“เบอร์เบอรี่” เลิกเผาสินค้าค้างสต็อค-ขายไม่ออก หลังถูกโจมตีเรื่องสิ่งแวดล้อม

0
383
เบอร์เบอรี่-เลิกเผาสินค้าค้างสต็อค-ขายไม่ออก-หลังถูกโจมตีเรื่องสิ่งแวดล้อม_web
kinyupen

กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต พาไปติดตามเรื่องราวของ “เบอร์เบอรี่” (Burberry) แบรนด์หรูชื่อดังของอังกฤษ ประกาศยกเลิกการเผาสินค้าค้างสต็อก หลังถูกหลายฝ่ายออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยเรื่องของการสูญเสียทรัพยากรของวงการแฟชั่นไปโดยเปล่าประโยชน์

อุตสาหกรรมแบรนด์แฟชั่นในต่างประเทศถือเป็นที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่ามีหลากหลายแบรนด์สินค้าชื่อดังจากหลายประเทศมีการคิดค้นและออกแบบสินค้าสำหรับแฟชั่นออกมา เพื่อตอบโจทย์ประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่ามีหลากหลายแบรนด์สินค้าที่มีการผลิตสินค้าออกมาแข่งขันในท้องตลาดกันอย่างดุเดือด ส่งผลทำให้บางแบรนด์สินค้าชื่อดังก็ประสบปัญหา ได้รับผลกระทบเรื่องของการจำหน่ายสินค้าและยอดขายไปด้วย

หนึ่งในนั้นคือ “เบอร์เบอรี่” (Burberry) แบรนด์หรูชื่อดังของอังกฤษ ที่ตัดสินใจแก้ปัญหาสินค้าค้างสต็อกด้วยการเผาทำลายสินค้า ทำให้หลายฝ่ายรู้สึกไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาด้วยวิธีดังกล่าว จนกระทั่งเบอร์เบอรี่เองก็ทนกระแสไม่เห็นด้วยไม่ไหว ต้องออกมาประกาศยกเลิกการเผาสินค้าค้างสต็อกเพื่อปกป้องชื่อเสียงของแบรนด์ ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เผาทำลายสินค้ามูลค่าเกือบ 40 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งเป็นการจุดประกายให้เกิดความขุ่นเคืองเรื่องของการสูญเสียทรัพยากรของวงการแฟชั่นไปโดยเปล่าประโยชน์ และนอกจากจะยกเลิกการเผาสินค้าแล้ว เบอร์เบอรี่แถลงว่าจะยกเลิกใช้ขนสัตว์จริง เช่น ขนมิงค์ แรคคูน เพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาผู้ขายสินค้าหลายรายถูกประท้วงในเรื่องของการทำลายสินค้าค้างสต็อก ตลอดจนการแทงหรือเจาะรูสินค้าเสื้อผ้าก่อนที่จะโยนทิ้ง โดยปีงบประมาณที่สิ้นสุดเมื่อเดือนเมษายน 2561 เบอร์เบอรี่ได้ทำลายสินค้าสำเร็จรูปมูลค่า 37.29 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีการทำลายสินค้ามูลค่า 35.08 ล้านดอลลาร์ รวมไปถึงการทำลายน้ำหอมมูลค่า 13.04 ล้านดอลลาร์ ส่วนสาเหตุของการเผยทำลายสินค้านั้น เนื่องจากทางเบอร์เบอรี่ต้องการป้องกันการลักลอบนำสินค้าที่ค้างสต็อคไปจำหน่ายในราคาที่ถูกลง ซึ่งถือเป็นการลดคุณค่าของแบรนด์ “เบอร์เบอรี่” อย่างมาก และนี่คือหนึ่งในวิถีแห่ง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต

kinyupen