เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2565 เวลาเช้าตรู่ (7 โมงครึ่ง) แต่สภาพท้องฟ้าเหมือน 1 ทุ่ม เกิดปรากฏการณ์ฟ้ามืด เมฆฝนลอยต่ำเป็นกลุ่มใหญ่ บดบังแสงอาทิตย์ มืดครึ้มทุกพื้นที่เหมือนวันโลกดับก็ไม่ปาน สร้างความแตกตื่นทั้งกรุงเทพ-ปริมณฑล
ยังมีคนจำนวนมากคิดว่าวันโลกดับหรือวันสิ้นโลกเป็นเรื่องล้อเล่น มัวใจเย็นว่าต่อให้เกิดขึ้นจริงก็น่าจะอีกนาน แต่กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตขอออกตัวว่ามันไม่เกินจริง
สัญญาณไม่ดีเริ่มเกิดขึ้นทั่วโลก และการคาดการณ์ว่ากรุงเทพฯ จะจมน้ำ มันยิ่งขยับเข้ามาเร็วขึ้นทุกวันๆ
หลายประเทศในโลกมีฝนตกมีมากผิดปกติ อย่างน้ำท่วมเกาหลีใต้ ทำกรุงโซลจมน้ำ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 65 ก็เป็นฝนในรอบ 80 ปี ซึ่งหนักมาก
“น้ำแข็งซอมบี้” ในกรีนแลนด์ กำลังจะละลาย ซึ่งน้ำแข็งซอมบี้คือแผ่นน้ำแข็งที่ยังคงติดอยู่กับบริเวณที่หนากว่าของน้ำแข็งแผ่นใหญ่ มันไม่หลอมละลายจึงได้ชื่อว่าไม่มีวันตาย (ซอมบี้) แต่ตอนนี้มันกำลังละลายแล้วจ้า ผลคือจะทำให้ ระดับน้ำทะเล เพิ่มขึ้นในโลก อย่างน้อย 27 เซนติเมตร
สิ่งเหล่านี้สะท้อนภาวะโลกรวนที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน
แค่ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นนิดเดียวก็อันตรายต่อการใช้ชีวิตแล้ว มีสิทธิ์ถูกน้ำทะเลหนุนได้สูงขึ้น , และมีโอกาสน้ำท่วมมากขึ้น ผู้คนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่ง ต้องพลัดถิ่น มนุษย์จะเริ่มสูญเสียแผ่นดินที่จะอยู่
ถ้าระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอีก ก็กระทบมาถึงไทยแน่นอน เพราะปัจจุบัน กรุงเทพฯ อยู่เหนือระดับน้ำทะเลเพียงแค่ 1.5 เมตรเท่านั้น
หวั่นใจ อีกหน่อยไทยจะเจอน้ำท่วมมิดหลังคาแบบปี 54 อีกรึเปล่า?
อีกกี่ปี กรุงเทพฯ จะจมน้ำ?
ล่าสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2565 รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต และคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ออกมาเตือนภัย “น้ำท่วมใหญ่” ของประเทศไทยถึงขั้น “กรุงเทพฯ จมบาดาล” ใน 20 ปีข้างหน้า
“กรุงเทพฯและปริมณฑล มีความเสี่ยงสูงมากที่จะจมใต้น้ำ อาจต้องย้ายเมืองหลวงหากไม่ทำอะไร เพราะทุก 10 ปีจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ควรนิ่งเฉย ต้องออกมาตรการป้องกัน”
ประเด็น ‘น้ำท่วมกรุงเทพฯ’ เป็นวาระแห่งชาติมาตลอด เคยมีการศึกษาทางวิชาการในปี 2552 ที่อ้างอิงโดยมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ระบุว่า “กรุงเทพฯ เหลือเวลาอีกเพียง 25 ปี ในการเตรียมแผนการป้องกันก่อนที่กรุงเทพฯ จะจมน้ำ”
นั่นหมายความว่าหากเป็นไปตามนั้นจริง เมื่อนับมาถึงปัจจุบัน ในปี 2565 นี้ ก็เท่ากับว่า เราเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 12 ปี เท่านั้น!?
4 ปัจจัยที่จะทำให้กรุงเทพฯ จมน้ำ
– ปริมาณน้ำฝน
– การทรุดตัวสะสม
– Climate change
– อุณหภูมิที่สูงขึ้น
การที่กรุงเทพฯ จมน้ำ ไม่ได้มาจากปริมาณน้ำฝนอย่างเดียว จากที่กล่าวไปข้างต้น ว่ากรุงเทพฯ อยู่เหนือระดับน้ำทะเลเพียงแค่ 1.5 เมตร เรายังมี “การทรุดตัว” ที่รวดเร็วของพื้นที่ ทำให้กรุงเทพฯ มีพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลลงไปมากกว่าเดิม
กรมทรัพยากรธรณี และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย เคยทำสำรวจช่วงปี 2521-2524 พบว่า มีการทรุดตัวมากกว่าปีละ 10 เซนติเมตร
ขณะที่ ข้อมูลของการสำรวจโดยกรมแผนที่ทหารนั้น จะพบว่า ตลอดระยะเวลา 30 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521-2551 กรุงเทพมหานคร มีระดับการทรุดตัวสะสมมากกว่า 1 เมตร โดยมีการทรุดตัวสะสมประมาณปีละ 2-3 เซนติเมตร
ปัญหา Climate change ทำให้ “ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น” มีผลทำให้น้ำในอ่าวไทยอาจหนุนสูง ซึ่งปัจจัยนี้ คือ องค์ประกอบที่ทำให้เกิดมหาอุทกภัยในปี 2554 มาแล้ว
เว็บโซต์ The Asean Post ได้มีการตั้งสมมติฐานว่า 40% พื้นที่กรุงเทพฯ จะถูกน้ำท่วมจากฝนตกชุก และระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นถึง 15 เซนติเมตรในปี 2573 หากมีการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิที่ 4 องศาเซลเซียส โดยไม่มีมาตรการเตรียมพร้อม
รายงานจากโครงการ Copernicus Climate Change Service (C3S) ของสหภาพยุโรป พบว่าปี 2021 เป็นปีที่โลกร้อนที่สุดเป็นอันดับ 5 เท่าที่มีการบันทึกมา
โลกร้อนขึ้นแค่ 1.5 – 2 องศาเซลเซียส ไม่ใช่เล่นๆ แต่กระทบชีวิตมหาศาล ดังนี้
- สภาพอากาศร้อนจัดที่เพิ่มขึ้น
- การละลายของน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติก
- ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น
- ความหลากหลายทางชีวภาพที่ลดลง
- ความเสี่ยงต่อแนวปะการัง
- การทำประมงทั่วโลกลดลง
- ภาวะความยากจนที่เพิ่มขึ้น
- ผลกระทบด้านสุขภาพ
- ผลกระทบด้านอาหาร
(อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่)
คิดเล่นๆ คนไทยต้องปรับตัวอย่างไร หากกรุงเทพฯ จมน้ำ
ยังไงน้ำก็ท่วมโลกอยู่ดี ขึ้นอยู่กับว่าจะเร็วหรือช้า มนุษย์อาจต้องปรับตัวอยู่กับน้ำ อาจหวนเอาวิถีชีวิตของคนกรุงที่ผูกติดกับน้ำ มีผสมผสานกับสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่, สร้างบ้านไม่ต้องตอกเสาเข็มอีกต่อไป ทำเผื่อลอยน้ำไปเลย, กลับมาใช้เรือแทนรถยนต์เหมือนสมัยก่อน, ปรับเปลี่ยนแนวทางการผันน้ำ เพิ่มระบบคลอง เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้
จากที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าน้ำท่วมโลกน่าจะอีกนาน แต่มันไม่นานแล้ว เรากำลังเร่งให้โลกเปลี่ยนเร็วขึ้น และมันก็เกิดขึ้นแล้วเดี๋ยวนี้
อ้างอิง
