เลี้ยงลูก 1 คน ใช้เงินเท่าไหร่ เช็กลิสต์ความพร้อมก่อนมีลูก

0
988
kinyupen

เข้าสู่วิกฤตอัตราการเกิดน้อย แม้รัฐจะจูงใจให้คนไทยมีลูกอย่างไร ก็เจอกระแสตีกลับมากมาย เพราะเสียงส่วนใหญ่มองว่าสังคมไทยในปัจจุบัน ไม่เอื้อต่อการมีลูกและครอบครัว การมีลูกคือภาระที่หนักอึ้ง แค่เอาตัวเองให้รอดก็แทบแย่แล้ว ยังไม่นับเรื่องการลาคลอด ลาไปเลี้ยงดูบุตรที่ไม่ยืดหยุ่น ก็ต้องรบกวนฝากตายายเลี้ยงอีกแหละ

หากจะมีลูกแบบไม่หวังพึ่งพารัฐ อยากพึ่งพาตัวเอง ต้องมีเงินเท่าไหร่? แล้วคนจะมีลูกต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตมีคำตอบมาให้คุณแล้ว

เตรียมพร้อมเรื่องเงินก่อนมีลูก

ควรมีเงินเก็บให้ถึง 300,000 ก่อน ก่อนมีลูก

การมีลูกไม่ใช่เรื่องเล็กๆ จึงต้องมีเงินสำรองจำนวนหนึ่งเผื่อไว้ใช้ยามฉุกเฉินอยู่เสมอ นอกจากนี้ต้องคิดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย ให้ถามตัวเองว่าจะหาเงินเลี้ยงตัวเองและเก็บเงินให้ลูกได้อย่างไร มากน้อยเพียงใด ซึ่งโดยปกติแล้วค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูกจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5-25 ของรายได้ครอบครัว

 

ต้องเสียเงินค่าอะไรบ้าง? เมื่อมีลูกสักคน

  • ค่าฝากครรภ์ ค่าพบแพทย์ ค่าทำคลอด โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะอยู่ระหว่าง 50,000 – 100,000 บาท ในช่วงเวลา 9 เดือน
  • ค่าอุปกรณ์สำหรับเด็กแรกเกิด เช่น เสื้อผ้าเด็ก ผ้าอ้อม นม เครื่องอุ่นนม แปลนอน เครื่องอาบน้ำ โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะตกราวๆ 30,000 – 50,000 บาทในการจ่ายขั้นต้น และตลอดเวลาของการเลี้ยงดูหลังจากนั้นอีกราวๆ 5,000 – 10,000 บาทต่อเดือน
  • ค่าอาหารของลูก ประมาณ 3,000 – 5,000 บาทต่อเดือน (ยังไม่รวมค่ารักษา ค่าฉีดวัคซีนต่างๆอีกนะ) และอย่าลืมสังเกตว่าลูกแพ้อาหารอะไร
  • ค่าพี่เลี้ยงเด็ก 5,000 – 10,000 บาทต่อเดือน
  • ค่าเล่าเรียนลูก ลองนับแค่ชั้นเตรียมอนุบาลจนถึงจบชั้นประถม ลูกเราก็ต้องเรียนอย่างน้อย 9 ปี ซึ่งรวม 9-10 ปีนี้จะมีค่าเล่าเรียน 200,000 – 500,000 บาท (ยังไม่รวมอุปกรณ์การเรียนขึ้นอยู่กับโรงเรียน และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลนะ)
  • ค่าใช้จ่ายเสริม ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว
  • ค่าทำประกันชีวิตให้กับคนในครอบครัว

 

 

นอกจากเรื่องเงิน ต้องเตรียมพร้อมเรื่องอะไรบ้าง

  • รักและเข้าใจกันมากพอแล้วหรือยัง? พ่อแม่ที่ทะเลาะกันหรือไม่มีเวลาเลี้ยงลูก จนลูกต้องเสียคนไปก็มีให้เห็นเป็นประจำ
  • สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด คนเยอะ ฝุ่นเยอะ
  • เวลาส่วนตัวที่หายไป ชีวิตอิสระต้องหมดลงไปกับการเลี้ยงดูลูกน้อย ซึ่งคุณอาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกสักพักกว่าจะเคยชิน
  • เวลาแห่งการอดหลับอดนอน หากลูกร้องกลางดึก คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องตื่นมาดู ทำให้การจะนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มรวดเดียวก็เป็นไปได้ยาก ควรหาโอกาสแบ่งเวลาพักผ่อน ก่อนต้องอดหลับอดนอนจนต้องเสียสุขภาพ
  • ดูแลตัวเองมากพอหรือยัง? ควรลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ แล้วหันมาใส่ใจกับอาหารการกิน สละเวลาออกกำลังกาย
  • มีแหล่งให้คำปรึกษาหรือยัง? เช่น ผู้ใหญ่หรือผู้ที่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการให้คำแนะนำในการเลี้ยงลูก

 

ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงเรื่องสังคม การเมืองซึ่งเป็นสิ่งที่เราควบคุมได้ยาก อย่างไรก็อยากให้คุณผู้อ่านลองเช็กลิสต์ดูว่ามีข้อไหนที่หายไปจากใจเราบ้าง เพื่อให้เจ้าตัวน้อยใช้ชีวิตบนโลกนี้อย่างมีความสุขนะคะ

 

กินอยู่เป็นขอขอบคุณข้อมูลจาก

kinyupen