บริจาค “ขนหมออ้อย” ช่วยโลก กับ โครงการ Pubes for the Planet

0
1207
kinyupen

คงไม่มีใครเก็บขนหมออ้อยที่ร่วง ยกเว้นตอนทำความสะอาดห้องน้ำ แต่พอมีโครงการ Pubes for the Planet ผู้คนกันชักจะเริ่มเก็บขนหมออ้อยกันแล้ว เพราะโครงการนี้เขาให้เอาขนหมออ้อยตัวเองไปแลกกับครีมโกนขนหมออ้อยโดยเฉพาะ

ฟังดูพิลึกว่าผู้จัดโครงการจะเอาขนหมออ้อยไปทำไม? ดูเหมือนโครงการรับบริจาคขนหมออ้อยนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้นะ กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจะมาแชร์โครงการอันน่าเหลือเชื่อนี้ให้ฟัง

 

 

  • Pubic hair ในภาษาอังกฤษ หมายถึง “ขนหมออ้อย, ขนเพชร, ขนตะมอย”

 

Hair ของมนุษย์ทุกชนิดสามารถช่วยลดการพังทลายของดินได้

ผู้ทำโครงการนี้อธิบายว่าโลกของเราสูญเสียดินชั้นบนไปครึ่งหนึ่งในช่วง 150 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงทางอาหารเพิ่มขึ้น มลภาวะในแม่น้ำ ภาวะโลกร้อนและน้ำท่วม และ Hair ที่เราทิ้งๆ ไปก็ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมเสียด้วย

ผมบนหัวที่ร่วงยังไม่เท่าไหร่ แต่ขนหมออ้อยนั้นไหลลงสู่แหล่งน้ำในเมืองใหญ่ๆ ปีละมากๆ เพราะหลายคนนิยมโกน hair ส่วนนี้ทิ้งลงท่อหรือขยะซึ่งสามารถไหลลงสู่แหล่งน้ำใกล้เคียงทำให้เกิดมลพิษประเภทหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลแทน

 

มลพิษนั้นเรียกว่าภาวะยูโทรฟิเคชัน (Eutrophication) คือ ซึ่งเป็นมลภาวะจากธาตุอาหารพืชที่เกิดขึ้นจากการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของแพลงก์ตอนพืชและสาหร่ายในแหล่งน้ำจืดต่างๆ เป็นมลพิษประเภทหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลและแหล่งน้ำธรรมชาติ

 

โครงการ Pubes for the Planet จึงออกมาเก็บรวบรวมขนหมออ้อยเพื่อช่วยโลก!

 

 

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท EOS (บริษัท สกินแคร์ผู้ผลิตครีมโกนขน) และ Matter of Trust ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เขาพบว่าตั้งแต่โครงการนี้เปิดตัวก็ได้รับผลตอบรับดีสุดๆ ว่ามีคนเต็มใจส่งขนหมออ้อยมาแลกกับครีมโกนขน เพื่อช่วยลดปัญหามลภาวะในน้ำ มากซะจนโกดังเก็บขนหมออ้อยมีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการเก็บขนหมออ้อยที่ผู้บริจาคส่งมาเลย

 

ยิ่งไปกว่านั้น โครงการ Pubes for the Planet ยังประกาศว่าพวกเขากำลังมีแผนสร้างสวนสาธารณะที่ใช้ของเสียที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพโดยเฉพาะ ก็เอาของเสียจำพวกแฮร์ทั้งหลายเข้าสู่ระบบกำจัด/ย่อย เพื่อนำมาใช้บำรุงดิน และเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ พวกเขาจะนำมันมาปลูกพืชใน Pube Park

 

ไม่แน่เราอาจได้เห็นโปรดักส์ขนหมออ้อยในรูปแบบต่างๆ ออกมาอีกก็เป็นได้ น่าสนใจจริงๆ ว่าวันข้างหน้าจะมีโครงการน่าเหลือเชื่ออะไรออกมาอีกไหมนะ

 

ที่มา: https://futurism.com/the-byte/environmental-hair

kinyupen