จีนถกเปิดประเทศ 22 ตุลานี้ ปล่อยนักเที่ยวมาไทยปลายปี

0
811
kinyupen

ลุ้นจีนเปิดประเทศ 22 ต.ค. นี้  เลิกโควิด ซีโร่  ยุติห้ามคนจีนเที่ยวนอก  ฉลอง “สีจิ้นผิง” ผู้นำต่ออีกสมัย ททท.ลุ้นนักท่องเที่ยวทะลักไทยปลายปี ฉลองคริสต์มาสยาวถึงตรุษจีน

นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในวันที่ 22 ตุลาคม 2565 พรรคคอมมิวนิสต์ของจีน จะมีการประชุมสมัชชาใหญ่ ในโอกาสครบรอบ 100 ปี ซึ่งจะมีวาระสำคัญ ๆ ที่มีผลต่อนานาประเทศทั่วโลก กล่าวคือ นอกเหนือจากการจับตาว่า “สี จิ้นผิง” จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของจีนต่ออีกสมัยหรือไม่ หลังครบ 2 สมัย รวมถึงวาระการแถลงนโยบายขับเคลื่อนประเทศจีนในอีก 100 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ มีการคาดหมายกันว่า จีนน่าจะมีการประกาศความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ว่าจะเดินหน้านโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” (Zero Covid) ต่อ หรือผ่อนคลายมากขึ้น

“ตอนนี้มีการถกเถียงกันอย่างหนักในประเทศจีนว่า จะดำเนินนโยบายซีโร่โควิดต่อ หรือจะผ่อนคลายเพื่อกระตุ้น

ททท.คาดหวังว่า รัฐบาลจีนจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ ให้ชาวจีนออกท่องเที่ยวนอกประเทศได้มากขึ้น! ทำให้เกิดกระแสการเดินทางฟื้นตัวชัดเจนปลายปีนี้เป็นต้นไป โดยเฉพาะเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ต่อเนื่องไปถึงช่วงจับจ่ายใช้สอยช่วงวันหยุดยาว หรือ โกลเด้นวีค “เทศกาลตรุษจีน 2566” ซึ่งตรงกับปลายเดือนมกราคม 2566

จากการสอบถามผู้ประกอบการเอเย่นต์ทัวร์ในจีน 55 ราย จากงาน “ไทยแลนด์ ทราเวล มาร์ท พลัส 2022” (TTM+ 2022) เมื่อ 8-10 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่ภูเก็ต ต่างระบุว่า “ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางแรกที่ชาวจีนอยากมาเที่ยวมากที่สุด!” และเท่าที่มีการเปิดขายแพ็คเกจทัวร์ล่วงหน้ามาก็ขายหมดทุกรอบ

ททท.คาดการณ์ว่าหากรัฐบาลจีนประกาศผ่อนคลายให้ชาวจีนออกท่องเที่ยวนอกประเทศได้มากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 นี้เป็นต้นไป อาจเริ่มต้นจากโครงการนำร่อง 9 เมืองในประเทศจีน ได้แก่ ต้าเหลียน ปักกิ่ง เฉิงตู หนานจิง เซี่ยงไฮ้ เซียะเหมิน กว่างโจว เซินเจิ้น และฝูโจว

ส่วนใหญ่เป็นเมืองทางตอนใต้ของจีน จะทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยตลอดปี 2565 จำนวนรวมไม่น้อยกว่า 5 แสนคน หนุนแรงส่งถึงปี 2566 ซึ่ง ททท.ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวจีนมาไทย 4 ล้านคน คิดเป็นการฟื้นตัว 30-40% เมื่อเทียบกับปี 2562

“มั่นใจว่ารัฐบาลจีนน่าจะทยอยเปิดบางพื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อต่ำก่อน โดยการเปิด 1 มณฑลของจีนซึ่งมีจำนวนประชากรสูงพอๆ กับประเทศไทย ก็สามารถเข้ามาช่วยหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจไทยได้แล้ว”

แม้ที่ผ่านมารัฐบาลจีนจะไม่ได้ห้ามไม่ให้มีการเดินทางระหว่างประเทศ แต่ก็ไม่ได้ส่งเสริม โดยคุมเข้มด้วยนโยบาย “ซีโร่ โควิด” และนโยบาย “5 ต่อ 1” (Five-One) กดจำนวนเที่ยวบินภายใต้ข้อกำหนด 1 สายการบิน สามารถทำการบินได้ 1 สัปดาห์ / 1 เที่ยวบิน / 1 เมือง / 1 ประเทศ เท่านั้น

พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนจีนว่าถ้าไม่จำเป็น อย่าเดินทางออกนอกประเทศ เพราะมองว่าเสี่ยงต่อการนำเชื้อ “โควิด-19” เข้ามาแพร่ต่อเมื่อเดินทางกลับประเทศ ถือเป็นความเสี่ยงต่อ “ความมั่นคงของชาติ” ส่งผลให้ “ราคาตั๋วเครื่องบินขาเข้าจีน” แพงมาก พุ่งเป็น 40,000-60,000 หยวน หรือประมาณ 2-3 แสนบาทต่อเที่ยว เนื่องจากมีดีมานด์สูง

สวนทางกับจำนวนเที่ยวบินที่ยังมีน้อยมากๆ ต่างจากราคาตั๋วเครื่องบินขาออกจากจีน ขายที่ราคา 2,000 หยวน หรือประมาณ 10,000 บาทต่อเที่ยว

นอกจากนี้ยังมีบทลงโทษแก่สายการบิน ในกรณีตรวจพบภายหลังว่าผู้โดยสารของสายการบินนั้นๆ ติดเชื้อเมื่อเดินทางกลับถึงประเทศจีน จะลงโทษไม่ให้ทำการบิน 2 สัปดาห์ และเมื่อพ้นการลงโทษแล้ว จากที่เคยทำการบินภายใต้ข้อกำหนด 5 ต่อ 1 จะอนุญาตให้ทำการบินได้เพียง 1-2 เที่ยวบินต่อเดือนเท่านั้น

จากสถิติในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.2565) มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยรวม 36,246 คน ส่วนใหญ่เป็น “นักธุรกิจ” กว่า 70% เมื่อเดินทางเข้ามาทำธุรกิจในไทยแล้ว ก็อยู่เที่ยวต่อให้คุ้ม อยู่ยาวเป็นเวลานาน 2-3 เดือน ใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 6,000 บาทต่อวัน หรือไม่น้อยกว่า 360,000 บาทต่อทริป โดยหลายคนซื้อบัตร “อีลิทการ์ด” ที่เอื้อต่อการเดินทางมาลงทุน ทำงาน และพาครอบครัวมาพำนักในไทยด้วย

รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ เปิดให้กลุ่มนักธุรกิจ นักเรียนและนักศึกษาสามารถเดินทางมาประเทศไทย โดยทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) ได้แจ้งเรื่องดังกล่าวมายัง กพท.ให้โควต้าสายการบินสัญชาติไทย สามารถเปิดทำการบินระหว่างไทย-จีนได้ 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ทั้งนี้ สายการบินสามารถทำการบินได้ทุกเมืองที่เคยทำการบิน ยกเว้นปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ เบื้องต้นมีสายการบินขอทำการบินมายัง กพท.แล้ว ประกอบด้วย การบินไทย, ไทยสมายล์, ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยแอร์เอเชีย

จะเปิดทำการบินไปยังเมืองกว่างโจว โดยการบินไทยจะเริ่มทำการบินวันที่ 18 มิถุนายนนี้ ขณะที่สายการบินไทยเวียตเจ็ท มีแผนทำการบินไปยังเมืองคุนหมิง ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว ส่วนสายการบินนกแอร์ แจ้งขอทำการบินไปยังเมืองหนานหนิง

kinyupen

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here