นายกฯซามัว วอนหยุดทำโลกร้อน ชาวเกาะกำลังจมน้ำ จากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น

0
280
kinyupen

เมื่อเราทำร้ายน้ำ…น้ำก็กลับมาเริ่มทำร้ายเรา…แล้ว วันนี้วันที่ 22 มีนาคม ถือเป็นวัน “อนุรักษ์น้ำโลก” เป็นหัวข้อที่พูดกันอยู่ทุกๆปี แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้างแล้ว แต่… ไม่ใช่ในทางที่ดีแน่นอน เพราะจากปรากฎการณ์ก๊าซเรือนกระจกและภาวะโลกร้อนที่ส่งคลื่นความร้อนลงมายังพื้นโลก โดยเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่เย็นจัด ทำให้อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย และทำลายระบบนิเวศกันไปมากมายแล้ว วันนี้กินอยู่เป็น 360  องศาแห่งการใช้ชีวิต ขอชวนทุกท่านมาติดตามเหตุการณ์สำคัญเรื่องน้ำที่กำลังเริ่มกลับมาทำร้ายเรากันแล้ว จากรายงานชิ้นนี้ค่ะ

Pacific Parliamentary and Political Leaders Forum, 2013 : A Powhiri Welcome takes place in Parliament by New Zealand MP’s. Afioga Hon Fiame Naomi Mataafa.

นางเฟียเม นาโอมิ มาตา อาฟา (Fiame Naomi Mata’afa) นายกรัฐมนตรีหญิงประเทศซามัว ได้ออกมาประกาศเรียกร้องให้ทั่วโลก ตระหนักถึงความสำคัญของภาวะโลกร้อนให้มากขึ้นและขอความเห็นใจในการช่วยชาวแปซิฟิกจากวิกฤตสภาพอากาศ ที่ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเรื่อย ๆ และกำลังจมชาวเกาะ ทำให้ประชาชนต้องหนีออกจากเกาะ เช่นเดียวที่เกิดขึ้นกับประเทศตูวาลู ซึ่งเหตุการณ์ภาวะที่น้ำแข็งขั้วโลกละลายลงสู่ทะเล ได้เริ่มผลกระทรบไปยังหลายพื้นที่ แต่ประเทศที่โดนหนักที่สุดคือประเทศในแถบหมู่เกาะแปซิฟิก โดยประเทศซามัว เป็นหมู่เกาะที่อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ โดยอยู่กึ่งกลางระหว่างรัฐฮาวายของสหรัฐอเมริกาและนิวซีแลนด์ ตามข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศของไทยระบุว่าซามัวมักประสบภัยจากพายุใต้ฝุ่น

A landscape of the sea surrounded by greenery under a blue cloudy sky in the Savai’i Island, Samoa

“นี่เป็นปัญหาระดับโลก และไม่มีใครหลุดพ้นจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ถือเรื่องสำคัญมากที่ทั่วโลกจะต้องช่วยกัน นางมาตา อาฟากล่าว

ผู้คนส่วนใหญ่ในโลก ยังไม่รู้ซึ้งถึงผลการกระทำที่เกิดขึ้น การทำร้ายโลกยังเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการทิ้งขยะลงสู่แม่น้ำ ลำคลอง รวมไปถึงทะเล และสมหาสมุทร จนส่งผลให้น้ำเสียและมีสิ่งปนเปื้อนไปสู่สัตว์ทะเลและกลับมาทำร้ายร่างกายมนุษย์ในที่สุด รวมไปถึงการใช้น้ำสะอาดอย่างสิ้นเปลือง โดยไม่ประหยัดเช่นกัน

โดยในอนาคต เราจะได้เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆและชัดเจนมากขึ้นในหลายพื้นที่ ทั้งเรื่องของฝนที่ไม่ตกตามฤดูกาล ความร้อนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมไปถึงน้ำที่อาจมีปริมาณมากขึ้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้ทำอะไรได้เลย เนื่องจากการปนเปื้อนของเชื้อโรคและแบคทีเรีย รวมไปถึงไมโครพลาสติกจากขยะที่ใครบางคนตั้งใจทิ้งลงสู่ทะเล แม่น้ำ ลำคลอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ผวา น้ำท่วมโลกใกล้มาถึง น้ำแข็งซอมบี้ละลายหนักมาก

วันโลกดับมีจริง กรุงเทพฯ จมน้ำแน่ใน 20 ปี ทำอย่างไรดี

‘ภาวะโลกรวน’ หายนะจากความรักสบายของมนุษย์

วิกฤตที่ควรรู้ถ้า “อยู่ฝ่ายธรรมชาติ”

ที่มา : The Guardian : Samoa PM urges world to save Pacific people from climate crisis obliteration

kinyupen

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here