“จดบันทึก” ฟังดูน่าเบื่อ เพราะเรามีการจดบันทึกมายาวนานตั้งแต่สมัยเรียนอยู่แล้ว อย่างจดเลคเชอร์ ลิสต์การบ้านที่ต้องทำ หรือการจดบันทึกการอ่านสมัยประถม ที่ให้จดลงไปว่าอ่านหนังสืออะไรไปแล้วบ้าง มีเรื่องย่ออย่างไร เขียนจนมือหงิกงอ ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไม แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายคนก็เริ่มรู้ประโยชน์ของการจดบันทึกขึ้นมา
คุณอาจเคยเห็นเทรนด์จดงานในไอแพด เขียนโน้ตไว้ในมือถือ หรือการมีสมุดโน้ตคู่กายอยู่บ้าง วันนี้กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต มี ประโยชน์ของการจดบันทึก ที่มากกว่าการจดไว้กันลืม มาฝาก เรียกว่าสมุดโน้ตเล่มเดียวสามารถเปลี่ยนชีวิตได้เลย
สิ่งที่คุณจะได้จากการจดบันทึก
1.การจดบันทึกช่วยกันลืม
จดไว้ก่อน กันลืมว่ามีสิ่งใดบ้างที่ต้องทำ หรือต้องจัดการ ก่อนที่จะหลุดโฟกัสไปเสียก่อน ยิ่งถ้าการเขียนด้วยลายมือของตัวเองจะมีประโยชน์มาก เช่น เวลาไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ถ้าไม่จดไป ใช้วิธีการนึกเอาว่าต้องซื้ออะไรบ้าง กลับมาบ้านคงได้ของไม่ครบแน่ หรืออาจซื้อของซ้ำกับที่มีอยู่แล้วที่บ้าน, มีไอเดียบรรเจิดตอนอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จปุ๊บให้รีบจดไว้ เพราะไม่อย่างนั้นลืมแน่ๆ
2.การจดบันทึกช่วยฝึกบริหารจัดการและเรียงลำดับความสำคัญ
เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว สมัยที่เราต้องลิสต์การบ้านที่ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการเรียนการจดบันทึกถือว่าสำคัญมาก ซึ่งจะช่วยให้ทำสิ่งต่างๆ ง่ายขึ้น คิดและวางแผนอย่างเป็นระบบ เข้าใจสาระสำคัญได้อย่างแท้จริง เห็นภาพและจัดสรรเวลาลงมือทำสิ่งสิ่งนั้นได้อย่างสำเร็จ เรียงลำดับก่อนหลังสิ่งที่ต้องทำ
เช่น การบันทึกเพื่อเคลียร์งาน
- ก่อนเริ่มงาน ลิสต์งานที่เหลือไว้เป็นข้อๆ
- ลิสต์เดธไลน์ / กำหนดส่งงาน
- เรียงลำดับงานที่ต้องทำก่อน-หลัง พิจารณาจากความยาก-ง่าย และความด่วนของงาน (อาจเขียนหมายเลขกำกับไว้)
- ทำงานตามลำดับที่ตั้งไว้ งานไหนที่ทำเสร็จแล้ว ขีดฆ่าไปไดเลยค่ะ
บางครั้งงานไหนที่ยากและด่วน คุณก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้ร่วมงาน เท่านี้ก็ทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ทันเวลา และคุณจะมีความสุขมากแน่นอนเมื่อได้ขีดฆ่างานที่ทำไปแล้ว ทีละงานๆ
3.การจดบันทึกช่วยแก้นิสัย “คิดมาก”
คนที่มีอาการคิดมาก จะมีหลายเรื่องอยู่ในหัว และล้วนเป็นเรื่องสำคัญไปหมด ต้องย้ำคิดย้ำทำ ทบทวนซ้ำไปซ้ำมาเสมอบางครั้งสับสน จับต้นชนปลายไปถูก ให้หยิบปากกากับกระดาษมาสักแผ่น แล้วทำแบบนี้
- จดทุกสิ่งที่มีในหัวออกมาอย่างหยาบๆ
- เรียบเรียงข้อมูลที่ได้จากความคิดมากนี้ ตามลำดับความสำคัญในข้อ 2 เขียนลิสต์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ตัวอย่าง : จดบันทึกรายการหนี้สินที่ต้องชำระ, ค่าใช้จ่าย. ตารางงาน / การนัดหมาย, แผนการลงทุน
หากความคิดทั้งหมดนี้ ถูกจดไว้ในสมุดโน้ตสักเล่ม จะช่วยแบ่งเบาความเครียด และอาการคิดมากไปมากโข เพราะมันช่วยให้มองเห็นภาพรวมของความคิด และมีหลายความคิดที่สามารถเชื่อมโยงกัน จนกลายเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้ได้ แถมมีการวางลำดับไว้เรียบร้อยแล้ว สบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ
4.การจดบันทึกช่วยเล่าความทรงจำ
การบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ เอาไว้จะได้รู้ว่ากว่าชีวิตจะมาถึงวันนี้ได้ต้องพบเจออะไรมาบ้าง มีทั้งเรื่องทุกข์และสุข การเดินทางใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ ที่ผ่านเข้ามาสร้างสีสันในชีวิต ต่อให้บางเรื่องสร้างความทุกข์ใจ เรื่องนั้นก็จะเป็นบทเรียนให้รับมือกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกได้ หรือบางเรื่องที่อาจเป็นเรื่องใหญ่ในตอนนั้น พอวันนี้อาจจะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยและน่าขบขันก็ได้ เขียนแล้วเก็บไว้อ่านสร้างรอยยิ้มและความสุข
วิธีนี้เป็นวิธีที่หลายทำโดยไม่รู้ตัวอยู่แล้ว คือการอัพสเตตัส หรืออัพสตอรี่ลงโซเชียลมีเดียนั่นเอง สิ่งเหล่านี้สามารถบันทึกความทรงจำได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากเห็นเพื่อนคนไหน อัพโซเชียลบ่อยๆ หรือชอบอวดนั่นอวดนี้ ไม่ใช่ว่าพวกเขาขี้อวด หรือว่างมากแต่อย่างใด เขาอาจแค่อยากบันทึกความทรงจำเอาไว้เท่านั้นเอง
5.การจดบันทึกช่วยจัดการอารมณ์ ระบายความรู้สึก
การเขียนบันทึกความรู้สึกถือเป็นปลดปล่อยตัวเองจากเรื่องที่ได้พบเจอ ในแต่ละเหตุการณ์มักมีความรู้สึกบางอย่างซ้อนอยู่ ถือว่าเป็นการระบายความรู้สึกที่ดีอย่างหนึ่ง ที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน และเมื่อเวลาผ่านไปหากได้ย้อนกลับมาอ่านจะเห็นพัฒนาการทางด้านความคิด และอารมณ์ของตัวเองในอดีตด้วย
โดยทางการแพทย์แนะนำว่า การจดบันทึกสามารถนำมาใช้เป็นวิธีการรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เพื่อเรียนรู้ที่จะหาวิธีปลดปล่อยความรู้สึกเศร้า โกรธ ผิดหวัง หรือเสียใจออกมา เพราะอาการซึมเศร้ามักเกิดจากการเก็บกดอารมณ์ความรู้สึกไว้ ทำได้โดยการพูดคุยกับคนที่ไว้ใจได้ ตะโกนหรือร้องไห้ออกมาดังๆ หรือเขียนความรู้สึกลงในสมุดบันทึก
6.การจดบันทึกช่วยให้เราอยากใช้ชีวิตในวันพรุ่งนี้
คล้ายๆ กับอาการตื่นเต้นว่าพรุ่งนี้จะต้องได้กินของอร่อย รู้ไหม? การจดบันทึกช่วยชาร์จพลังในยามเช้าหลังตื่นนอน ช่วยแก้อาการหมดไฟ เบื่อๆ เนือยๆ ช่วงกักตัวอยู่บ้านได้ดี เพียงแค่ ก่อนจะนอนให้จดบันทึกสิ่งที่เราต้องทำ หรืออยากทำของวันพรุ่งนี้เอาไว้ จะช่วยให้เช้าวันใหม่ได้ตื่นเต็มตา และมีเป้าหมายในชีวิตมากขึ้น
นอกจากนี้คนที่ชอบจดบันทึกทุกเรื่อง ทุกเหตุการณ์ ที่พบเจอ นอกจากจะได้เก็บความทรงจำแล้ว ยังเป็นการฝึกทักษะด้านการเขียนไปในตัวด้วย เมื่อสามารถถ่ายทอดความรู้สึกได้ดีแล้ว ก็สามารถนำทักษะนี้ไปต่อยอดเป็นอาชีพได้เช่นกัน เมื่อทำแบบนี้เป็นประจำอาจทำให้คุณผันตัวเองมาเป็นนักเขียนก็ได้ใครจะไปรู้ สร้างงานสร้างรายได้จากสิ่งที่รัก รับรองว่ายังไงก็มีความสุข
รู้อย่างนี้แล้วพกสมุดสักเล่ม แอปพลิเคชันจดบันทึก แล้วชีวิตจะดีขึ้นอย่างแน่นอน