“การวิ่ง” ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด

0
1288
กินอยู่เป็น_การวิ่ง-ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด_web
kinyupen

 ในยุคปัจจุบัน หลายคนเริ่มหันมาสนใจเรื่องของสุขภาพมากขึ้น จะเห็นได้จากการลุกขึ้นออกมาวิ่งในสวนฯ หรือตามงานวิ่งต่าง ๆ ที่จัดขึ้นแทบทุกสัปดาห์ แต่สำหรับคนที่ยังไม่ลุกขึ้นมาออกกำลังกาย รู้ไหมว่า “การวิ่ง” ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิดไว้เยอะเลย กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต รวบรวมคำตอบไว้ให้แล้ว

กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต ขอนำเสนอเรื่องราวดี ๆ เอาใจคนรักการออกกำลังกาย โดยเฉพาะ “การวิ่ง” เพราะการวิ่งถือเป็นการออกกำลังกายโดยแทบจะไม่ต้องลงทุนค่าใช้จ่ายอะไรมากมาย บางคนชอบการออกมาวิ่งตามงานวิ่งต่าง ๆ จนกลายเป็นว่าตอนนี้ การวิ่งเพื่อสุขภาพกำลังได้รับความนิยมและกำลังจะเป็นเทรนด์ใหม่ของคนรักสุขภาพทุกเพศทุกวัยไปแล้ว

ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่คนสมัยนี้หันมาใส่ใจและให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพและการออกกำลังกายมากขึ้น แต่สำหรับคนที่มีความคิดว่า วิ่งแล้วเหนื่อย ต้องลองกลับไปคิดทบทวนดูใหม่ เพราะความจริงแล้ว “การวิ่ง” ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิดด้วยซ้ำ

วิ่งบ่อย ๆ ร่างกายจะ “ไม่เหนื่อย”

สำหรับคนที่เริ่มต้นการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ช่วงแรก ๆ ก็จะมีอาการแบบว่า วิ่งแปปเดียวก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว ขอให้อดทนไว้ เพราะเมื่อคุณวิ่งบ่อย ๆ ร่างกายจะคุ้นชินไปเอง แล้วคุณจะสามารถวิ่งได้ไกลขึ้นในแต่ละครั้ง และแน่นอนว่ามันส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างอื่นด้วย เช่น เดินกลับบ้าน เดินจากที่ทำงานไปขึ้นรถหน้าปากซอย เดินขึ้น-ลงบันได หรือเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า เราจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลย

วิ่งบ่อย ๆ ลดการปวดประจำเดือนได้

สำหรับคุณสุภาพสตรีที่อยู่ในช่วงการเริ่มออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังปรับให้เคยชินกับการออกกำลังกาย ลองสังเกตดูว่า อาการปวดท้องน้อยลดลงไหม เมื่อวิ่งบ่อย ๆ การปวดประจำเดือนจะอยู่ในระดับที่เราสามารถทนได้ ทนได้แบบว่าเราไม่ต้องรับประทานยาแก้ปวดอีกต่อไป

วิ่งบ่อย ๆ ทำให้เราอยากตื่นแต่เช้า

หลายคนที่ชื่นชอบการวิ่งจะมีความรู้สึกแบบนี้ คือ จะตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อลุกขึ้นมาวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะ สัมผัสบรรยากาศต้นไม้เยอะ ๆ เพราะการวิ่งในสวนสาธารณะเป็นจุดที่บังคับให้ตัวเราลุกขึ้นตื่นเช้าออกไปวิ่ง เพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อน สาย ๆ หน่อยก็ร้อนแล้ว หากทำแบบนี้ทุก ๆ วัน ก็จะฝึกให้เราที่เคยตื่นสายวันเสาร์-อาทิตย์ เปลี่ยนมาเป็นคนตื่นเช้าไปโดยอัตโนมัติ ทำให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่ง นอกจากนี้ เรายังจะมีเวลาไปทำกิจวัตรประจำวันอย่างอื่น ๆ มากขึ้นในแต่ละวันอีกด้วย

วันไหนไม่ได้วิ่ง วันนั้นจะเกรี้ยวกราด!

สำหรับคนที่วิ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน จะมีความรู้สึกว่าหากวันใดวันหนึ่งไม่ได้ไปวิ่งออกกำลังกายก็จะรู้สึกไม่ดี เหมือนทำผิดอะไรสักอย่าง เราจะรู้สึกอารมณ์ไม่ดีที่ไม่ได้ไปวิ่ง นั่นถือเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้เราต้องผลักตัวเองให้ตื่นขึ้นมาวิ่งให้ได้

 

สุดท้าย การเริ่มต้นวิ่งออกกำลังกายไม่ยากอย่างที่คิดไว้เลย เพียงแค่ตัวคุณต้องมีความขยัน พยายาม ฝึกความมีวินัยในตนเอง อย่างน้อยลุกจากเตียงให้ได้ตนเช้าตรู่ เริ่มแรกค่อย ๆ ลองเดินเรื่อย ๆ ก่อน จากนั้นค่อย ๆ เริ่มวิ่ง เหนื่อยก็เปลี่ยนเป็นเดิน อย่าหักโหม ไม่ไหวอย่าฝืน แรก ๆ ได้ 1-2 กิโลเมตรก็ถือว่าเก่งมาก ๆ แล้ว ทำแบบนี้บ่อย ๆ เป็นกิจวัตรประจำวัน ร่างกายเราจะเหนื่อยน้อยลง จนสามารถวิ่งได้ในระยะทางเยอะขึ้น แล้วความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายจะค่อย ๆ ส่งผลเอง นี่ล่ะ “การวิ่ง” ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิดจริง ๆ และนี่คือวิถีแห่ง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต

kinyupen