เรื่องของคุณภาพอากาศถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ จากงานวิจัยในหลายฉบับกล่าวว่า คุณภาพอากาศส่งผลโดยตรงกับประสิทธิภาพของการทำงานสมอง หากเราอยู่ในพื้นที่หรือสถานที่ที่มีอากาศที่แย่ มีฝุ่นมลพิษ PM2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน จะส่งผลทำให้สติปัญญาลดต่ำลง เป็นภัยร้ายหากสะสมเป็นเวลานานอาจส่งผลให้เกิดภาวะสมองเสื่อม หรืออาจไปจนถึงเป็นการเป็นโรคอัลไซเมอร์
เมื่อไม่อาจเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสภาพอากาศย่ำแย่จากภายนอกได้ มาดูกันว่าเราสามารถทำบ้านของเราให้เป็น Safe Zone ปลอดจากฝุ่นยังไง แต่ก่อนอื่นกินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตของพาคุณมารู้จักก่อนว่า “ฝุ่น” คืออะไรและเกิดขึ้นได้อย่างไร และจากนั้นมาดูกันว่า 5 นวัตกรรมกำจัดฝุ่นที่กินอยู่เป็นนำมาฝากวันนี้มีอะไรบ้าง
ฝุ่นในบ้านมาจากไหน?
ฝุ่นที่สะสมภายในบ้านเกิดขึ้นได้สองทาง อย่างแรกคือ ฝุ่นที่มาจากภายนอก เช่น ฝุ่นมลพิษ PM2.5 ฝุ่นจากเขม่าควันรถ หรือแม้แต่ฝุ่นที่เกิดจากการเผาไหม้ ฝุ่นลักษณะนี้มีอนุภาคที่เล็กมากๆ แม้จะปิดประตูหน้าต่างอย่างมิดชิด ฝุ่นก็ยังเล็ดลอดเข้ามาได้ ทั้งยังเป็นอันตรายส่งผลโดยตรงกับระบบทางเดินหายใจและสมองของเรา
ส่วนฝุ่นอีกประเภท คือ ฝุ่นที่เกิดจากการก่อตัวขึ้นเองตามธรรมชาติ เกิดจากการใช้งานข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน แต่จะมีปริมาณมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าบ้านของเรามีเหตุปัจจัยใดเอื้อให้เกิดฝุ่นได้บ้าง เช่น บ้านที่มีความอับชื้นมากฝุ่นก็ยิ่งมากตาม หรือบ้านที่มีของใช้ประเภทผ้าเยอะ ของตกแต่งเยอะ ฝุ่นก็เยอะขึ้นตาม
5 นวัตกรรมที่จะช่วยขจัดฝุ่นและเชื้อโรคภายในบ้าน
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น
เป็นนวัตกรรมที่สุดแสนจะคลาสสิคแต่มากไปด้วยความพิเศษที่มากกว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบธรรมดา โดยมีจุดเด่นในเรื่องการทำงานที่เป็นแบบ “อัตโนมัติ” ส่วนใหญ่แล้วหุ่นยนต์พวกนี้จะถูกสั่งการผ่านแอปพลิเคชันหรือสมาร์ตโฟนซึ่งสะดวก รวดเร็ว แถมไม่ต้องมายืนจับให้เสียเวลา
แถมบางรุ่นมีความฉลาดถึงขั้นสามารถเทฝุ่นทิ้งถังขยะได้เอง และบางรุ่นเมื่อเสร็จจากการทำความสะอาดฝุ่นแล้ว ยังมีฟังก์ชันถูพื้นให้ด้วย และด้วยความที่เป็นอัตโนมัตินั่นเอง ทำให้ละอองฝุ่นที่ตกสะสมลงบนพื้นบ้านถูกขจัดออกด้วยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอยู่เสมอ ทำให้ภาพรวมของบ้านลดค่าฝุ่นประจำวันไปได้มาก
เครื่องกำจัดไรฝุ่น
ไรฝุ่นเป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่มองข้าม แต่รู้หรือไม่ว่าแหล่งสะสมเชื้อโรคสูงสุดในบ้านกลับเป็นจุดที่สัมผัสกับผิวกายอย่างเช่น “เบาะหรือที่นอน” รวมทั้งโซฟาประเภทผ้า สิ่งเหล่านี้หากใช้งานไปหลายปีอาจจะมีการเกิดการสะสมของไรฝุ่นตัวเล็ก ที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยไรฝุ่นเหล่านี้จะเป็นต้นเหตุในการทำให้เรานั้นเกิดโรคภูมิแพ้
เพราะฉะนั้นแล้วเครื่องกำจัดไรฝุ่นจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ โดยปกติแล้วจะมีหน้าตาคล้ายกับเครื่องดูดฝุ่น แต่จะมีข้อแตกต่างกันตรงที่หัวดูดและมีแผ่นกรอง HEPA ที่ช่วยกรองฝุ่นจิ๋วได้ดี มีกล่องเก็บฝุ่นที่แน่นหนา ช่วยป้องกันไรฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกระจายและเล็ดลอดออกมา หากใครกำลังมองหาขอแนะนำรุ่นที่มีแสง UV จะช่วยฆ่าไรฝุ่นได้โดยตรง
เครื่องฟอกอากาศ
จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงสองปี ทำให้เครื่องฟอกอากาศจึงกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับความนิยม ซึ่งเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นหรือยี่ห้อก็มีคุณสมบัติหรือจุดเด่นที่แตกต่างกันไป
จุดสำคัญของการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ คือ ระบบแผ่นกรองอากาศและขนาดที่รองรับกับพื้นที่ใช้สอยหากเป็นรุ่นทั่วไปจะใช้แผ่นกรอง HEPA ที่สามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้
แต่หากต้องการให้สามารถกรองเชื้อไวรัส รวมถึงกรองสารระเหยที่เป็นอันตราย หรือกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ กินอยู่เป็นขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีเทคโนโลยีกรองด้วยระบบพลาสมาไอออน ซึ่งจะมีการปล่อยประจุบวกลบในอากาศสามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส รวมทั้งไวรัสโคโรนาที่สะสมในอากาศได้ด้วย
Active Air Quality
เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ โดยจะมีหลักการทำงานด้วยการควบคุมอากาศตั้งแต่ก่อนเข้าบ้านและยับยั้งอากาศเสียภายในบ้าน ผ่านอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า “Supply Air Ventilator” ซึ่งช่วยกรองอากาศดีเข้าบ้านและขับอากาศเสียออกไป
อุปกรณ์ดังกล่าวจะถูกติดตั้งไว้บริเวณผนังบ้าน อากาศที่ดูดเข้ามาจากภายนอกจะต้องผ่านแผ่นกรองที่สามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้ อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ Purifier Unit ติดตั้งไว้บริเวณเพดานของห้องต่าง ๆ ใช้หลักการปล่อยประจุไอออนทำหน้าที่ดักจับ ยับยั้งเชื้อไวรัส เชื้อรา แบคทีเรียสารก่อภูมิแพ้ สารระเหยที่เป็นอันตราย รวมทั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นอับชื้น กลิ่นบุหรี่ ได้อีกด้วย
สุดท้ายคือวิธีคลาสสิคสุด คือ ให้ธรรมชาติช่วยกรองฝุ่น
สภาพแวดล้อมภายในบ้านถือเป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยทำให้จำนวนของฝุ่นภายในบ้านนั้นลดลง การปลูกต้นไม้หรือเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้านจะช่วยลดปัญหามลภาวะภายในบ้านได้
พฤติกรรมการใช้ชีวิตเราถือว่ามีผลอย่างมากกับการสร้างมลภาวะภายในบ้าน หากเดิมเรามีเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างในการดูแลบ้านหรือทำความสะอาดบ้าน ต่อให้มีนวัตกรรมมากมายยังไงปัญหาก็ยังคงอยู่ ดังนั้นแล้วง่ายที่สุดในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้คือ “การเริ่มจากตัวเอง” เช่น มีเวลาทำความสะอาดบ้าน ไม่เก็บสะสมของเยอะเกินไป หากมีของเก่าเยอะก็ควรรีไซเคิลหรือไม่ก็นำไปขายหรือบริจาค