สภาพัฒน์ชี้ คนรุ่นใหม่เทรดคริปโตฯ หวังกำไรเร็ว ความรู้น้อย ใช้สัญชาตญาณ ลงทุนเข้าสังคม

0
409
kinyupen

จริงหรือ? คนรุ่นใหม่เสียหายจากการลงทุนคริปโตฯ ง่ายกว่า เพราะหวังรวยเร็ว ใช้สัญชาตญาณมากกว่าความรู้ ลงทุนเพื่อความสนุก กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตมาไขข้อเท็จจริงจากรายงานภาวะสังคมไทยกัน

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดรายงานภาวะสังคมไทยเมื่อวันที่วันที่ 26 สิงหาคม 2565 ประจำไตรมาส 2/2565 โดยหนึ่งในเรื่องเด่นที่นำเสนอสถานการณ์ทางสังคมน่าสนใจในฉบับนี้คือ เรื่อง “พฤติกรรมการลงทุนของคนรุ่นใหม่ในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ว่า

ปัจจุบันคริปโตเคอร์เรนซีหรือสกุลเงินดิจิทัล เป็นสินทรัพย์ที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจเข้ามาลงทุน และหาผลตอบแทนจากมูลค่าที่ปรับตัวสูงขึ้นมากในระยะเวลาอันสั้น โดย ในปี 2564 มีจำนวนผู้ครอบครองคริปโตฯ เพิ่มขึ้นมาก และจากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่า ปี 2564 มีมูลค่าซื้อขายคริปโตฯ ในไทยเฉลี่ยประมาณ 1.4 แสนล้านบาทต่อเดือน

อย่างไรก็ดี สศช.ระบุว่าเมื่อพิจารณาพฤติกรรมการลงทุนในตลาดคริปโตฯ ของคนไทย มีประเด็นที่น่ากังวล 4 ประเด็น ดังนี้

1.ผู้ลงทุนในคริปโตฯ ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสร้างผลกำไรที่สูงในเวลาที่รวดเร็ว

2. 1 ใน 5 ของผู้ลงทุนในคริปโตฯ ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับคริปโตฯ น้อย และ 25% ใช้สัญชาตญาณ ตัดสินใจลงทุน

3. มากกว่า 1 ใน 4 ของคนรุ่นใหม่ ที่ลงทุนในคริปโตฯ ลงทุนเพื่อความสนุก บันเทิง และเข้าสังคม

4. นักลงทุนคริปโตฯ มากกว่าครึ่งหนึ่งใช้แพลตฟอร์มต่างประเทศ ซึ่งไม่สามารถกำกับดูแลได้ จากพฤติกรรมข้างต้นสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงในการลงทุนของนักลงทุนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน

สินทรัพย์ประเภทนี้ ซึ่งมีความเสี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์มากกว่าประเภทอื่นมาก การลงทุนเป็นสิ่งที่ควรสนับสนุน แต่ผู้ลงทุนต้องศึกษาหาความรู้ให้รอบด้านก่อนการตัดสินใจลงทุน โดยคริปโตฯ มีความเสี่ยงที่สำคัญดังนี้

1) ไม่มีการกำกับดูแลตามกฎหมาย สำหรับประเทศไทยยังไม่มีการกำกับดูแลเรื่องการออกเสนอขายคริปโตฯ และคุ้มครองผู้ลงทุนในคริปโตฯ ที่ทำการซื้อ/ขาย ผ่านแพลตฟอร์มที่ไม่ได้ดำเนินการจดทะเบียนในประเทศไทยได้

2) ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน (ยกเว้น Stablecoin บางชนิด) ทำให้เมื่อเกิดการด้อยค่า ผู้ที่เป็นเจ้าของจะไม่มีหลักประกันใด ๆ เลย อาทิ กรณีเหรียญ Terra Classic ที่เคยมีมูลค่าสูงถึง 3,903 บาท/เหรียญ ในเดือนเมษายน 2565 และตกลงมาเหลือเพียง 0.003 บาท/เหรียญ ในเดือนถัดมา

3) ตลาดคริปโตฯ ถูกชี้นำได้ง่าย โดยการเปลี่ยนแปลงของราคา คริปโตฯ เกิดขึ้นจากความต้องการที่ถูกชี้นำจากข่าวสาร แทนการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยพื้นฐาน (งบการเงิน และผลประกอบการ) และคริปโตฯ ยังสามารถปั่นราคาสินทรัพย์ (Pump and Dump) ได้ง่าย และควบคุมได้ยาก

4) ตลาดคริปโตฯ มีการหลอกลวง และการโกงหลายรูปแบบ อาทิ การหลอกให้ผู้ใช้กรอกรหัสผ่านลงในเว็บไซต์ปลอมและขโมยบัญชีผู้ใช้ไปใช้งาน หรือเพื่อขโมยเหรียญคริปโตฯ การชักชวนลงทุนจูงใจ ว่าสามารถทำกำไรได้แบบเกินจริง

ขณะที่การ rug pull ที่เป็นการโกงรูปแบบหนึ่ง เกิดจากการที่นักต้มตุ๋นทำทีว่ามีการพัฒนาโครงการเหรียญคริปโตฯ ใหม่ ๆ เข้ามาในตลาด เพื่อต้องการหลอกล่อให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายก่อนที่จะเทขายทิ้ง หรือฉ้อโกงเงินในระบบและส่งผลให้เหรียญนั้นไร้มูลค่า

ดังนั้น ผู้ต้องการลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจตลอดจนประเมินความเสี่ยงอย่างรอบด้าน หากต้องการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ ขณะเดียวกันต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่มีและเลือกลงทุนอย่างไม่ประมาท เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียเช่นในต่างประเทศที่มีการฆ่าตัวตายจากการสูญเงินลงทุนในคริปโตฯ แล้วกว่า 22 ราย

kinyupen

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here