ส่วนมากแล้วเรามักจะมีความคิดที่ว่า “กินน้อย ช่วยลดน้ำหนัก” หลายคนจึงเริ่มต้นการลดน้ำหนักด้วยวิธีการงดอาหารและส่วนมากก็เลือกที่จะงดมื้อเย็น เพราะมื้อเย็นเป็นมื้ออาหารที่ใกล้เคียงกับเวลานอน แคลอรีที่ได้รับจากการกินมื้อเย็นจึงอาจจะไม่ได้ถูกเผาผลาญ
อย่างไรก็ตามการลดน้ำหนักด้วยการงดข้าวเย็น นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังอาจส่งผลต่อเรื่องของน้ำหนักด้วย ทั้งส่งผลต่อเสียกับสุขภาพของเรา วันนี้กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจะพาคุณมารู้จักการลดน้ำหนักอย่างไรให้มีสุขภาพกายและใจที่ดี
ลดน้ำหนักอย่างไรให้สุขภาพดี
การลดน้ำหนักที่ดีไม่ใช่การไม่ทานข้าวเย็น เนื่องจากมื้อเย็นเป็นมื้อสุดท้ายของวัน ในช่วงที่นอนหลับนั้น ร่างกายก็อาจต้องอดอาหารไปอีกเป็นเวลานานอย่างน้อย 10-12 ชั่วโมง ก่อนที่จะถึงเวลากินอาหารมื้อเช้า ช่วงระยะเวลาที่ยาวนี้ร่างกายยังจำเป็นต้องใช้พลังงานอย่างมาก และถ้าหากเราไม่ทานข้าวเย็นก็อาจทำให้พลังงานในร่างกายมีไม่เพียงพอ จนทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย หรืออาจส่งผลต่อสุขภาพกายได้ นอกจากนั้น การไม่ทานข้าวเย็นอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ดังนี้
– อ่อนเพลีย
– ไม่กระฉับกระเฉง
– ไม่มีแรงขณะตื่นนอน
– รู้สึกหิวอย่างรุนแรงขณะนอนหลับ
– สะดุ้งตื่นตอนกลางดึก
– นอนไม่หลับ
– กรดไหลย้อน
– ท้องผูก
– แสบร้อนกลางอก
แต่หากต้องการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพและมีสุขภาพดี ควรรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ และไม่ควรงดมื้ออาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง หากรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการทานอาหารเย็น เพราะกลัวว่าจะทำให้ร่างกายได้รับแคลอรีมากไป แต่ก็ไม่อยากเสียสุขภาพจากการไม่กินข้าวเย็น
อาจจะลองเปลี่ยนจากวิธีการไม่กินมื้อเย็นมาเป็นการลดมื้อเย็นแทน โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ได้ทำการทดลองเพื่อหาว่า การลดปริมาณการกินอาหารในมื้อไหนที่จะได้ผลดีมากกว่ากัน โดยแบ่งผู้เข้าร่วมงานวิจัยออกเป็นสองกลุ่ม
โดยให้ผู้เข้ารับการทดลองทั้งสองกลุ่มทานอาหารในปริมาณแคลอรีที่เท่ากัน แต่ให้กลุ่มหนึ่งทานอาหารเช้าน้อย แต่ทานอาหารเย็นมาก ส่วนอีกกลุ่มให้ทานอาหารเช้ามากและทานอาหารเย็นน้อย เป็นเวลา 12 สัปดาห์
ผลการทดลองสรุปได้ว่า กลุ่มของผู้ที่ทานอาหารเช้ามาก แต่ทานอาหารเย็นน้อยอาจลดน้ำหนักได้มากกว่ากลุ่มที่ทานอาหารเช้าน้อย แต่ทานอาหารเย็นมาก 10% ต่อ 5%
นอกจากนี้ ยังสามารถลดระดับของไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้มากถึง 33.6% ในขณะที่กลุ่มที่ทานอาหารเย็นมาก จะมีระดับไตรกลีเซอไรด์เพิ่มขึ้น 14% ดังนั้นการลดน้ำหนักที่ดีไม่ใช่การ “งด” มื้ออาหาร แต่ควร “ลด” และรับประทานในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย
อย่างไรก็ตามเราไม่ควรลดน้ำหนักเพื่อให้ใครสนใจหรือให้เป็นที่ยอมรับ แต่หากเราต้องการลดน้ำหนักให้เป็นเหตุเพราะเพียงเพราะต้องการดูแลสุขภาพจะดีกว่า ในปัจจุบันโลกได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับรูปร่างน้อยลงมาก หลายประเทศมีนโนบาย “stop body shaming” หรือไม่ว่า “Real size Beauty standard” ที่ส่งเสริมให้ทุกคนพอใจกับรูปร่างที่มี