7 การกระทำที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

0
624
kinyupen

การทำจิตใจให้เข้มแข็งเสมอดูเป็นเรื่องยาก ในโลกที่มีแต่ความวุ่นวาย มีอะไรต่างๆ ยัดใส่หัวมาตลอดเวลา แต่รู้ไหมการดูแลสุขภาพจิตก็เหมือนการฝึกฝน ลองปรับพฤติกรรมบางอย่าง แล้วเลิกทำสิ่งเหล่านี้แล้วคุณภาพชีวิตของเราจะดีขึ้น

กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตมีวิธีดูแลสุขภาพใจจากโดยนำบทความจาก ANTHONY J. YEUNG มาเสริม เริ่มจากการหลีกเลี่ยงการกระทำเหล่านี้กันก่อน เพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

 

1.เก็บกดอารมณ์ไว้

เรารู้ตัวว่าความโกรธไม่ดี-ความเศร้าไม่ดี-ซึมเศร้าไม่ดี แต่เราต้องใช้ทั้งพลังงาน พลังใจอย่างมากในการที่จะซ่อนอารมณ์ต่างๆ นั้นเอาไว้ และการใช้พลังงานอย่างมากนั้นจะย้อนมาทำร้ายเราให้สุขภาพจิตแย่ วิตกกังวล หรือซึมเศร้าได้

แต่ใช่ว่าคุณจะระเบิดอารมณ์ออกมา พาลใส่คนอื่น หรือเหวี่ยงใส่ใครก็ได้

เพียงแต่ให้เรารู้ตัวว่า เวลาเราโกรธ ต้องยอมรับว่านี่คือความรู้สึกโกรธ ถ้าเราเศร้า ก็ให้รู้ตัวว่ารู้สึกเศร้า มันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เข้าใจและอยู่กับมันให้ได้แทนที่จะกดทับไว้ แล้วทำเป็นไม่สนใจ

เศร้าโศกก็ร้องไห้ออกมา สับสนก็ให้เขียนระบายความรู้สึก ถ้าเราไม่พอใจเพื่อนร่วมงาน เราก็ไปพูดคุยปรับความเข้าใจดู เพื่อที่จะเรียนรู้กันใหม่ เป็นต้น

 

2. ปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอก

แม้มันจะเป็นวิธีการเยียวยาตัวเองที่หลายๆ คนชอบใช้ คืออยู่คนเดียว ไม่พูดกับใคร ไม่เล่าให้ใครฟัง ไม่อธิบายให้ใครฟัง แต่สิ่งเหล่านี้เราไม่แนะนำ เพราะกระบวนการในการรักษาสภาพจิตใจให้แข็งแรงอย่างหนึ่งคือการที่เราได้ระบายกับผู้อื่น หรือได้ปรึกษาคนอื่น บางครั้งการพูดให้เพื่อนฟัง แม้เพื่อนจะไม่มีคำแนะนำอะไรให้ สิ่งนี้ก็ช่วยเราเยอะมากแล้ว

 

การเยียวยากับตัวเองคนเดียว ก็ทำได้ในเรื่องที่เล็กน้อยๆ แต่ถ้าทำเช่นนั้นอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ แล้ว นั่นไม่ใช่การดูแลตัวเอง แต่เป็นการรั้งตัวเองไว้

เวลาเรามีปัญหา การไปหานักจิตบำบัด หรือจิตแพทย์จึงเป็นเรื่องที่ควรทำ เพราะการเปิดความรู้สึกต่างๆ ให้ออกไปบ้าง จะเยียวยาเราได้มาก

 

3. ต้องเป็นฝ่ายถูกตลอดเวลา

ทุกครั้งที่มีการโต้เถียงอะไร มันจะต้องลงเอยด้วยการเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่งให้ได้ อย่ายึดมั่นมากว่าความคิดเห็นของคุณหนักแน่น อันนี้จะทำให้เราเสียสุขภาพจิต การไม่ยึดติดจะช่วยลดความลําบากทางใจเมื่อเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์

 

4. หลีกเลี่ยงการไม่สบายกายไม่สบายใจอยู่ตลอดเวลา

เมื่อการที่เราหลีกเลี่ยงอยู่ตลอดเวลากลายเป็นความเครียด เพราะชีวิตเราต้องเจอความไม่สบายการไม่สบายใจอยู่กันแล้ว

การที่จะเข้มแข็งทางจิตใจคุณต้องทําให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้นก่อน ลองเผชิญและสนุกกับมันดู ลองทำในสิ่งที่คุณไม่เคยทำ บางทีคุณอาจมองโลกในมุมใหม่ได้เลย

อย่างน้อยถ้าคุณล้มเหลว คุณก็สบายใจกับอารมณ์เชิงลบที่เกิดขึ้น ไม่ต้องมานั่งกังวลกับมันอีก และเมื่อคุณล้มเหลวมากขึ้น คุณจะคุ้นเคยกับอารมณ์เหล่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปคุณสามารถฝึกตัวเองให้รับมือกับสิ่งแย่ๆ ได้ในแบบของคุณ

 

5. คุณสนใจเรื่องดราม่าไร้สาระเยอะเกินไป

พวกเรื่องดราม่าหนักๆ หากเราใช้เวลากับมันมากมันจะค่อยๆ กัดกินจิตใจเราให้กลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้าย เพราะดราม่าส่วนใหญ่มักเป็นแง่ลบ

 

6. การมีกรอบความคิดแบบตายตัว (Fixed Mindset)

เชื่อว่าทุกอย่างถูกกำหนดมาหมดแล้ว คนเก่งก็คือเกิดมาเก่ง มีพรสวรรค์ คนสำเร็จเพราะเขารวย เพื่อนเราเป็นอย่างไร เคยทำอะไรได้แค่ไหนก็คงได้แค่นี้แหละ เราก็ได้แค่นี้ ก็อยู่ในที่ของเรา คงไม่สามารถเติบโตต่อไปได้ สิ่งนี้จะทำให้เราพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตไปเยอะ

 

7. สูญเสียความหมายของการดำรงอยู่

สิ่งนี้สำคัญมาก เราควรรู้ว่าความหมายของชีวิตเราคืออะไร จุดประสงค์ในการดำรงอยู่คืออะไร มิเช่นนั้นเราจะหลงทางได้ง่าย แต่ถูกชักจูงได้

ความหมายไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ จะเป็นอะไรก็ได้ เช่น แมวที่ฉันเลี้ยงต้องมีชีวิตที่ดี, ฉันมีชีวิตเพื่อสะสมฟิกเกอร์XXX, ฉันอยากรู้ตอนจบของการ์ตูน XXX จะตายตอนนี้ไม่ได้, ตั้งใจเก็บเงินไว้เปย์ไอดอล

แทนที่จะรู้สึกไม่กระตือรือร้นว่าตัวฉันจะเป็นยังไงก็ช่าง การมีจุดประสงค์เหล่านี้จะช่วยให้เราเอาชนะทุกปัญหาอุปสรรคมาให้ได้

 

ออกตามหาความหมายของการชีวิตของคุณที่

 

kinyupen