ขอ e-Visa ออนไลน์ได้แล้ว โดยไม่ต้องยื่นเอกสารตัวจริง

0
329
kinyupen

ระบบ e-Visa รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่ต้องยื่นหนังสือเดินทางและเอกสารหลักฐานตัวจริง จริงหรือ?

เมื่อเร็วๆนี้ เราอาจได้เห็นข่าวเกี่ยวกับเรื่อง “การขอวีซ่าออนไลน์” หรือ e-Visa เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยสามารถขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ได้ โดยไม่ต้องยื่นหนังสือเดินทางและเอกสารหลักฐานตัวจริง เรื่องนี้ กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตมีข้อมูลจาก “ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม” ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

เพื่อรองรับความต้องการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้พัฒนาระบบขอรับตรวจลงตรา (วีซ่า) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติ ที่ปัจจุบันสามารถขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ หรือ e-Visa ได้โดยไม่ต้องยื่นหรือส่งหนังสือเดินทางและเอกสารหลักฐานตัวจริงไปยังที่สถานเอกอัครราชทูตไทย หรือสถานกงสุลไทยในแต่ละประเทศ/เมือง ซึ่งรัฐบาลมั่นใจว่าระบบการให้วีซ่าที่สะดวกสบายจะรองรับความต้องการเดินทางเข้าประเทศไทยที่กำลังเพิ่มขึ้นในขณะนี้และระยะต่อไปได้เป็นอย่างดี

โดยการขออนุญาตเข้าประเทศไทยสำหรับชาวจีนปัจจุบันสามารถทำได้ทั้งการขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival : VOA) ซึ่งอยู่ในอำนาจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) และ การยื่นขอวีซ่าในต่างประเทศผ่านระบบ e-Visa ซึ่งอยู่ในอำนาจของกระทรวงการต่างประเทศ

สำหรับการใช้บริการเพื่อยื่น e-Visa สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.thaievisa.go.th โดยไม่ต้องยื่นหรือส่งหนังสือเดินทางและเอกสารหลักฐานตัวจริงไปที่สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุล ซึ่งในเว็บไซต์จะรวมช่องทางการยื่นขอวีซ่าทุกประเภท มีการอธิบายขั้นตอนและมีวีดิทัศน์สาธิตการสมัครขอวีซ่าโดยละเอียด (https://thaievisa.go.th/video-user-manuals) หลังจากได้รับการอนุมัติ e-Visa แล้วจะมีไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ยืนยันส่งไปยังผู้ขอวีซ่า จากนั้นผู้ขอสามารถพิมพ์เอกสารยืนยันที่ได้รับทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปแสดงต่อสายการบินและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของไทยสำหรับตรวจสอบเมื่อเดินทางไปประเทศไทยต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th หรือโทร. 02 618 2323

ที่มา : ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทยAnti-Fake News Center Thailand

kinyupen

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here