ในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่เราได้จากการเสพข่าวคือ นอกจากป้องกันตัวเองแบบการ์ดไม่ตกแล้ว การตรวจคัดกรองด้วยตนเองก็สำคัญเพราะด้วยเชื้อไวรัสโควิด19 ที่กลายพันธุ์เวลาที่เราติดเชื้อ มักจะไม่มีอาการในช่วงเริ่มต้นจนกว่าจะแพร่กระจาย
ทีนี้ประกาศล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุขคือ ทุกบ้านต่างสามารถหาซื้อชุดตรวจโควิดเร่งด่วน ที่เรียกว่า การตรวจ Rapid Test ชนิด Antigen ไว้ประจำบ้านและตรวจสอบด้วยตนเองได้แล้ว หากการซื้อนั้นสิ่งที่ทุกคนควรทราบก่อน ว่า “ซื้อประเภทไหน” “ยี่ห้อใด” และซื้อที่ไหนจึงจะได้ของที่ใช่ กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจึงจัดทำข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางให้รู้และเลือกใช้แบบเข้าใจง่าย
Rapid Test ไม่ใช่ที่สุดของการตรวจเชื้อ
Rapid Test เป็นชุดทดสอบการติดเชื้ออย่างง่ายและรวดเร็ว คือใช้เวลาประมาณ 10 – 30 นาที โดยเมื่อพบว่าติดเชื้อแล้ว ต้องเข้ารับการตรวจแบบ RT-PCR (Real Time Polymerase Chain Reaction) ที่ใช้เวลาประมาณ 24 – 48 ชั่วโมง อีกขั้นจากห้อง Lab หรือโรงพยาบาล เพราะจะให้ผลที่แม่นยำ โดย Rapid Test เป็นเสมือนชุดตรวจคัดกรองด่านแรก ลดกังวล ลดค่าใช้จ่ายหากไม่มีการติดเชื้อและลดจำนวนลดภาระของเจ้าหน้าที่และห้อง Lab
ซื้อที่ไหน ดูอย่างไร ว่า “ใช่”
Rapid Test Antigen แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen Test Self-Test Kits) จะสามารถซื้อได้ที่ร้านขายยาเท่านั้น ฉะนั้นอย่าซื้อ Online (ตามประกาศของรัฐเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564) โดยมีเพียง 5 ยี่ห้อที่เพิ่งผ่านการอนุญาต ณ วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 แต่ถ้านับยี่ห้อที่ขอขั้นทะเบียน จะมีประมาณ 24 ราย
วิธีใช้
- STANDARD Q COVID-19 Ag Home Test https://youtu.be/xIgWqXxDVbc
- SARS-CoV-2 Antigen Self Test Nasal https://youtu.be/Hf2OfXnvbkU
- SARS-CoV-2 Antigen Test Kit (GICA) https://youtu.be/vqLII3YZqPM
- BIOSYNEX Autotest ANTIGENIQUE COVID-19 Ag https://youtu.be/wMHvjhusIeU
สำรวจ ดูวิธีให้ใช้ “เพื่อไม่พลาด”
Rapid Test Antigen เป็นตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยใช้วิธีการ Swab เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง ที่บริเวณจมูกลึกถึงคอ เก็บจากลำคอ หรือเก็บจากบริเวณอื่นอย่างเช่นช่องปากและลำคอ หรือน้ำลาย ขึ้นอยู่กับวิธีการเก็บตัวอย่างของชุดการตรวจนั้น ๆ ซึ่งวิธีการตรวจนี้ ผู้ตรวจจะต้องรับเชื้อมาแล้ว 5 – 14 วัน ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ เพราะหากเชื้อไวรัสที่มีอยู่น้อย ก็อาจทำให้วิธีการตรวจนี้ไม่พบเชื้อดังจะเห็นได้จากข่าวที่คนในแวดวงบันเทิงว่าผลครั้งแรกใช่ ครั้งต่อมาไม่ใช่ หรือจากภาพที่คนบันเทิงต่างแชร์ภาพขณะตรวจมีก้านไม้สอดเข้าไปในโพรงจมูก
หากทั้งนี้ต้องรู้ก่อนว่าชุด Rapid Test Antigen นั้นระบุว่าใช้กับตัวอย่างที่เก็บจากบริเวณใด เท่าที่ตอนนี้มีคือ nasal (โพรงจมูก) , nasopharyngeal (โพรงหลังจมูก) oropharyngeal (ช่องปากและลำคอ) หรือน้ำลาย โดยถ้าเป็นโพรงหลังจมูก ลักษณะก้านไม้ ความยาว และระยะการแยงเข้า จะลึกกว่าโพรงจมูก
โดยวิธีการใช้งาน ผู้นำเข้าทั้ง 5 ยี่ห้อได้จัดทำคลิปวิธีใช้อย่างละเอียด โดยดูได้จาก Youtube link (ในตาราง)
ข้อควรระวังในการใช้งาน
- เก็บรักษาชุดตรวจในอุณหภูมิที่กำหนดและตรวจสอบวันหมดอายุก่อนซื้อ
- อย่าเปิดหรือฉีกบรรจุภัณฑ์จนกว่าจะใช้งาน
- ไม่ใช้อุปกรณ์หรือตลับทดสอบซ้ำ
การเตรียมตัวก่อนเริ่มตรวจ [คำแนะนำจากระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (NHS) ]
- ไม่ควรดื่มหรือทานอาหาร ก่อนการตรวจเชื้ออย่างน้อย 30 นาที
- หากเพิ่งมีเลือดกำเดาไม่เกิน 24 ชั่วโมง ให้หลีกเลี่ยงการตรวจไปก่อน หรือให้ตรวจจากรูจมูกข้างที่ไม่มีเลือดกำเดาไหล
- หากเจาะจมูก ต้องถอดห่วงหรือจิลก่อน ให้หลีกเลี่ยงตรวจจากจมูกข้างที่เจาะ
วิธีการใช้ชุดตรวจ Rapid Antigen Test
- ล้างมือด้วยสบู่ น้ำสะอาด และเจลแอลกอฮอล์
- เริ่มเก็บตัวอย่างเชื้อ ด้วยการใช้ก้านสำลีสำหรับ swab โดยทำตามคำแนะนำที่มากับชุดตรวจอย่างเคร่งครัด เช่น การแหย่จมูก การแหย่ลำคอ กระพุ้งแก้ม เป็นต้น ซึ่งจะหมุนก้านลำสีประมาณ 3 – 4 ครั้ง หรือ 3 วินาที
- นำก้านสำลีมาหมุนใส่หลอดที่มีสารละลายตรวจเชื้อ หมุนวนอย่างน้อย 5 ครั้ง หรือ 15 วินาที แล้วบีบสำลีให้แห้งผ่านหลอด ห้ามให้มือสัมผัสกับก้านสำลีหรือสารละลายเด็ดขาด
- เมื่อเสร็จแล้วให้นำก้านสำลีทิ้งใส่ซีล และหยดสารละลายลงในแท่นตรวจ ตามจำนวนหยดที่ชุดตรวจกำหนดไว้ รอผล 15 – 30 นาที
วิธีอ่านค่าผลตรวจ
- หากตรงตัวอักษร C ขึ้นขีดเดียว แปลว่า ผลตรวจเป็นลบ (ไม่ติดเชื้อ)
- หากตรงตัวอักษร C และ T ขึ้น 2 ขีด แปลว่า ผลตรวจเป็นบวก (พบเชื้อ)
- หากไม่มีขีดที่ตัว C และ T หรือปรากฏแค่ตรง T แปลว่า แผ่นเทสเสีย
กรณีผลเป็นบวก (พบเชื้อ) ให้ปฏิบัติดังนี้
- เข้ารับการตรวจยืนยันผลแบบ RT-PCR ซ้ำที่โรงพยาบาล
- ระหว่างนั้นให้กักตัวเองแยกจากผู้อื่นและหลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกัน
- แจ้งผู้ใกล้ชิดที่มีความเสี่ยง ให้เข้ารับการตรวจเชื้อ
กรณีผลเป็นลบ (ไม่พบเชื้อหรือเชื้อมีปริมาณไม่มากพอ) ให้ปฏิบัติดังนี้
- หากเป็นผู้ที่สงสัยว่าอาจจะติด ให้ทำการทดสอบซ้ำอีกใน 5 – 7 วัน ในระหว่างนั้นต้องกักตัวแยกจากผู้อื่นเช่นเดียวกับผู้ติดเชื้อ
- หากมีอาการของโรคโควิด-19 ให้ทำการทดสอบซ้ำทันที โดยเฉพาะหากมีอาการทางเกี่ยวกับการหายใจ ให้ไปตรวจซ้ำด้วยวิธี RT-PCR ทันที
วิธีทิ้งชุดตรวจหลังตรวจเสร็จ
ควรใส่ชุดตรวจที่ใช้แล้วลงซีล แล้วทิ้งในถุงขยะแยกจากขยะอื่น ๆ โดยต้องปิดปากถุงขยะให้แน่นหนาและมิดชิด ห้ามไม่ให้ขยะหลุดรอดออกมาได้ เป็นไปได้ควรใส่ขยะในถุงสีแดง เพราะใช้สำหรับใส่ขยะติดเชื้อ หรืออาจแปะป้าย/ทำสัญลักษณ์ ให้รู้ว่าเป็นขยะติดเชื้อ