EXIM Bank แนะธุรกิจยั่งยืนยุคใหม่ ต้องเลิก “อวดรวย” หันมา “อวดดี”

0
418
kinyupen

การสร้างความยั่งยืนระหว่างธุรกิจและสังคม ภายใต้แนวคิด  ESG หรือ หลักการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน ที่ย่อมาจาก Environment, Social, และ Governance กลายเป็นสิ่งที่องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ล้วนให้ความสำคัญลงมือทำอย่างจริงจัง รวมทั้งมีการถ่ายทอดแนวคิด ประสบการณ์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ

หนึ่งในนั้น คือEXIM Bank หรือ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โดย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ นำมาเสนอบนเวทีงานสัมมนา “ESG Game Changer” จัดโดย “ประชาชาติธุรกิจ” วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ซึ่ง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต อยากนำมาถ่ายทอดให้ได้ทราบกัน

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) 

“หลายองค์กรทั่วโลกที่เราเห็นข่าวกันตอนนี้ แข่งกันโต อวดความรวย เอาผลงานบรรทัดสุดท้ายมาโชว์กันว่าเติบโตกี่เปอร์เซ็นต์ แต่อีกด้านหนึ่งหลายท่านอาจไม่ทราบว่าปีนี้ทั่วโลกมีประชากร 8,000 ล้านคน โดย 76% หรือกว่า 6,000 ล้านคน คือ คนจน และลึกไปกว่านั้นพบว่ากว่า 250 ล้านคนอยู่ในสภาพจนแร้นแค้น นี่หรือคือโลกที่เราอยากเดินต่อไปข้างหน้าด้วยกัน ผมจึงอยากชวนให้องค์กรต่างๆ เปลี่ยนจากอวดรวยมาเป็นอวดดีกันไหมครับ อยากชวนทุกองค์กรที่คิดว่าเป็น ESG Champion มาอวดการทำดีกันดร.รักษ์ เปิดประเด็น พร้อมขยายความถึงหลักสำคัญของการ “อวดดี” ว่าสามารถตั้งต้นง่ายๆ จากการสแกนตัวเองก่อนว่าจะปรับเปลี่ยน Business Model นำไปสู่การเป็น Green Player ได้อย่างไร ทั้งในส่วนของตนเองและคู่ค้า

 บทบาทธนาคารวันนี้ จะไม่ใช่แค่ปล่อยกู้ หรือ รับเงินฝากอีกต่อไปแล้ว แต่ต้องเป็นเพลย์เมกเกอร์ ในการช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ช่วยจัดสรรเงินทุนให้ผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้สสามารถปรับ/เปลี่ยนกระบวนการผลิต หรือ Business Model เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยตนเอง วันนี้ทุกสถาบันการเงินก็มีโปรดักต์สีเขียวออกมากันแล้ว ซึ่งช่วยหนุนให้ธุรกิจปรับตัวไปเป็น ESG player

เพราะอนาคตถ้าธุรกิจใด ไม่ปรับตัวเองให้เป็น ESG Player หรือ Green Player ก็แทบจะไม่มีที่ยืนในอนาคตเลย ดังนั้นหน้าที่สถาบันการเงิน ต้องเป็น market Maker โดยในส่วน EXIM Bank เองก็อยากเป็น Clearing House อยากนำคาร์บอนเครดิตมาเป็นหลักประกัน จึงพยายาม และคุยกับเรกูเลเตอร์

“วันนี้คนตัวเล็กๆ 3 ล้านกว่าคนที่เป็น sme เขารู้ว่าโลกมันเปลี่ยนไป และก็รู้ว่าเขาต้องพัฒนาตัวเองอีกมากมาย แล้วใครจะยื่นความช่วยเหลือให้เขาถ้าไม่ใช่เรกูเลเตอร์ ไม่ใช่สถาบันการเงิน ไม่ใช่ SFI อย่างพวกเรา สิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่เราต้องพยายามทำให้เกิดขึ้นให้ได้ในช่วงชีวิตของเรา”

“ในส่วน EXIM Bank ที่ผ่านมาทำโปรดักต์สีเขียวออกมามากมาย สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับ Government Bank อาทิ บริการสินเชื่อ EXIM Green Star สำหรับ SME ซึ่งส่วนใหญ่มีต้นทุนเฉลี่ยต่อหัวต่อคนอยู่ที่ 8 – 12% แต่วันนี้ EXIM Bank ให้ Soft Loan SME ที่ 4.25% โดยมีข้อแม้ว่า SME รายนั้นต้องอวดดีให้ได้ ต้องกลายเป็น Green Player หรือ ESG Player ให้ได้ก็จะได้ incentive ส่วนนี้ ซึ่งตรงนี้คิดว่ายังไม่เพียงพอสำหรับคนตัวเล็ก 3.2 ล้านราย ซึ่งมีกระตุ้นการจ้างงานกว่า 40% ในประเทศไทย จึงอยากให้ทุกสถาบันการเงินมีโปรดักต์สีเขียวออกมาอีกมากๆ เพื่อช่วยคนกลุ่มนี้ให้สามารถปรับตัวได้”

นี่คือ แนวทางและหลักคิดในการ “อวดดี” ที่ CEO ของ  EXIM Bank อยากให้ทุกภาคส่วนหันมาจับมือกันโดยเฉพาะกลุ่มสถาบันการเงินที่อยากให้มาร่วมกันผนึกกำลังหนุน SME ในการปรับตัวสู่ ESG เพื่อขับเคลื่อนสังคมให้เติบโตไปสู่โลกสีเขียวที่ยั่งยืนไปด้วยกัน

ชมบรรยากาศงานสัมมนาทั้งหมดได้ที่ : https://fb.watch/l_ZQpingv6/?mibextid=5eVWNK

kinyupen

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here