พิษสงครามอาจทำคำทำนาย “ยุโรปร้าง ปี 2025” เป็นจริง

0
2740
kinyupen

คำทำนายของแม่หมอตาบอด “บาบา วานก้า” ที่ว่า ในปี 2025 จะไม่มีคนอาศัยอยู่ในยุโรปเลย จะเป็นจริงหรือ?

เคยได้ยินเรื่องคำทำนายที่เป็นจริงบางไหม? ทั้งเรื่องที่ทุกๆ 100 ปี จะเกิดโรคระบาดใหญ่ เรื่องกลียุค เรื่องน้ำท่วมโลก และอื่นๆ อีกมากมาย

เมื่อคำทำนายกลายเป็นคำเตือนถึงเหตุการณ์สำคัญของโลก วันนี้กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจะมาวิเคราะห์คำทำนายที่เริ่มใกล้ความจริงอีก 1 อย่างคือ “ปี 2025 จะไม่มีใครอาศัยอยู่ในยุโรปเลย” ฟังดูน่าคิด เพราะดูจากความขัดแย้งยูเครน – รัสเซีย ก็อาจเป็นชนวนเหตุให้ชาวยุโรปต้องอพยบออกจากถิ่นฐานก็เป็นได้

ผู้ที่เอ่ยคำทำนายนี้คือ “บาบา วานก้า (Baba Vanga)” แม่หมอตาบอดชาวบัลแกเรีย เธอมีชื่อเสียงจากการทำนายอนาคตของโลก แม้เธอจะเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2539 แต่ก็ยังสร้างความตะลึงได้อยู่ เพราะคำทำนายล่วงหน้าทั้งหลายนั้นแม่นยำถึง 80-90% เลยทีเดียว เธอจึงได้รับฉายา “นอสตราดามุสแห่งคาบสมุทรบอลข่าน”

 

เปิดคำทำนายที่เกิดขึ้นจริงมาแล้วของ ‘บาบา วานก้า’

เหตุการณ์ 9/11 : เธอทำนายว่าในศตวรรษที่ 21 จะมีนกเหล็ก 2 ตัวโจมตีชาวสหรัฐสเมริกา เมื่อเทียบกันแล้ว นั่นคือ “เหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน” หรือที่บางคนเรียกกันสั้นๆ ว่า “9/11” (ไนน์วันวัน) เหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายนำเครื่องบิน 2 ลำพุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนครนิวยอร์ก ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 3,000 คน ถือเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญของสหรัฐ

กลียุค : เธอทำนายปี 2021 ไว้ว่า โลกจะถึง กลียุคเกิดภัยพิบัติรุนแรง ผู้คนยากลำบาก และเกิดความแตกแยกทางความเชื่อครั้งใหญ่ และเมื่อมองย้อนกลับไปปี 2021 นั่นคือเหตุการณ์วิกฤต Covid-19 ที่ทำให้คนทั่วโลกใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ผู้คนต่างต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต เพื่อให้มีชีวิตรอดอยู่ต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์อังกฤษถอนตัวจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือเบร็กซิต, บารัค โอบามาชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ, เกิดสึนามิในปี 2547 รวมทั้งยังเกิดเหตุการณ์อื่นๆ อีกหลายเหตุการณ์ที่ตรงตามที่บาบา วานก้าทำนายไว้ล่วงหน้า

 

ด้วยคำทำนายที่แม่นยำ เราจึงจะมาวิเคราะห์คำทำนายของเธอ ที่ทำนายไว้ว่า ในปี 2025 นั้น จะไม่มีใครอาศัยอยู่ในยุโรปเลย มีปัจจัยมาจากอะไร?

สงครามยูเครน – รัสเซีย ที่กำลังเกิดขึ้น อาจทำให้ชาวยุโรปอาจต้องอพยบออกจากถิ่นฐานก็เป็นได้

แล้วเพราะอะไรล่ะ?

ยูเครน – รัสเซีย มีปัญหาขัดแย้งมาอย่างยาวนาน ซึ่งถ้าจะให้เล่า ก็คงยาวไป 3 วัน 7 วัน ใครอยากรู้ตื้นลึกหนาบาง หาอ่านได้ที่

นักวิชาการอย่าง ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ และท่านอื่นๆ วิเคราะห์ว่าพญานกอินทรีอย่างอเมริกาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังซุ่มวางเหยื่อให้รัสเซียแตกคอกับยุโรป โดยต้องการให้คู่ค้ารายใหญ่อย่างยุโรป เลิกซื้อน้ำมันและก๊าซราคาถูกจากรัสเซีย เพราะนั่น จะทำให้รัสเซียกลายมาเป็นมหาอำนาจแทนที่ตัวเอง

เมื่อถึงคราวที่หมีขาวอย่างรัสเซียต้องทำสงคราม เพราะโดนวางเหยื่อถูกจับเข้ากรง จากหมีขาวไม่ต่างอะไรจากหมา เมื่อเกิดสงครามขึ้น ยุโรปที่เคยเป็นลูกค้าซื้อก๊าซ และน้ำมันเจ้าใหญ่ ก็จะหันไปซบอเมริกาแทน แล้วจะทำอย่างไรในเมื่อรัสเซียลงทุนสร้างท่อไปแล้ว เศรษฐกิจของรัสเซียคงถึงคราวตกต่ำ เพราะไม่สามารถส่งน้ำมันและก๊าซออกไปขายได้ และนอกจากจะขายน้ำมันและก๊าซให้กับยุโรป อเมริกายังสามารถขายอาวุธให้กับยุโรปได้อีก จากนั้นอเมริกาก็จะกลับมาเป็นมหาอำนาจเดี่ยวได้ไม่ยาก

อีกทั้งถ้าเกิดสงครามในยูเครนขึ้น เส้นทางรถไฟขนส่งจากจีนผ่านยูเครนไปยุโรปก็จะชะงัก เศรษฐกิจจีนก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย เรียกได้ว่า อเมริกาเดินหมากครั้งเดียวกินเรียบไปหลายต่อ

 

แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น !

เพราะผู้ที่ได้รับผลกรรม จริงๆ แล้วคือชาวยุโรป ชาวเยอรมัน ชาวฝรั่งเศส และชาติอื่นๆ นั่นเอง ที่ต้องพึ่งพาก๊าซและน้ำมันราคาถูกจากรัสเซีย เพราะรัสเซียขายให้ในราคาถูกกว่าอเมริกาถึง 6-7 เท่า รวมทั้งสารพัดอาหาร ที่ต้องซื้อจากรัสเซียอีกต่างหาก

เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือ ภาวะเงินเฟ้อ ข้าวปลาอาหารแพงในยุโรป และจะต้องมีการจลาจลตามมาในหลายๆ ประเทศอย่างแน่นอน เพราะประชาชนดำรงชีวิตอยู่ไม่ได้ คงไม่อยู่เฉยที่ผู้นำประเทศของตัวเองไปสยบให้กับอเมริกาแทนที่จะเป็นมิตรกับรัสเซีย

สงครามครั้งนี้อาจเป็นชนวนทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นสิ่งที่คนจากทั่วทุกมุมโลกไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงๆ ชาวยุโรปจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะด้วยพื้นที่ที่ใกล้เคียง รวมถึงปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในยุโรป อาจมีการจลาจลเกิดขึ้น แล้วมีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ผู้คนอดทนไม่ไหว จึงจำเป็นต้องย้ายถิ่นฐาน

อ่านมาถึงตรงนี้ ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็คงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน แต่อย่างไรก็ตาม อีก 3 ปีข้างหน้านี้ มาดูกันว่าคำทำนายนี้… จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่

kinyupen