กว่า 2 ปีแล้วที่ทั่วโลกตกอยู่ในวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต และคาดหวังให้การระบาดนี้จบๆ ไปเสียที แต่ข่าวร้าย…มันไม่จบลงง่ายๆ เพราะโลกยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคระบาดอื่นมาแทนที่ ซึ่งไม่ใช่แค่โควิดกลายพันธุ์ แต่เป็นโรคใหม่
เตรียมรับแรงกระแทกได้เลย กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตมีทิศทางการเกิดโรคร้ายแรงในอนาคตจาก บิล เกตส์ (Bill Gates) นักธุรกิจผู้โด่งดังและผู้ก่อตั้ง Microsoft มาฝาก
“เราจะมีการระบาดใหญ่อีกครั้ง มันจะเป็นเชื้อโรคที่แตกต่างกันในครั้งต่อไป” บิล เกตส์ กล่าว
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 บิล เกตส์ ประธานร่วมของมูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation กล่าวกับ Hadley Gamble ของ CNBC ในระหว่างเข้าร่วมการประชุมด้านความมั่นคงที่เมืองมิวนิก เยอรมนี โดยระบุชัดว่า
สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้กำลังคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่ทั่วโลกจะต้องเผชิญกับการระบาดระลอกใหม่จากเชื้อโรคที่แตกต่างออกจากตระกูลโคโรนาไวรัส
โดยเขากล่าวย้ำว่า ปัญหาจากการเผชิญกับการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะไม่ใช่วิกฤตที่น่าตื่นตระหนกอีกต่อไป หากทั่วโลกหันมาร่วมมือและจัดสรรงบประมาณในการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างจริงจัง
“โอกาสของการเกิดโรคร้ายแรง ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ และคนที่เป็นโรคอ้วนหรือโรคเบาหวาน ความเสี่ยงเหล่านี้ลดลงอย่างมากจากการติดเชื้อนั้น” โดยเขามั่นใจว่าเทคโนโลยีทางการแพทย์นี้จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ทั่วโลกทำงานต่อสู้รับมือกับโรคระบาดต่างๆ ได้ดีมากขึ้น
เกตส์ กล่าวว่า “สายเกินไป” ที่จะบรรลุเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกในการฉีดวัคซีน 70% ของประชากรโลกภายในกลางปี 2022 ปัจจุบันมีสัดส่วน 61.9% ของประชากรโลกได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโดส
เขาจึงเสริมให้ทั่วโลกควรเร่งเดินหน้าพัฒนาและแจกจ่ายกระจายวัคซีนให้รวดเร็วและทั่วถึง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลไม่ลืมจัดสรรงบเพื่อลงทุนด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อที่ว่าในกรณีที่เกิดการระบาดครั้งหน้า จะใช้เวลาที่สั้นลง
“คราวหน้าเราควรพยายามทำให้มันสำเร็จ แทนที่จะใช้เวลาสองปีกว่าที่สถานการณ์การระบาดจะคลี่คลาย เราควรใช้เวลาเพียงแค่ 6 เดือน” พร้อมเสริมว่าแพลตฟอร์มมาตรฐาน ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยี messenger RNA (mRNA) จะทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้
“ค่าใช้จ่ายในการเตรียมพร้อมสำหรับการระบาดใหญ่ครั้งต่อไปนั้นไม่ได้มากมายเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการรับมือกับภาวะโลกร้อน ใช่ คราวหน้าเราจะจับให้ได้ก่อน”
ทั้งนี้ บิล เกตส์ ภายใต้มูลนิธิ Bill & Melinda Gates ได้ร่วมมือกับทาง Wellcome Trust ของอังกฤษ บริจาคเงิน 300 ล้านดอลลาร์ให้กับความร่วมมือแนวร่วมเพื่อนวัตกรรมการเตรียมความพร้อมในการแพร่ระบาด หรือ Coalition for Epidemic Preparedness Innovations (CEPI)
โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมทุนให้ได้ 3.5 พันล้านดอลลาร์ สำหรับเป็นงบสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนตัวใหม่ให้สำเร็จภายใน 100 วัน ในกรณีที่เกิดโรคระบาดระลอกใหม่
ในส่วนของสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดในปัจจุบัน หลายฝ่ายยอมรับว่าเหตุผลหลักที่ทำให้สถานการณ์การระบาดคลี่คลายไปในทางบวก เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่สามารถคิดค้นและผลิตวัคซีนออกมาจัดการกับโควิดได้
ทั้งนี้ สเตฟานอส เคลส์ ศาสตราจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ยังคงให้ความรู้เกี่ยวกับโรคระบาดโควิด-19 ไว้ว่า
สำหรับคนปกติที่ร่างกายแข็งแรง ไม่ได้เจ็บป่วยหรือมีโรคประจำตัวใดๆ หากได้รับวัคซีนจนครบโดสบวกกับเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 แล้ว ก็น่าจะเดินทางได้อย่างสบายใจมากขึ้น ขณะที่คนที่มีโรคประจำตัว ก็สามารถใช้ชีวิตได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกติ
สุดท้ายนี้กินอยู่เป็นขอให้ทุกคนรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี ใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังและดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพิ่มภูมิต้านทานให้มากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงในโรคระบาดไม่ว่าจะโควิด-19 หรือโรคใหม่ก็ตาม
กินอยู่เป็นขอขอบคุณที่มาจาก
Bill Gates: Covid risks have reduced but another pandemic will come (cnbc.com)