หญิงโสด VS ชายโสด ใครควรเก็บเงินเกษียณมากกว่ากัน?

0
861
kinyupen

หลายคนคงมีคำถามว่า ค่าใช้จ่ายที่มาพร้อมความ “โสด” มีอะไรบ้าง และระหว่าง “หญิงโสด” กับ “ชายโสด” ใครควรมีเงินเก็บมากกว่ากัน

กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตมีสาระดีๆ จาก fintips by ttb มาฝาก เพื่อให้เกษียณสุข การเงินไม่ขัดสนในยามชรา ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม

 

 

มาดูกันก่อนว่าอะไรบ้างที่เป็นค่าใช้จ่ายของคนโสด

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2561 พบว่าคนโสดมีรายจ่ายเพื่อการบริโภคต่อหัว หรือรายจ่ายเพื่อการกิน เที่ยว สังสรรค์ และช้อปปิ้งมากกว่าคนมีครอบครัวถึง 11% โดยระหว่างหญิงกับชายจะมีรายจ่ายที่แตกต่างกันดังนี้

 

ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรค

ข้อมูลของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ผู้ชายไทยมีอายุเฉลี่ย 72.2 ปี ในขณะที่ผู้หญิงมีอายุเฉลี่ย 78.9 ปี เพราะผู้ชายมีปัจจัยเสี่ยงทางด้านสุขภาพที่เกิดจากพฤติกรรมมากกว่า เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือการทำงานหนัก และเสี่ยงอันตรายมากกว่าผู้หญิง แต่อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงกับผู้ชายต่างมีความเสี่ยงในการเผชิญกับโรคร้ายแรงได้ไม่ต่างกัน

 

ค่าดูแลยามเจ็บป่วย เมื่อเราสูงอายุ

การมีอายุขัยเฉลี่ยที่ยืนยาวของผู้หญิง นำมาซึ่งค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่ง คือ ค่าใช้จ่ายในการดูแลยามเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งหากเลือกจะเป็นโสด จำเป็นต้องเตรียมค่าใช้จ่ายตรงนี้เอาไว้ เช่น เมื่อมีอายุครบ 70 ปี เท่ากับว่าผู้หญิงจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มากกว่าผู้ชาย โดยสามารถคำนวณได้ดังนี้

 

สูตรคำนวณค่าดูแลผู้สูงอายุต่อเดือน จาก set.or.th

อายุขัยเฉลี่ย – 70 ปี = ระยะเวลาที่เราต้องการผู้ดูแล

ระยะเวลาที่เราต้องการผู้ดูแล (เดือน) x ค่าดูแลผู้สูงอายุต่อเดือน (บาท) = ค่าใช้จ่ายที่เราต้องเตรียมไว้

 

ตัวอย่าง

หากผู้หญิงอายุ 78.9 ปี – 70 ปี = 8.9 ปี

105 x 27,100 = 2,845,500 บาท

ฉะนั้น ผู้หญิงที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลยามเป็นผู้สูงอายุ เป็นเงิน 2,845,500 บาท

 

จากข้อมูลข้างต้น สิ่งที่ยกมาเปรียบเทียบเป็นเพียงตัวอย่างที่ช่วยให้เห็นภาพเท่านั้น ในชีวิตจริงยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นตัวประกอบสำคัญ นอกจากการเตรียมค่าดูแลยามเจ็บป่วยอีกด้วย

 

 

อย่างไรก็ตาม ทั้งหญิงโสด และชายโสด  ก็ต้องมีการวางแผนชีวิตไม่ต่างจากคนมีครอบครัว ครอบคลุมถึงเรื่องการเงินด้วยเช่นกัน เพื่อให้เราสามารถใช้จ่ายได้แบบสบาย ๆ เตรียมตัวให้พร้อมที่จะใช้ชีวิตโสดอย่างมีคุณภาพ มีชีวิตการเงินที่ยั่งยืน มีเงินเก็บพร้อมใช้จ่ายสบาย ๆ ยามเกษียณ

 

 

5 ข้อที่ควรทำเพื่อวางแผนการเงิน ให้มีเงินเหลือใช้หลังเกษียณ 

 

  1. เตรียมเงินเผื่อใช้ฉุกเฉิน ควรจัดสรรเงินออมไว้ให้เป็นสัดส่วน โดยทำบัญชีรายรับรายจ่าย และจัดการหนี้สินที่ไม่จำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงในการเสียเงินก้อนใหญ่ในอนาคต

 

  1. ซื้อประกันคุ้มครองอุ่นใจ ทั้งประกันชีวิตและประกันสุขภาพ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายจากโรคภัย และอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะประกันชีวิตจะเป็นส่วนช่วยจัดการวางแผนการเงินที่รัดกุมให้กับทุกคนได้

 

  1. หาช่องทางลงทุนเพิ่ม นอกจากรายได้เงินเดือนที่ได้รับเป็นประจำแล้วควรมองหาช่องทางการลงทุนเพิ่มเติม เช่น ลงทุนในกองทุนต่าง ๆ การซื้อสลากออมทรัพย์ หรือแม้แต่การลงทุนในตลาดหุ้น ทั้งการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (Dollar Cost Averaging หรือ DCA) หรือการลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐาน (VI) ซึ่งเป็นช่องทางที่ช่วยสร้างโอกาสให้เงินเก็บของเรางอกเงย ไว้ใช้สบาย ๆ หลังเกษียณ

 

  1. เก็บเงินใช้หลังเกษียณ วางแผนชีวิตอย่างรอบคอบ โดยวิธีคำนวณเงินเก็บใช้หลังเกษียณ คือค่าใช้จ่ายรวมต่อเดือน x 12 x จำนวนปีที่อยู่หลังเกษียณ x 2 เท่า (เพื่อป้องกันเงินเฟ้อ)

 

  1. มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง มองหาที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราในช่วงที่เรายังมีรายได้จากการทำงาน และวางแผนผ่อนชำระให้หมดก่อนวัยเกษียณ เพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตหลังเกษียณได้แบบสบาย ๆ และมั่นคงมากขึ้น

 

 

“โสดอย่างสตรอง และแฮปปี้” ไม่ว่าหญิงหรือชาย ต้องไม่ลืมวางแผนชีวิตและการเงิน คำนวณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เตรียมพร้อม หาตัวช่วยที่จะทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคง อุ่นใจ หากเตรียมพร้อมครบทุกอย่าง ก็มั่นใจได้เลยว่านับจากนี้ไปจะเป็นชีวิตที่ไร้กังวลอย่างแน่นอน

 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

kinyupen