“แรงดึงดูดที่อันตราย” ทฤษฎีรัก ที่ทำให้หลายคนเลิกกัน

0
835
kinyupen

ใครว่าความรักไม่มีทฤษฎีตายตัว การที่คนเคยรักกันมาก กลับกลายเป็นเบื่อขี้หน้ากันก็มีงานวิจัยกับเขาเหมือนกันนะ กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต มีทฤษฎีความรักที่ทำให้ต้องเลิกกันบ่อยๆ มาฝาก

 

มันน่าตื่นเต้นมากในตอนแรก ที่ได้ตกหลุมรักคนที่มีลักษณะนิสัยแตกต่างกัน เช่น คนเงียบขรึมชอบคนเปิดเผย คนเก็บตัวชอบคนมีสังคม ชอบเฮฮาปาร์ตี้ มันเป็นสีสัน เหมือนโลกใบใหม่ที่ท้าทาย สิ่งที่ตรงข้ามไลฟ์สไตล์เราโดนครอบงำด้วยความหวาน

จนวันหนึ่งเราเริ่มเหนื่อย เริ่มรู้สึกว่าไม่ชอบ สิ่งที่เคยหลงใหลในตัวเขากลับทำให้เราหัวเสียซะงั้น

“คุณพาฉันออกทริปมากเกินไปแล้ว”

“…ตอนแรกเธอก็ชอบฉันเพราะแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?”

 

 

ดร.Paul Schrodt แห่งภาควิชาการสื่อสาร Texas Christian University ชี้ว่านิสัยทุกอย่างมีทั้งด้านดีและด้านเสีย ก็แน่แหละ คนชอบเที่ยวคงไม่ชอบอยู่ติดบ้านหรอก คนอ่อนหวาน ช่างเอาใจใส่ ก็เป็นคนอ่อนไหวง่าย เป็นนิสัยแบบนี้อยู่แล้ว

ซึ่งปกติแล้วคนเรามักจะหลงใหลในด้านดีของลักษณะนิสัยต่างๆ นั้น และมักมองข้ามด้านเสียไปในช่วงแรก อีกสาเหตุหนึ่งคือช่วงแรกๆ เรามักคล้อยตามกัน แล้วเก็บด้านมืดไว้ จนกระทั่งเผยให้เห็นอย่างชัดเจนในภายหลัง

 

เหล่าความสัมพันธ์ที่เกิดจากแรงดึงดูดตรงข้าม แล้วพังในท้ายที่สุดแบบนี้ ดร.Diane Felmlee แห่งภาควิชาสังคมวิทยา Penn State University เรียกว่า “แรงดึงดูดที่อันตราย” (Fatal Attraction) ซึ่งแบ่งคู่รักที่มีนิสัยต่างกัน 3 แบบดังนี้

  • ชอบคนตลก สนุกสนาน แต่ต่อมามองว่าเขาโง่เขลา
  • ชอบคนเข้มแข็ง พึ่งพาได้ แต่ต่อมามองว่าความเด็ดขาด เป็นการควบคุมจัดการ
  • ชอบคนอินดี้ ไม่เหมือนใคร สุดท้ายเบื่อ ไม่อยากเดา เพราะความหุนหันพลันแล่น

 

นานแค่ไหนกว่าจะเจอเอฟเฟคจาก “แรงดึงดูดที่อันตราย”

ดร.Diane Felmlee บอกว่า ระยะเวลาที่คู่รักจะมีความรู้สึก “หมดโปรฯ” รู้สึกเปลี่ยนไป ไม่ชอบในบุคลิกนั้นๆ สั้นยาวไม่เท่ากัน อาจจะหมดโปรฯ เพียงแค่ 6 เดือนหรืออาจยาวนานหลายปี แต่ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นหลังจากมีบุตร หรือมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต

สุดท้ายจากความสัมพันธ์ที่คุ้ยเคยก็กลายเป็นการดูถูก ทั้งๆ ที่ไม่มีใครเปลี่ยน แต่คนๆ หนึ่งจะน่ารําคาญถ้าคุณอยู่ใกล้เขาหรือเธอตลอดเวลา

 

แล้วเราจะทํายังไงกันดี?

ก่อนอื่นดร. Felmlee กล่าวว่าเราต้องตระหนักว่าเราไม่สามารถดีไปซะทุกเรื่องได้ นิสัยลักษณะเชิงบวกย่อมต้องมีด้านลบ

“ถ้าคุณรักอารมณ์ขันของพวกเขา พวกเขาจะล้อเล่นผิดที่ผิดเวลา”
“ถ้าพวกเขาเป็นประเภทที่แข็งแกร่งและเงียบ พวกเขาจะไม่สามารถแสดงอารมณ์ได้มากเท่าที่คุณต้องการ”

เราต้องตระหนักถึงข้อจํากัดของเราเอง ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ

 

Karen Ruskin นักบําบัดการแต่งงานที่ได้รับใบอนุญาตและนักบําบัดครอบครัวใน Sharon, Mass แนะนำให้ เตือนตัวเองถึงสิ่งที่คุณถูกดึงดูดในตอนแรก และยังคงชื่นชมในคู่สมรสของคุณ” เพียงใช้เวลา 2-3 นาทีในการไตร่ตรองสิ่งเหล่านี้ทุกวัน

“สิ่งนี้ทําให้การสนทนาที่ยาก ง่ายขึ้น” Toni Coleman นักสังคมสงเคราะห์ที่ได้รับใบอนุญาตใน McLean, Va กล่าว

 

สุดท้าย…ให้พิจารณาว่าคนรักของคุณให้ความสมดุลอย่างไร

Julie Hanks นักสังคมสงเคราะห์คลินิกในซอลท์เลคซิตี้กล่าว นิสัยที่น่ารําคาญของคู่ของคุณช่วยให้ลูกๆ ของคุณพบความสมดุลได้อย่างไร? ชีวิตของคุณจะต่างไปจากตอนนี้อย่างไร หากปราศจากอิทธิพลของคู่ของคุณ?

 

สิ่งเหล่านี้ช่วยสนับสนุนความรัก และสอนให้เราตระหนักถึงความต้องการของกันและกันมากขึ้น มันไม่เป็นไรเลยหากเราเข้ากันไม่ได้ 100% ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้อีกฝ่ายรู้สึกต้องเปลี่ยนตัวเอง สิ่งสำคัญอยู่ที่เราทั้งคู่มีความสุข แม้บางเวลาเราอาจต้องห่างกันสักพักก็ตาม

 

กินอยู่เป็นขอขอบคุณข้อมูลจาก The Wall Street Journal

kinyupen