เพราะ Podcast ธนาคารความสุข ep 3 พูดถึงนัยของความรักที่มี 2 ด้านคือ สุขและทุกข์ ดีและร้าย โดยมุมมองของความรักจะเปลี่ยนไปตามช่วงวัย และอายุ ที่ยกความหมายมาจากเพลง Both Sides Now ของ โจนิ มิชเชล (Joni Mitchell) ที่ถูกใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง Love Actually กินอยู่เป็น 360 องศา Podcast ธนาคารความสุขของ เอ็ดดี้ พิทยากร ลีลาภัทร์ ได้เห็นภาพครบทุกมิติ
Both Side Now เป็นเพลงที่โจนิ มิชเชล แต่งขึ้นมาโดยได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือเรื่อง ‘Henderson The Rain King ‘ของ Saul Bellow ในหมู่นักวิจารณ์เพลงจะชื่นชมเพลง Both Side Now ว่าเป็นเพลงที่ฟังแล้วให้พลังบวกเพราะความหมายของเพลงช่วยเตือนสติให้เรามองสิ่งต่างๆ บนโลกในแบบที่เป็นให้ครบทั้ง 2ด้าน
ความหมายของเนื้อเพลงโดยสรุปต้องการสื่อว่าทุกอย่างของชีวิตมี 2ด้านเสมอ หลายคนที่มีความรักแต่ไม่ได้รู้จักความรัก เพราะบางคนหลงเพียงภาพมายาว่าเป็นสิ่งสวยงามหากในความจริงเมื่อมองทั้ง 2ด้าน ก็เสมือนด้านบนและด้านล่างของก้อนเมฆ ที่ด้านบนเป็นสิ่งสวยงาม ชวนฝันแต่ด้านล่างเมฆก็เป็นตัวที่ก่อให้เกิดฝน เกิดหิมะเป็นอุปสรรค ความรักก็เหมือนกันที่มีทั้งภาพความสุขและความไม่จริงใจ มีทั้งให้และรับ เฉกเช่นเดียวกับชีวิตของคนเราที่มีทั้งวันแพ้และวันชนะ
ส่วนภาพยนตร์ Love Actually ที่เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์รักในดวงใจของใครหลายคน เพราะหยิบเอาความรักในรูปแบบต่างๆ ของคนหลากหลายอาชีพเดินเรื่องเชื่อมโยงกับเทศกาลคริสต์มาส โดยเพลง Both Side Now ที่เป็นทั้งชื่อเพลงและชื่ออัลบั้มของ โจนิ มิชเชล จะอยู่ในเรื่องของคู่สามีภรรยา ที่สามีชื่อ Harry (Alan Rickman) และภรรยาชื่อ Karen (Emma Thompson) ฉลองวันคริสต์มาสกับลูกๆ สองคน ที่บ้าน มีการแกะของขวัญซึ่งสิ่งที่ภรรยาได้รับจากสามีคือ CD อัลบั้มชุดนี้ นั่นคือเหตุและที่มาที่ภรรยารู้ว่าสามีไปมีใจให้หญิงอื่น เพราะก่อนหน้านี้ Karen แอบเห็น Harry ซื้อสร้อยคอและเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อนอก เลยเข้าใจไปว่า จะได้เป็นของขวัญวันคริสต์มาส
ทั้งหมดเป็นที่มาของเพลง และภาพยนตร์ที่กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตเชื่อว่าแฟนคลับของพิทยากร ลีลาภัทร์จะฟัง Both Side Now มองโลกสองด้านตามความจริง ใน ep 3 ได้สนุกครบทุกมิติ เพราะชีวิตมีหลายด้านมองอย่างเข้าใจให้ครบ ๆ จะได้ไม่เจ็บปวดมากนัก ขอเพียงตามความคิดและสติให้ทัน