เงินเฟ้อของไทยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ฟังดูลางไม่ดีสำหรับนักลงทุน เพราะโดยทั่วไปเงินเฟ้อก่อให้ต้นทุนธุรกิจสูงขึ้น และเมื่อธนาคารกลางอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเพื่อชะลอเงินเฟ้อ ก็ทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนสูงขึ้น ส่งผลทางลบต่อตลาดทุน
แต่ก็มีหุ้นบางประเภทที่ได้อานิสงส์จากเงินเฟ้อ กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตแยกประเภทหุ้นที่จะได้ประโยชน์ และหุ้นที่เสียเปรียบในช่วงภาวะเงินเฟ้อมาแล้ว เผื่อใครจะลองปรับพอร์ตการลงทุนช่วงนี้ดูค่ะ
หุ้นที่ได้รับประโยชน์
1. กลุ่มสินค้าเกษตร : BRR, CPF, GFPT, TFG, KSL, XO, TWPC, SUN, UVAN
2. กลุ่มอาหารส่งออก : TU, ASIAN, CFRESH
3. กลุ่มสินค้าพลังงาน : PTTEP, TOP, BANPU
4. กลุ่มโรงไฟฟ้า : BGRIM, GPSC, GULF, RATCH, EGCO, AMATA, WHAUP
หุ้นที่เสียประโยชน์
1. สินค้าฟุ่มเฟือย : ADVANC, COM7, DTAC, JMART, JUBILE, MAJOR, RS, SINGER, SYNEX, TURE
2. สินค้าตกแต่งบ้าน : DOHOME, GLOBAL, HMPRO, ILM, MODERN, SKN
3. กลุ่มการเงิน : AEONTS, KTC
4. กลุ่มปั๊มน้ำมัน-แก๊ส : OR, BCP, ESSO
5. กลุ่มบรรจุภัณฑ์ : SCGP, SFT, SFEX
6. กลุ่มขนส่ง : AAV, KEX, WICE, LEO, III, JWD, KIAT
7. กลุ่มรับเหมา : CK, STEC, ITD, UNIQ, JR, BJCHI, PYLON, SEAFCO, ILINK, ITEL, ALT, AIT
นี่อาจเป็นแนวทางคร่าวๆ สำหรับนักลงทุนไทยในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้ อย่างไรก็ตาม บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น นักลงทุนควรอัปเดตข่าวสารอยู่เสมอ ดูสถานการณ์ให้ดีและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุนนะคะ