Metaverse ด้วย VR ราคาหมื่นต้นๆ ไม่มีต้องมีฉากเขียว ห้องแคบก็เล่นได้

0
1191
kinyupen

เราเคยคิดว่าแว่น VR เป็นอุปกรณ์ที่ราคาแพง ต้องมีคอมสเปกสูงในการเชื่อมต่อ ต้องมีสายพะรุงพะรังยึดกับเพดาน ข้อจำกัดเยอะแยะ แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว เพราะมันมี VR ไร้สาย พกง่าย ราคาไม่แพง จากเครือ Facebook ซึ่งวางขายมานานแล้ว

 

 

บริษัท Facebook ที่เปลี่ยนชื่อเป็น Meta ไปแล้ว เพิ่งวางแผนดันโลกไปสู่ ‘Metaverse’ เสียเมื่อไหร่ เพราะพี่มาร์คเขาวางแผนมาสักพักแล้ว

 

หลายคนคงไม่รู้ว่ามีแบรนด์ VR ในเครือ Facebook ที่ชื่อว่า Oculus วางขายแล้วตั้งแต่ปี 2016 แต่รุ่นที่โด่งดังที่สุดคือ Oculus Quest ซึ่งได้เปิดตัวเมื่อปี 2019 และในปี 2022 แว่น VR แบรนด์นี้จะเปลี่ยนชื่อเป็น Meta Quest

วันนี้กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต จะพาคุณเปิดโลกใบใหม่ เตรียมเข้าสู่ Metaverse โดยเริ่มจากพาไปทำความรู้จัก VR ก่อนเป็นอันดับแรก พร้อมป้ายยา VR Headset รุ่น Quest ที่ใช้ง่ายสุดๆ

 

เมตาเวิร์ส (Metaverse) คืออะไร? ว่าง่ายๆ มันก็คือโลกเสมือน ที่ผู้คนสามารถเข้าไปพบเจอกันได้ เป็นพื้นที่ดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้นให้เหมือนจริง เหมือนเราอยู่อีกโลกหนึ่ง

 

VR ทำอะไรได้บ้าง

1. เล่นเกม

 

เช่น Beat saber เพิ่มพลังเจได ฟันโน้ตตามจังหวะเพลง

2. ออกกำลังกาย

เช่น ต่อยมวย บาสเกตบอล ปิงปอง เทนนิส แดนซ์ ฟันดาบ ฯลฯ

 

เหล่าพ่อบ้านที่กลัวมีปัญหากับแฟนเพราะ VR สุดท้ายแฟนต้องสลบให้เกมออกกำลังกาย

 

3. ดูหนัง ชมภาพยนตร์แบบ 3D

4. ประชุม / มีตติ้งกับเพื่อนผ่านแอปฯ เสมือนจริง เช่น VRchat จะเห็นอวาตาร์ของเพื่อนๆ อยู่ในนั้น

 

ภาพจาก www.windowscentral.com

5.วาดรูป / สร้างโมเดล 3D

 

ภาพจาก https://www.blognone.com/node/120843

6. เสพ 18+ ได้อย่างมีอรรถรส แถมไม่มีใครเห็นว่าเรากำลังดูอะไรอยู่ (!)

7. ใช้เรียนรู้ในโลกสมมติ ก่อนปฏิบัติจริง เช่น การทำอาหาร การผ่าตัด

 

คำถามที่พบบ่อย

  • คนใส่แว่นเล่นได้ไหม?

ได้ สามารถสวม VR Headset ครอบแว่นไปได้เลย โดยทั่วไปอุปกรณ์ VR สามารถปรับระดับสายตา ความแน่นหนาเพื่อไม่ให้อึดอัดจนเกินไป ส่วนใครที่ซื้อ Oculus Quest ในกล่องจะมีอุปกรณ์เสริมสำหรับคนใส่แว่นแถมมาให้อยู่แล้ว

แต่คุณสามารถสั่งทำเลนส์พิเศษให้ตรงกับค่าสายตาของคุณ แล้วนำมาติด VR Headset ได้เช่นกัน คู่ละประมาณ 1-2 พันบาท

 

  • VR จะทำตาเสีย ตาเสื่อมเร็ว เพราะเอาตาจ่อใกล้ๆ จอนานๆ จริงหรือไม่?

ไม่จริง VR ไม่ได้ทำให้ตาเสีย ในแว่น VR จะมีเทคโนโลยีที่ทำให้ภาพซึ่งอยู่ในระยะใกล้ ถูกดึงออกไปเป็นภาพเสมือนจริงที่อยู่ระยะไกล ดังนั้นก็เหมือนการมองภาพทั่วไป ไม่ได้เกิดจากการเพ่งมองวัตถุที่อยู่ติดบริเวณลูกตาเหมือนการใช้สมาร์ตโฟน

แต่เราสามารถเวียนหัว ปวดตาได้หากใช้ VR นานเกินไป เช่นเดียวกับการใช้สายตาทั่วๆ ไปเป็นระยะเวลานาน จึงควรกำหนดระยะเวลาพักสายตาอย่างเหมาะสม

 

ที่มา ชัวร์ก่อนแชร์ : เล่นเกม VR ทำให้สายตาเสียได้ จริงหรือ ? 

 

  • อยากเล่น VR ต้องมีห้องใหญ่ๆ มีฉากเขียว (Green screen) และ Tracking หรือไม่?

ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว Facebook (ที่เปลี่ยนชื่อเป็น Meta แล้วเนี่ยแหละ) ได้ออกแว่น VR ที่ชื่อว่า Oculus Quest เมื่อ 2019 ปีที่ผ่านมา เป็น VR Headset ที่ไม่ต้องมีอะไรเลยก็เล่นได้แล้ว เพราะ Oculus Quest มีกล้อง 4 ตัว ตรวจจับได้รอบทิศ

สวมหัวแล้วใช้ได้เลย ไร้สาย ไม่ต้องมีฉากเขียว ห้องไม่ต้องกว้าง ไม่ต้องใช้ Tracking ไม่ต้องเตรียมอะไรเลย แค่เคลียร์พื้นที่นิดหน่อยเท่านั้น

 

Oculus Quest 2 ไร้สายเกะกะ แต่พลังสูง

Oculus Quest มาแรงสุดๆ ช่วงนี้ เพราะเป็น VR standalone All in one ตัวเดียวใช้ได้เลย ราคาถูกกว่า iPad มินิเสียอีก ซึ่งเปิดตัวมาแล้ว 2 รุ่น

 

  • Oculus Quest 1

64 GB ราคา 269.90 usd : ประมาณ 8,936 บาท (อ้างอิงจาก Amazon)

 

  • Oculus Quest 2

128 GB ราคา 299.00 usd : ประมาณ 9,900 บาท

256 GB ราคา 399.00 usd : ประมาณ 13,211 บาท

(อ้างอิงจาก Amazon)

 

แต่หากซื้อจากร้านค้าในประเทศไทย Oculus Quest 2 128 GB จะราคาประมาณ 14,xxx บาท ส่วน Oculus Quest 2 256 GB ราคาประมาณ 20,000 บาท

 

จะเห็นว่าซื้อรุ่น 2 คุ้มกว่า รุ่นนี้ขนาดเบาขึ้น ขนาดพื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้น สเปกสูงขึ้น ในราคาที่ไม่ต่างกันเลย

หลุดดีไซน์ใหม่ Oculus Quest Pro

 

 

VR กับคนไทย ไกลตัวไปไหม?

VR ไม่ได้ไกลตัวคนไทยขนาดนั้น เพราะในประเทศไทยเราเองก็มีคนกลุ่มนึงใช้แว่น VR ทำกิจกรรมต่างๆ กันมาหลายปีแล้ว เพียงแต่ไม่ได้เป็นกลุ่ม Mass

 

กลุ่มคอมมูนิตี้คนไทยต่างๆ เกี่ยวกับ VR

รู้ก่อนซื้อ VR

ระวัง VR Motion Sickness หรือ อาการเมา VR

หลายคนตัดสินใจขาย VR ทิ้ง เพราะเข้าใจว่าตัวเองไม่เหมาะกับ VR อาการคือ เล่น VR สักพักแล้วมึนหัว จะอ้วก คล้ายๆ เมารถ เมาเครื่องบิน ยิ่งใช้งานแบบที่ต้องเดินในแว่น ต้องเคลื่อนไหวเยอะๆ ในโลกเสมือนยิ่งมึน

 

เรื่องนี้ปกติมาก สาเหตุตารับข้อมูลมาอย่างนึงจาก VR แต่ร่างกายของรับข้อมูลมาอีกอย่าง ทำให้มันไม่สอดคล้องกันจนสมองเกิดอาการงง

 

ทางแก้

หยุดเล่นซักพัก ควรใช้ VR ค่อยเป็นค่อยไป ฝึกเล่น VR ให้ชิน อาการเหล่านี้จะหายไปเองได้ โดยเริ่มจากเกมที่ไม่เคลื่อนไหวมาก อย่าเพิ่งวิ่ง กระโดด หรือบิน เลี่ยงเกมที่ Framerate ต่ำ ปรับ Eye-to-Eye Distance ให้เหมาะสมกับเรา เพื่อให้ภาพคมชัดขึ้น

 

 

ในฐานะที่ผู้เขียนเองก็มีแว่น VR เหมือนกันต้องยอมรับว่าโลกเสมือนสนุกจริงๆ และมันน่าเสียดายมากหากคุณยังไม่ได้ลองดูสักครั้ง

หากโลกเสมือน อินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีต่างๆ ไปได้ไกล อนาคตในยุค Metaverse เราอาจได้เห็นแว่น VR กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนมีติดตัวแทนสมาร์ตโฟน ภาพผู้คนสวมแค่แว่นที่ดูธรรมดา ๆ แต่สามารถทำอะไรได้มากมายเหนือจินตนาการก็เป็นได้

 

kinyupen