EXIM BANK แนะกลยุทธ์รับมือศก.ถดถอย หนียุโรป-อเมริกา มุ่งส่งออกตอ.กลาง-เอเชียใต้

0
270
kinyupen

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) แถลงผลการดำเนินงานปี 2565 และนโยบายปี 2566 ว่า การดำเนินงานของ EXIM BANK ในปี 2565 เติบโตระดับสองหลัก (Double Digit Growth) ในมิติต่าง ๆ ดังนี้

• ยอดคงค้างสินเชื่อ 168,331 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15,558 ล้านบาท หรือ 10.18% จากปีก่อน เติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี

• วงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 94,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 19.21% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็น Double Digit Growth ทั้งในภาพรวม และเพิ่มขึ้นถึง 17.91% ในกลุ่ม SMEs ซึ่งเป็น Double Digit Growth เช่นเดียวกัน

• ยอดคงค้างสินเชื่อที่สนับสนุนความยั่งยืน 47,628 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 21.83% จากปีก่อน และคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% ของยอดคงค้างสินเชื่อทั้งหมด เติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี

• ปริมาณธุรกิจสะสมบริการประกัน 169,338 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 10.34% จากปีก่อน เติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี และสูงสุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานเช่นเดียวกับด้านสินเชื่อ

• จำนวนลูกค้าทั้งด้านสินเชื่อและรับประกัน 6,102 ราย เพิ่มขึ้นสูงถึง 24.00% จากปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ EXIM BANK มีกำไรจากการดำเนินงาน 2,737 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 14.51% ถือเป็นการเติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี และมีกำไรสุทธิ 1,504 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่มากกว่า 1,500 ล้านบาทต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แม้จะมีการช่วยเหลือลูกค้าด้วยการตรึงดอกเบี้ย Prime Rate มานานกว่า 6 เดือน ต่อเนื่องถึงสิ้นเดือนมกราคม 2566 ก็ตาม

ดร.รักษ์ กล่าวว่า สำหรับปี 2566 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอลงชัดเจน ธนาคารโลก คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะขยายตัวต่ำกว่า 2% ต่ำสุดในรอบ 30 ปี เป็นผลจากปัญหาเงินเฟ้อที่คาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงและดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกไทย ซึ่งคาดว่าจะเติบโตได้สูงสุดเพียง 2% หรือชะลอกว่า 2 เท่าจากปีก่อนหน้า อันเนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญชะลอตัว โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรป ราคาสินค้าส่งออกเริ่มลดลง และเงินบาทผันผวน

“เชื่อว่าเศรษฐกิจโลกได้เห็นภาวะถดถอยแน่ ๆ ดังนั้น ผู้ส่งออกจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การลงทุน โดยควรหลีกเลี่ยงตลาดส่งออกที่ชะลอตัวชัดเจน เช่น ยุโรปและอเมริกา ขณะเดียวกัน มุ่งไปทำตลาดประเทศที่คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวสูงเกิน 7% เช่น แถบตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และอาเซียน โดยเฉพาะตลาดที่น่าสนใจอย่างซาอุดิอาระเบีย อินเดีย บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เป็นต้น”

EXIM BANK ในฐานะธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (Thailand Development Bank) พร้อมทำหน้าที่ Miracle Maker พัฒนาธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในเวทีโลก ด้วยการส่งเสริมการบุกตลาดการค้าการลงทุนที่มีศักยภาพและยกระดับสินค้าและบริการของไทยให้ได้มาตรฐานสากล โดยชูนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยทุกระดับมีความกล้าและความพร้อมที่จะเข้าสู่ Supply Chain การส่งออก การพัฒนาอุตสาหกรรมและธุรกิจใหม่ ๆ ที่มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งนี้ ในปี 2566 EXIM BANK จะยังคงเป้าหมายการเติบโตให้ได้ระดับสองหลักเช่นเดิม แม้ว่าจะมีต้นทุนสูง เนื่องจากการตรึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกค้าอยู่นานกว่า 6 เดือน

kinyupen

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here