6 วิธีลงทุนเอาชนะเงินเฟ้อ ลุยได้ทุกวิกฤติโดยวอร์เรน บัฟเฟตต์

0
369
kinyupen

เราเจอแรงกดดันค่อนข้างเยอะในเกือบทุกๆ สินทรัพย์การลงทุน ไม่ว่าจะเป็นหุ้น กองทุน คริปโตเคอร์เรนซี่ ฯลฯ ในขณะที่โลกยังต้องเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อ และไม่แน่ใจด้วยว่าเงินเฟ้อจะอยู่กับเราไปอีกนานแค่ไหน ดูจากราคาน้ำมัน ราคาทอง ค่าใช้จ่ายต่างๆ

กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตมีแนวทางลงทุนให้ชนะเงินเฟ้อจาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ กูรูสาย VI (เน้นลงทุนแบบคุณค่า) ที่เน้นลงทุนแบบมั่นคงในระยะยาวมากกว่าการเก็งกำไรในระยะสั้น มาฝาก

1. Invest in good businesses with low capital needs.

ลงทุนในธุรกิจที่ดี ที่ต้องการเงินทุนต่ำ

ถ้าเป็นสภาวะที่ดอกเบี้ยต่ำ ต้นทุนในการทำธุรกิจมันก็ต่ำ ใครๆ ก็สามารถกู้ยืมเงินมาแล้วก็ทำธุรกิจได้ดี แต่ถ้าลงทุนในช่วงเงินเฟ้อสูง ต้นทุนก็จะสูงตามไปด้วย ธุรกิจไหนที่ยังต้องการเงินเยอะๆ อยู่จะเสียเปรียบสุดๆ

ตัวดอกเบี้ย ทำให้เขามีต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะดอกเบี้ยก็จะขึ้นไปเรื่อยๆ บางคนอาจจะขึ้นถึงระดับ 3 % ในช่วงสองสามปีหลังจากนี้

ดังนั้นลองไปรื้อดูว่าธุรกิจไหนที่ยังต้องการเงินทุนต่ำแต่เป็นธุรกิจที่ดีอยู่ ก็น่าสนใจค่ะ

2. Look for companies that can raise prices during periods of higher inflation.

มองหาบริษัทที่สามารถขึ้นราคาสินค้าได้ในช่วงเงินเฟ้อสูงโดยไม่เสียธุรกิจให้กับคู่แข่งในตลาด

อะไรที่ลูกค้าอย่างเรายินดีที่จะจ่าย ไม่ว่าจะเป็น บีทูซี (Business-to-Consumer) หรือ บีทูบี (Business-to-Business) แม้ว่าราคาจะเพิ่มขึ้น 20% 30% หรือ 50% ฉันก็ต้องซื้อใหม่อยู่ดี เพราะมันเป็นสินค้าที่ฉันต้องใช้ มันเป็นบริการที่ฉันจำเป็นหรือฉันติดไปแล้ว

มีธุรกิจอะไรที่ทำแบบนี้ได้บ้าง และในอุตสาหกรรมนั้นบริษัทไหนแบรนด์ไหนที่ขึ้นแล้วยังได้เปรียบคู่แข่งอยู่ ก็ลงทุนในสิ่งนี้ไปเลย

3. Take a look at TIPS. (Treasury Inflation-Protected Securities.)

มองหาการลงทุนในพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ

พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ หรือ Inflation-linkedbond (ILB) ที่ออกโดยกระทรวงการคลัง ซึ่งหากเงินเฟ้อยิ่งสูง การจ่ายผลตอบแทนของ ILB ก็ยิ่งสูง แต่ในตรงกันข้าม ตอนที่สภาพของเงินเฟ้อต่ำ พันธบัตรนี้ก็จะจ่ายผลตอบแทนต่ำด้วย เพราะฉะนั้นต้องเลือกลงทุนให้ถูกช่วง

เป็นอีกวิธีหนึ่งนะทำให้เราได้ผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล หากใครสนใจลองศึกษาเพิ่มเติมดู เพราะถ้าฝากพันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรที่มันความเสี่ยงต่ำดอกเบี้ยมันน้อยมากจริงๆ

4. Steer clear of traditional bonds.

หลีกเลี่ยงพันธบัตรแบบดั้งเดิม

พันธบัตรไม่ใช่ตัวเลือกการลงทุนที่ดีในปัจจุบัน แม้ผลตอบแทนจะคงที่แต่อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ และนักลงทุนในตลาดพันธบัตรก็มักจะเจ็บตัว โดยเฉพาะภายใต้สภาวะแวดล้อมที่เงินเฟ้อสูงแบบนี้ ถ้าเรานำเงินไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลอายุสิบปี อาจจะได้ผลตอบแทนเพียง 2-3 % เท่านั้น ซึ่งผลตอบแทนระยะยาวมันควรจะดีกว่านี้

หากนำเงินที่จะลงทุน 10 ปีไปลงทุนในธุรกิจไปซื้อกิจการหรือลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดี ก็จะสร้างผลตอบแทนที่เติบโตให้เราได้มากกว่า (ถ้าลงถูกตัวนะ)

5.Invest in yourself and be the best at what you do.

ลงทุนกับตัวเอง และเป็นตัวของตัวเองที่ดีที่สุด

ข้อนี้ใช้กับการทำงานได้ด้วยการลงทุนเพื่อขัดเกลาพรสวรรค์หรือทักษะของเรา เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะรักษาอำนาจของเราไว้ เมื่อคุณเก่งขึ้น เชี่ยวชาญขึ้น ก็สามารถตั้งราคาค่าตัวคุณได้สูงขึ้นด้วย

แทนที่จะเอาเงินไปลงทุนในกองทุนหรือสินทรัพย์อะไร ก็เอาไปซื้อหนังสือมาอ่าน ไปลงคอร์สเพิ่มทักษะตัวเอง หรือสร้างความแตกต่างให้กับตัวเอง

การที่เรายอมจ่ายเงินเพื่อเพิ่มทักษะของตัวเองจะทำให้เรากลายเป็นคนที่ไม่มีใครสามารถทดแทนได้ เช่น คุณเป็นนักเขียนที่สำนวนมีเอกลักษณ์มาก คุณเป็นหมอเป็นทนายความชั้นยอด เป็นดีไซเนอร์ที่เก่งและมีความแตกต่าง ก็มีโอกาสได้ค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นตามศักยภาพที่คุณมี

6.Limit your wants.

จำกัดความต้องการของตนเอง

การป้องกันความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่ดีที่สุด คือ การไม่มีความต้องการที่ไร้สาระที่มากเกินไป ในเมื่อเงินเฟ้อ ของแพงก็ลดความอยากได้อยากมีของตัวเองลง ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นแล้วใช้จ่ายอย่างรอบคอบประหยัดยิ่งขึ้น ยิ่งตัดค่าใช้จ่ายได้มากเท่าไหร่ เราก็ไม่ต้องเหนื่อยที่จะไปชนะเงินเฟ้อมากขึ้นเท่านั้น ยุคนี้ยังไงก็ต้องประหยัดไว้ก่อน

บทความที่เกี่ยวข้อง

6 ข้อนี้แม้แต่นักลงทุนมือใหม่ก็เข้าใจได้ ถึงหลักในการลงทุนของปู่บัฟเฟตต์จะดูเรียบง่าย แต่มันจะส่งผลดีกับผู้ลงทุนในระยะยาวแน่นอน เราสามารถลงทุนระยะยาวได้อย่างสบายใจ แม้เศรษฐกิจจะถดถอยก็ตาม

ขอบคุณเนื้อหาส่วนหนึ่งจาก : The Secret Sauce EP.531

kinyupen

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here