เราอาจเคยเห็นการปฏิวัติการกินในสังคมเมืองอยู่บ่อยๆ อย่าง อาหารคลีน คีโตน ลดแป้ง ลดอาหารแปรรูป หรือแม้แต่แพลนต์เบส (Plant-based) เพราะสิ่งที่เรากิน เราเอาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน มีผลโดยตรงกับสุขภาพแน่นอน
กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต นำแง่คิดดีๆ จาก พิพัฒน์ ละเอียดอ่อน หรือ Khunphiphat เจ้าของผลงาน 100+ Podcast ที่มาพร้อมกับการไขความลับใช้ชีวิตให้ยืนยาว แต่วันนี้มาในรูปแบบเรื่องราวแง่คิด ชีวิต ใน 100+ Story
อาหารคือยา
การระบาดของโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับอาหาร และพฤติกรรมทุกวันนี้ทั่วโลกได้กระตุ้นให้มีการวิจัยทดลองโดยใช้อาหารเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลและการรักษาผู้ป่วยอย่างเป็นทางการ การเสียชีวิต 1 ใน 5 รายทั่วโลกในปัจจุบัน เป็นผลมาจากการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม มากกว่าปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการสูบบุหรี่
การเข้ามามีบทบาทส่วนร่วม ของอาหารและโภชนาการตามหลักฐาน ผลการวิจัยที่เกิดขึ้นใหม่ ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของการเปลี่ยนแปลง ด้านอาหารและโภชนาการที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกัน การจัดการ การรักษา และแม้กระทั่งในการหายจากการป่วยของโรคเหล่านั้น
เมื่อ “อาหารคือยา” ถูกนำไปใช้ในวงกว้าง จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับผู้ป่วย จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพองค์รวมของประชากร
อย่างไรก็ตาม การตระหนักถึงประโยชน์ด้านสุขภาพถูกขัดขวางโดยการขาดการลงทุนในการวิจัย ความรู้ด้านโภชนาการของแพทย์ในระดับต่ำและการตระหนักรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง และการเข้าถึงบริการและโปรแกรมที่เหมาะสม อย่างจำกัด การจัดการกับความท้าทายเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบรรลุระบบการรักษาพยาบาลที่โภชนาการและอาหารเป็นส่วนสำคัญของการป้องกันและรักษาโรคตามหลักฐานการวิจัย
เมื่ออาหารคือการเข้าแทรกแซงยา รวมถึงอาหารที่ปรับอย่างเหมาะสมทางการแพทย์ (เรียกอีกอย่างว่าอาหารเพื่อการรักษา)
ในสหรัฐอเมริกา บริษัทประกันสุขภาพ กำลังนำเรื่อง “อาหารเป็นยา” มาใช้ โดยหวังว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน เพราะจะได้ลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูง จากหลักฐานที่ปรากฏ นโยบายกำลังทดลองลดค่าพารามิเตอร์ของโครงสร้างการชำระเงินตามมูลค่าหรือโครงสร้างการชำระเงิน เพื่อให้เงินประกันสาธารณะใช้ไปกับอาหารที่เป็นยาได้
อ่าน ต้มยำกุ้ง “ยาถ้วยใหญ่ ที่อร่อยที่สุดในโลก” | 100+ Story
ให้อาหารเป็นยาของท่าน
“Let food be thy medicine”- Hippocrates
