สอบผ่านแล้ว เย้โปรเจครุ่งเรืองมาก ฟิตหุ่นสวยสมใจแล้ว กว่าจะมาถึงจุดนี้เหนื่อยแทบตาย เสียทั้งแรงกายและแรงใจ ต้องมีการให้รางวัลตัวเองอย่างงามๆ
“มื้อนี้ต้องชาบูเท่านั้น”
“ดื่มฉลองทุกสัปดาห์ หลังทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย”
“ซื้อกระเป๋าแจ่มๆ สักใบดีกว่า”
“ดีล่ะ ฉันจะไปเที่ยวต่างประเทศ”
ไม่ว่าจะเป็นการฮีลตัวเองจากความรู้สึกแย่ ให้รางวัลชีวิตหลังจากสำเร็จเป้าหมาย หรือเติมไฟให้ตัวเอง ก็ล้วนเป็นพลังในการก้าวเดินไปข้างหน้า แต่ปัญหาอยู่ที่การเยียวยาจิตใจ หรือให้รางวัลตัวเองล้วนต้องใช้เงิน ขืนทำแบบนี้บ่อยๆ ต้องนั่งเครียดแน่นอน
ให้รางวัลทั้งทีต้องบาลานซ์ให้ดี จะได้ไม่ลำบากภายหลัง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจะมาเผยเคล็ดลับให้รางวัลตัวเองอย่างไรไม่ให้กระเป๋าฉีกกันค่ะ
1. เก็บเงินรอระหว่างชาเลนจ์ตัวเอง
สร้างเงื่อนไขตัวเองไว้ล่วงหน้า แล้วเก็บเงินรอไปพร้อมๆ กัน ถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจไว้ก่อน มัดจำความสำเร็จไว้ด้วยสายตาไปก่อน เพิ่มแรงใจในการทำเป้าหมายให้สำเร็จ และถึงแม้ว่าจะทำไม่สำเร็จ เราก็ยังมีเงินออมเป็นของปลอบใจ
2. อดทนรอแล้วรวบยอดฉลองความสำเร็จทีเดียวคุ้มกว่า
ยืดระยะความอดทนให้ยาวไว้อีกหน่อย ไม่ต้องดื่มฉลองทุกวันศุกร์ หมูกระทะทุกวันเสาร์ อาจลดความถี่ในการให้รางวัลตัวเองลงเป็น 2 สัปดาห์/ครั้ง เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋า หรืออาจสะสมความสำเร็จเรื่อยๆ สัก 2-3 อย่าง แล้วรวบยอดฉลองทีเดียว
ในกรณีที่เป็นการท่องเที่ยว ลองหมุดรอช่วงเวลาทองไว้ดีๆ แล้วรอจังหวะโปรโมชั่น หรือรอช่วงเทศกาลคึกคัก มีอะไรให้ทำในต่างแทนเยอะๆ ก่อน เพราะถ้าอยากบินตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย อาจทำให้พลาดอะไรดีๆ ไปก็ได้หากไม่วางแผน
3. หาโปรโมชันดีๆ อาจได้รางวัลเพิ่ม
แม้มีงบพร้อมแล้ว ก่อนจะจ่ายเงินให้ลองดูว่ามีโปรโมชัน-ส่วนลดดีๆ หรือไม่ แม้แต่การใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาดนอกจากจะได้ส่วนลดประเภท Cash Back แล้วบางครั้งยังมีของพรีเมียมติดไม้ติดมือ ฉะนั้นลองดูให้ดีว่าร้านค้านั้นมีโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิตอะไรหรือเปล่า เพื่อใช้จ่ายก้อนใหญ่อย่างคุ้มค่าที่สุดเป็นรางวัล 2 ต่อค่ะ
4. เลือกให้รางวัลเป็นสิ่งที่คุ้มค่าในอนาคต
ของขวัญสามารถมีมูลค่างอกเงยได้ ถ้าคุณชอบทำอาหาร รางวัลอาจเป็นอุปกรณ์ทำอาหาร เพื่อนำมาทำอาหารเอง หรือต่อยอดเป็นรายได้เสริมในอนาคต ถ้าคุณชอบกระเป๋าแบรนด์เนม ก็ให้เลือกชอปปิ้งรุ่นที่เหล่านักสะสมนิยมใช้ ราคาไม่ตก ปล่อยขาย ปล่อยเช่าได้ง่าย เป็นต้น
5. ให้รางวัลตัวเองเป็นของขวัญที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อ
แทนที่จะเป็นสิ่งของ ตั๋วเที่ยว หรืออาหารการกิน ลองปลดล็อกอะไรบางอย่างเป็นโอกาสดีๆ แทน เพื่อเซฟเงินในกระเป๋า เช่น ดูซีรีส์สุดโปรดให้จบในวันหยุดยาว วิดีโอคอลหาเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ ชวนเพื่อนซี้ที่ห่างกายไปนานไปกินข้าวกันสักมื้อ
การทำตามใจตัวเอง ซื้ออะไรที่อยากซื้อช่างทำให้รู้สึกดีเหลือเกิน แต่อย่าลืมว่าต้องทำอย่างพอเหมาะพอดีให้สัมพันธ์กับรายได้ เพื่อไม่ให้มันย้อนกลับมาทำร้ายเราทีหลังนะคะ
อย่าลืมว่าการรออมเงินก็เป็นรางวัลชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้อนาคตของคุณมีความมั่นคง ดังนั้นมีสติ ตั้งงบให้ดี ใช้ส่วนลดให้เป็น ไม่จำเป็นต้องฟุ่มเฟือยเราก็สามารถมีความสุขได้ ถ้าใช้ชีวิตเป็น ในแบบกินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต
