หลายๆ สิ่งดีๆ ในชีวิตเราไม่สามารถใช้เงินซื้อมันมาได้ เราได้แลกมันมาด้วยบางสิ่ง
โควิดทำให้เราเรียนรู้เรียงลำดับว่าอะไรจำเป็นจริงๆ ต่อชีวิต
มิตรภาพใหม่ๆ ดันให้เราให้เราก้าวจากจุดเดิมๆ ออกไปไกลขึ้น
ยิ่งออกไปไกลยิ่งต้องการน้อยลง
สุขภาพดีไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาล
คนรอบตัวที่ดีช่วยให้ชีวิตเราดี
เปลี่ยนอุปสรรคเป็นความท้าทายคำนี้ใช้ได้เสมอ
ลองค้นหาเป้าหมายที่ท้าทายตัวเองในปีหน้า พาตัวเองออกจาก comfort zone บ้าง อาจจะเป็นสิ่งที่เราอยากทำแต่เรากลัว บางครั้งมันตอบแทนเรามากกว่าที่คิด
มีความหวังดีตักเตือนเราถึงวันชรา ควรเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับ Healthcare cost หลังเกษียณจนวันจากไปเอาไว้
สำหรับโรงพยาบาลเอกชน หมอดีๆ อาจสูงถึง 20 ล้านบาท
เงินล้านหนึ่ง นอน ICU ได้ไม่กี่วันเท่านั้นเอง
ติดเตียง เดือนละหลายๆ หมื่นถึงหลายแสนบาท
ในที่สุดเรามาถึงยุคที่… หวัดสี่พัน ท้องเสียหมื่นหนึ่ง
TDRI คาดการอีก 15 ปี คนไทยอาจใช้จ่ายด้านสุขภาพสูงถึง 2.2 ล้านล้านบาท เราต้องทำงานหนักขนาดไหน เพื่อเอาเงินมาจับจ่ายเข้าถึงโรงหมอดีๆ พวกนี้
เข้าถึงแล้ว ก็ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะกลับมามีสภาพที่ดีแบบเก่า
“สุขภาพดี ไม่มีขาย” ต้องสะสม แบ่งจ่าย หว่านไถ!
Healthy lifestyle ป้ายบอกทางห่างไกลหมอ
คนที่ลืมตาขึ้นมาผูกเชือกรองเท้า ขยันหยอดกระปุก ค่อยๆ ส่งเบี้ย “สุขภาพดี” ทุกๆ วันเท่านั้น ถึงจะลดภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตพวกนี้ได้
นั่นไม่มีค่าเท่ากับเราจะได้ใช้ชีวิตอย่างที่อยากทำจนวันสุดท้าย!
ยุคสมัยที่ความรู้เทคโนโลยีด้านการแพทย์พัฒนาก้าวหน้าขึ้น แต่คนกลับเจ็บป่วยล้นโรงพยาบาล โรคเรื้อรังรุงรังกลับยิ่งมากขึ้น ป่วยง่ายแต่ไม่ตายสักที
เงินไม่ใช่ทางออกสุดท้าย
“Health is not valued till sickness comes.”
สุขภาพไม่มีค่า จนกว่าความเจ็บป่วยจะมาถึง