่างชัดเจน

 

นั่นก็หมายความว่าร่างกายเรายังมีภูมิต้านทานอยู่ในระยะเวลาหนึ่ง 

เมื่อเลยเวลาถึงจุดๆ หนี่งจึงมีผลกับการเสื่อมสภาพของเซลล์ นั่นคือระยะเวลาที่เรียกว่า 10 เดือน

 

 

นักวิจัยค้นพบอีกว่า เทโลเมียร์ในสมองส่วนฮิปโปแคมปัสสั้นลงในอัตราที่มากกว่าเซลล์สมองส่วนอื่นๆ

แน่นอนเทโลเมียร์ในสมองสั้นลง แต่เซลล์สมองในส่วน “ฮิปโปแคมปัส” ซึ่งเป็นเซลล์สมองที่คอยดูแลที่เกี่ยวพันกับภาวะวิตกกังวลและความเครียดจะสั้นลงมากกว่าปกติ

งานวิจัยก็เลยเอาไปทดลองในหนูทดลองพบว่า ที่ฮิปโปแคมปัสของสมองและการเติบโตของสมองของเจ้าหนูเนี่ย ที่ได้รับความเครียดทำให้เซลล์สมองตรงนี้มีการสั้นลงเป็นพิเศษ ก็จะทำให้ความเครียดและความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้นอีก

 

นั่นก็หมายความว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวลและความเครียดในระยะเวลานาน ก็จะยิ่งเป็นหนักมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็สมองในส่วนที่มีผลกระทบกับเรื่องนี้ก็จะเสื่อมสภาพลงทำให้เขามีอาการแย่ลงไปอีก มันก็เป็นสิ่งที่ค้นพบว่าทำไมคนที่เป็นโรคซึมเศร้ามีอาการมากขึ้น หนักขึ้นเรื่อยๆ 

พูดง่ายๆ เซลล์ส่วนนั้นก็จะถูกทำลายแล้วก็เสื่อมสภาพลง

 

และงานวิจัยก็พบสิ่งที่ย้อนแย้งกันอีก ถ้าเราติดตามหนังสือเล่มนี้มาจะรู้ว่า เอนไซม์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “เทโลเมอเรส” ที่ร่างกายเราหลั่งออกมาในเซลล์บางประเภท ในกลุ่มคนบางกลุ่ม ในกิจกรรมบางกิจกรรม ในอาหารบางอาหาร

 

เทโลเมอเรส มีส่วนที่ทำให้การสั้นลงของเทเลอเมียเป็นไปได้ช้าลง หรือบางครั้งเทโลเมอเรสก็จะเข้าไปหล่อเลี้ยงทำให้เซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell) มีขาของเจ้าเทโลเมียร์ยาวอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งบางคนยังพูดว่า “ถ้าเราสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จะทำให้เทโลเมียร์ไม่หดสั้นลงหรือยาวขึ้นได้ ก็จะทำให้ชีวิตเป็นอมตะ เซลล์จะเป็นหนุ่มสาวอยู่ตลอดเวลา”

 

เมื่อเซลล์คนที่เผชิญความเครียดอย่างร้ายแรงในระยะเวลาที่ยาวนาน เทโลเมียร์สั้นลง แต่ร่างกายมนุษย์ก็มหัศจรรย์ ก็หลั่งเจ้าเทโลเมอเรสขึ้นมาเป็นจำนวนมากกว่าปกติ โดยถ้ามองในเจตนาของธรรมชาติ ก็เพื่อที่จะเข้าไปซ่อม เพื่อไปชะลอไม่ให้ขาของเทโลเมียร์ที่ถูกทำลายลงไปในส่วนนั้นเนี่ย ถูกทำลายลดลงไปในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ไม่สามารถที่จะเอาชนะได้

 

หมายความว่าขณะที่มีเทโลเมอเรสออกมาจากเซลล์ที่ถูกทำลาย เจ้าขาเทโลเมียร์ก็ยังหดสั้นลงไปในอัตราส่วนที่มากอยู่ดี แต่ถ้าอยู่ในระยะเวลายังไม่เกิน 10 เดือนธรรมชาติก็ยังช่วยประคองไม่ให้หดสั้นลงไป มันก็อาจจะเป็นแนวทางในการที่เราเริ่มเผชิญกับปัญหา เราพยายามหาทางออกแล้วก็ออกจากวังวนของสภาพจิตที่พาเราดำดิ่ง ไปในชีวิตที่เต็มไปด้วยความเจ็บป่วยที่จะตามมาอย่างคาดไม่ถึง

 

กลุ่มนักวิจัยกลุ่มนี้ก็ยังค้นพบผลงานวิจัยที่น่าสนใจอีกอันหนึ่ง เขาเข้าไปวิจัยและก็วัดความยาวของเทโลเมียร์ในกลุ่มผู้ที่ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง หมายความว่าบางคนมีเหตุที่ทำให้ตัวเองต้องมีความวิตกกังวลความเครียดอย่างรุนแรง อาจเรียกว่าช็อค เช่น การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปอย่างกะทันหัน ประสบกับอุบัติเหตุที่ทำให้พิการ แน่นอนเป็นไปตามคาดเทโลเมียร์หดสั้นลงหลังจากเกิดความกระทบกระเทือนทางจิตใจรุนแรง

 

แต่เขาทำการทดลองและวิจัยในมนุษย์และหนู เมื่อผ่านไปในระยะเวลาหนึ่ง (ในนี้บอกติดตามถึง 5 ปี) ก็จะค้นพบว่าเทโลเมียร์ที่หดสั้นลงไปธรรมชาติ ก็อย่างที่เรียนไปข้างต้นว่าจะหลั่งสารเทโลเมอเรส ออกมาคอยฟื้นฟู คอยซ่อมแซมย่นระยะเทโลเมียร์ออกมามาก

 

แต่กลุ่มที่ช็อคอย่างรุนแรงเมื่อระยะเวลาผ่านไป 5 ปี เขาติดตามขาของเทโลเมียร์ก็กลับฟื้นตัวแล้วก็ยาวขึ้นได้ ก็หมายความว่าหลังจากที่เราปรับสภาพจิตใจ ถ้าเราไม่ได้จมอยู่กับสิ่งเหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา ก็เหมือนกับเราทำใจได้ปรับตัวได้ เวลาค่อยๆ เยียวยา ร่างกายเองก็มหัศจรรย์ก็เชื่อมแล้วก็ซ่อม ยืดขาเทโลเมียร์กลับขึ้นมาได้

 

งานวิจัยตรงนี้ก็ทำให้ค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่เป็นจุดประกายว่า เทโลเมีบร์เนี่ยสามารถที่จะซ่อมแล้วก็ยืดความยาวของมันขึ้นมาได้ ก็พบว่าระยะเวลาเฉลี่ยส่วนใหญ่ก็จะเลย 5 ปีขึ้นไป

 

แต่ในทางกลับกัน ถ้าคนที่ไม่สามารถลบเลือนอดีตหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่ช็อคอย่างรุนแรง และก็ยังจมปลักอยู่ในความคิดวิตกกังวล อาการซึมเศร้าที่มากขึ้นเรื่อยๆ เทโลเมียร์จะไม่ได้มีผลในการเปลี่ยนแปลงที่ยาวขึ้น

 

ก็หมายความว่าถ้าเราบำบัดจิตเวลาในการฟื้นฟูจิตใจ แล้วก็หลีกหนีออกจากอดีตแล้วก็ผลกระทบที่มันแรงที่ผ่านมา เวลาเยียวยาสุขภาพจิตเราขึ้นมา เราก็สามารถฟื้นตัวในแง่ของสุขภาพกายขึ้นมาได้ ถ้าเราดูกันแล้วก็จะเห็นว่า คนที่ประสบกับปัญหาสุขภาพจิตขั้นรุนแรงก็จะมักจะมีปัญหาด้านสุขภาพกายเข้ามาเกี่ยวเนื่องด้วยอยู่เสมอ ก็จะเป็นแนวทางในการวิจัยที่ชี้ชัดแล้วก็มองให้เราเห็นว่า สิ่งเหล่านี้สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ เมื่อเราฟื้นฟูสุขภาพจิตกลับมา ก็สอดคล้องกับการวิจัยขนาดใหญ่ในประเทศจีน

 

ข่าวดียิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่งานวิจัยค้นพบ กลุ่มที่ได้รับผลการสะเทือนใจอย่างรุนแรงในอดีตแล้วกลับมา ยังมีบางคนแล้วก็บางกลุ่ม ขาของเทโลเมียร์ยาวกว่าตอนที่ยังไม่ได้ประสบเหตุสะเทือนใจ ก็แนวทางอันนึงว่าทำไมคนบางคนสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ดีกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ

 

ก็เป็นงานวิจัยในชุดใหญ่ที่ทางในทะเลแล้วก็ทางจีนเป็นคนทำ ก็ต่อยอดทำให้นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยอยากจะค้นหาจอกศักดิ์สิทธิ์ ยาอายุวัฒนะให้กับโลกใบนี้

มากไปกว่านั้น ในแง่ของโรคความเครียด กังวลและซึมเศร้า ที่มีผลกระทบนอกจากเทโลเมียร์แล้ว เดี๋ยวนี้วิทยาศาสตร์ก็จะเจาะเครื่องมือด้วยเทคโนโลยี ลงไปลึกในถึงระดับเซลล์ ถึงในระดับโมเลกุลได้ สิ่งที่ความเครียดเข้าไปมีผลกระทบก็คือ “ไมโทคอนเดรีย”

 

ไมโทคอนเดรีย ถ้าจะเปรียบเทียบก็จะเป็นเหมือนเตาปฏิกรณ์พลังงานที่อยู่ในเซลล์ทุกเซลล์ ทุกๆ เซลล์พอได้รับสารอาหารเข้าไปก็จะต้องผ่านเจ้าตัวเตาปฏิกรณ์ตัวนี้ ไมโทคอนเดรียก็จะไประเบิดออกมาเป็นพลังงานที่เรียกว่า ATP ให้เข้าเป็นตัวที่ขับเคลื่อนเซลล์ให้เคลื่อนไหวให้มีชีวิตอยู่

 

เมื่อเซลล์เหล่านี้ประกอบเป็นหัวใจ ตับ ไต ไส้ พุง กล้ามเนื้อ แขนขา เมื่อได้รับพลังงานเข้าไป เซลล์เหล่านี้ก็ทำหน้าที่ของมัน เมื่อไมโทคอนเดรียที่แข็งแรง ก็จะทำให้เซลล์ในแข็งแรงก็ทำให้อวัยวะต่างๆ นั้นๆ แข็งแรง

 

เขาก็ค้นพบว่า ความเครียดทำให้เซลล์ต่างๆ มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ลดลง นั่นคือความเครียดทางด้านจิตใจก็มีผลทำให้ ไมโทคอนเดรียระเบิดพลังงานไม่ได้เต็มที่ มีการจัดการพลังงานของระดับเซลล์ที่ผิดปกติไป ถ้ามันเป็นเซลล์ในส่วนของเส้นเลือด ตับ เซลล์ในการจัดการพลังงานน้ำตาลที่เรียกว่าระบบอีซูลีน ก็จะทำให้เกิดโรคต่างๆ ที่ตามมา เช่น เราเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดัน

 

เมื่อมีผลก็จะทำให้เซลล์ต่างๆ ที่จะเข้าไป ระบบที่จะลำเลียงพลังงานไปที่สมองก็มีปัญหา ก็จะทำให้เกิดความเครียดง่ายขึ้นด้วย ในทางกลับกันความเครียดก็จะทำลายระบบไมโทคอนเดรียให้มีปัญหา ในแง่ของฟังก์ชันการทำงานที่ลดลง ทุกอย่างก็จะมีผลกระทบซึ่งกันและกัน ก็จะทำให้ร่างกายเรามีระบบจะเรียกว่า “เมแทบอลิซึม” ทำให้ระบบเผาผลาญเสื่อมสภาพลง

 

ดังนั้นบางสมมติฐาน พูดไปถึงการที่เราเป็นโรค NCD เป็นโรคเบาหวาน ความดัน ไขมันต่างๆ ในปัจจุบันนี้ สาเหตุหลักๆ คือไมโทคอนเดรียทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ

 

หลังจากที่หลายๆ คน หลายๆทฤษฎีได้ทดลองมีการ Reverse ก็คือเอาคนที่เป็นโรคพวกนี้เข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ใหม่ มาออกกำลังกาย มากินอาหารที่มีคุณภาพ มาพักผ่อน มาใช้ชีวิตอีกแบบนึง จนกระทั่งเขาสามารถที่จะกลับมาเป็นคนปกติ

หมายความว่าไม่ได้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานและหลอดเลือดอุดตันแล้ว คนพวกนี้ก็มีระบบการจุดระเบิดของเซลล์ ไมโทคอนเดรียก็กลับมาสมบูรณ์ มันก็เป็นอะไรที่สอดคล้องกันในแง่ของธรรมชาติ

 

ในกลุ่มทดลอง ก็ทดลองเอาหนูมาทำสิ่งที่ไม่ดี เช่น จับหัวห้อย ลงโยนเข้าไปให้ว่ายน้ำ ให้มันเผชิญกับความเครียดในรูปแบบต่างๆ นักวิจัยก็ค้นพบว่าเจ้าหนูที่มีอาการเครียดอยู่ในระยะเวลานานๆ ก็ทำให้ระบบไมโทคอนเดรีย เพี้ยนแล้วก็เสื่อมประสิทธิภาพลง และเทโลเมียร์ก็สั้นลงอีก 30%

 

หลังจากนั้นนักวิจัยก็ให้เวลาพักฟื้นอีก 1 เดือน ให้หนูทดลองกลับอยู่ในสภาพที่ไม่ได้มีความเครียด ก็พบว่าเทโลเมียร์ยาวกลับมาเป็นปกติ กลับมาในทิศทางปกติ

 

สรุป

ดังนั้นในหนังสือในบทนี้ชี้ชัดให้เห็นว่าคนเราถ้าหลีกเลี่ยงกับความเครียด หลีกเลี่ยงกับการประสบเหตุที่จะต้องเผชิญกับสิ่งที่สะเทือนใจ สิ่งที่เลวร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตไม่ได้ สิ่งเหล่านั้นก็เข้ามามีผลกระทบอย่างรุนแรงกับร่างกายของเรา ทั้งในระบบเซลล์ ระบบไมโทคอนเดรีย ในระบบของเทโลเมียร์ที่สั้นลง แต่ข่าวดีคือ เราสามารถที่จะกู้มันกลับคืนมาได้

ก็คล้ายๆ กับผลทางพุทธศาสนา ที่ช่วยบำบัดจิต เข้ามาทำจิตใจปล่อยวาง เข้ามายืนอยู่บนปัญหาในทัศนคติที่บวก สิ่งต่างๆ เหล่านี้สามารถที่จะทำให้ร่างกายเรากลับมาฟื้นตัว และเทโลเมียร์ก็กลับมายาวขึ้นได้

 

ขณะเดียวกันถ้าเราจมปลักอยู่กับปัญหาเป็นระยะเวลาที่นาน เป็นปีๆ เป็นหลายๆ ปี ร่างกายเราก็จะต้องถูกบั่นทอน และเสื่อมสภาพลง อย่างที่เราก็รู้กันอยู่ว่าความเครียดทำลายสุขภาพ แต่มันทำลายในลักษณะไหน ในหนังสือเล่มนี้ ในวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ก็เจาะลึกลงไปให้เราเห็นภาพที่มันชัดเจนว่า มันทำอะไรอย่างไร

 

ในตอนต่อไปก็จะมีในรายละเอียดว่าเราจะฟื้นตัวมันด้วยวิธีไหน หรือมันมีเหตุอะไรที่เราจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ได้ สำหรับสัปดาห์นี้ก็เพียงเท่านี้ก่อน ขอบคุณมากครับ

 

kinyupen