“หนี้สิน” ของคู่กายของเหล่ามนุษย์เงินเดือน กินอยู่เป็น แนะนำให้ลองเปลี่ยนมุมมองของ “หนี้สิน” ให้เป็นกำลังใจที่ดีในการทำงาน เราก็จะสามารถใช้ชีวิตในการทำงานได้อย่างมีความสุข เพื่อหาเงินมาใช้หนี้และสามารถ “ปลดหนี้” ที่มีอยู่ให้หมดไปในที่สุด
“การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริญ” ใช่แล้ว! คงไม่มีใครที่อยากจะเป็นหนี้เป็นสินกันสักเท่าไหร่ แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกมากนักที่มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่จะมีภาระหนี้สินติดตัวกัน เพราะลำพังเงินเดือนแต่ละคนที่ได้รับนั้นก็ไม่เพียงพอกับรายจ่ายที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน แต่ก็ต้องอดทนทำงานต่อไป เพราะถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีเงินมาใช้จ่ายแน่นอน นั่นจึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนที่แบกภาระหนี้สินต้องเริ่มมีการหยิบยืมหรือกู้เงินมาเพื่อหมุนเวียนกับรายจ่ายในแต่ละเดือน ส่งผลให้เกิดภาวะความเครียดในการใช้ชีวิต แต่ชีวิตก็ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป
จากผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ในปี 2560 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ครัวเรือนทั่วประเทศมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 26,946 บาท มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 21,437 บาท ส่วนหนี้สินของครัวเรือนจากครัวเรือนทั่วประเทศประมาณ 21 ล้านครัวเรือน พบว่า เป็นครัวเรือนที่มีหนี้สินประมาณ 10.8 ล้านครัวเรือน โดยมีจำนวนหนี้สินเฉลี่ย 178,994 บาท/ครัวเรือน ส่วนใหญ่ร้อยละ 76.9 เป็นการก่อหนี้เพื่อใช้ในครัวเรือน คือ ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค ร้อยละ 39.0 , ใช้ในการซื้อบ้าน/ที่ดิน ร้อยละ 36.3 และใช้ในการศึกษา ร้อยละ 1.6
“เป็นหนี้” ไม่ได้หมายความว่า “คุณเป็นคนล้มเหลวในชีวิต” มนุษย์เงินเดือนหลายคนที่อาจจะมีบ้างที่เกิดความเครียด ท้อแท้กับชีวิต เหนื่อยล้ากับการแบกภาระหนี้สิน ทั้งค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต ฯลฯ บางคนเคียดจนต้องโทษตัวเองว่าเพราะความไม่เอาไหนของตัวเองจึงทำให้เกิดภาวะหนี้สินขึ้น ซึ่งอาจจะไม่จริงเสมอไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว คนทุกคนย่อมมีความจำเป็นของตัวเอง แต่อย่าลืมว่า ไม่ใช่มีเพียงแค่คุณเท่านั้นที่ต้องเผชิญปัญหานี้ แต่ยังมีคนอีกหลากหลายที่ต้องพบกับปัญหาดังกล่าว แต่สุดท้ายก็สามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้มาได้
“กำลังใจ” สำคัญที่สุดในการเผชิญกับอุปสรรคหนี้สิน เพียงแค่คุณลอง “เปลี่ยน” มุมมองการใช้ชีวิตมาในเชิงบวกมากยิ่งขึ้น มองทุกอย่างให้เป็นเรื่องดี ๆ มีทัศนคติเชิงบวก หนี้สินก็เช่นกัน ถ้าเราลองมองในเชิงบวก จะทำให้เรามีกำลังใจในการเผชิญปัญหาดังกล่าวได้ เราจะเกิดแรงที่จะตั้งใจทำงาน เพื่อเก็บเงินในแต่ละเดือนมาใช้จ่าย จ่ายหนี้สิน หากเราวางแผนและบริหารการใช้จ่ายเงินดี ๆ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หารายได้เสริม และเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อหาข้อตกลงที่ลงตัวกับทั้งสองฝ่าย เชื่อเลยว่า หนี้สินจะหมดไปอย่างแน่นอน
ฉะนั้น ถ้าเรามี “หนี้สิน” ก็จงเปลี่ยนมุมมองหนี้สินให้เป็นกำลังใจที่ดีในการทำงานของเรา วางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด ลงมือจัดการกับหนี้สินอย่างจริงจัง และเมื่อเราคิดแบบนี้ เราก็จะสามารถใช้ชีวิตในการทำงานอย่างมีความสุข และอยู่กับภาระหนี้สินได้อย่างมีความสุขด้วยเช่นกัน และเมื่อเราสามารถ “ปลดหนี้” ได้หมดแล้ว เราจะเห็นว่าหนี้สินที่เราเคยมีนั้นเป็นเพียงแค่ปัญหาเล็ก ๆ เสี้ยวหนึ่งของชีวิตเท่านั้น
อย่าลืมว่า การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ของชีวิต แต่ถ้าสามารถปลดหนี้ได้ก็จะเป็นเรื่องดีของคุณ อย่าลืม สติและกำลังใจ สำคัญที่สุดที่คุณจะต้องสู้ ท่องไว้ว่า ตราบใดที่เรายังมีชีวิต เราต้องมีกำลังใจที่ดี แล้วเราจะได้พบว่า ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ…นี่คือวิถี กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต
บทความที่เกี่ยวข้อง