เป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนสำหรับเรื่อง “การปล่อยสินเชื่อที่ดิน” โดยทางกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ ธนาคารออมสิน จะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมทุนธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝากกับ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาทำธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก คาดว่าจะเริ่มดำเนินธุรกิจได้ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมปีนี้
จากความร่วมมือครั้งนี้จะมีการจัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ขึ้นมา โดยไม่ได้เข้าไปซื้อกิจการหรือเทคโอเวอร์จากบริษัทอื่น มีจุดประสงค์หลักคือช่วยเหลือประชาชน ผู้ประกอบการ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ในช่วงแรกจะเริ่มเข้าไปแข่งขันในสินเชื่อที่ดินและขายฝากก่อน เพราะที่ผ่านมามีการคิดดอกเบี้ยสูงมาก จึงจะเข้าไปแข่งทำให้ดอกเบี้ยตลาดลดลงตามนโยบายของรัฐบาล และเบื้องต้นจะคิดดอกเบี้ยประมาณ 8-9% ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยในตลาดที่เก็บสูงถึง 15-30% และในระยะต่อไปบริษัทมีแผนเข้าไปประกอบธุรกิจสินเชื่อบุคคลอีกด้วย
โดยแนวทางในการบริหาร ธนาคารออมสินจะเป็นผู้กำหนดนโยบาย และในการปล่อยกู้เบื้องต้นคำนวณการปล่อยสินเชื่อสูงสุด 75% จากราคาประเมินที่ของกรมธนารักษ์ หรือ 50% ของราคาตลาด ขณะเดียวกันจะพิจารณากลุ่มที่ดินที่มีศักยภาพ ไม่เลือกที่ดินตาบอด หรือที่ดินที่มีการขุดหน้าดินออกไปขายแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจด้วย ส่วนการทำธุรกิจขายฝาก ก็จะมีการผ่อนปรนเงื่อนไขการพิจารณา และวงเงินสินเชื่อที่ยืดหยุ่นมากกว่าสินเชื่อที่ดิน
“การร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้เกิดการนำเครือข่ายเข้ามาสนับสนุนการปล่อยกู้ โดยออมสินมีความเชี่ยวชาญด้านการปล่อยสินเชื่อลูกค้ารายย่อย และมีสาขามากกว่า 1,080 แห่งทั่วประเทศ ขณะที่ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจประกันและมีทีมนักสำรวจที่มีความพร้อม ส่วนบางจาก มีสถานีบริการน้ำมันกระจายมากถึง 1,233 แห่งทั่วประเทศ”