ได้เวลาปรับพอร์ตการลงทุนรับปีใหม่ ความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจเป็นเรื่องปกติที่ทำให้เราต้องคอยเช็กข่าว ค่อยเพิ่มลดสัดส่วนการลงทุนอยู่เสมอ ผู้ที่รู้จักปรับตัวมักหยิบจับโอกาสได้
สำหรับนักลงทุนที่สนใจซื้อกองทุนรวมเพิ่ม หรือกำลังมองหากองทุนดีๆ เพื่อปรับสัดส่วนให้เข้ากับสถานการณ์ กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตมี “เช็กลิสต์กองทุนที่ควรมีติดพอร์ตปี 2565” ฉบับอัปเดต 4 ธันวาคม 2564 ซึ่งหลายๆ ตัวสามารถถือยาวๆ ได้ 3-5 ปีเลยทีเดียว
เช็กลิสต์กองทุนที่คุณควรมีติดพอร์ตปี 2565
1. Digitalization : ธีมหุ้นที่เติบโตตามเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของโลกสู่ยุคใหม่
เช่น 5G AI โดรน บล็อกเชน (Blockchain) Cloud และในอนาคตเทรนด์ที่มาแน่นอนคือ Metaverse ซึ่งกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลประโยชน์คือ ฮาร์ดแวร์ ธุรกิจเกี่ยวกับเกม ผู้ผลิตชิป
แม้โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่มีแววจะทำให้โลกรวน แต่ธีมเทคโนโลยีจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ถึงแม้หุ้นเทคโนโลยีจะถูกปรับตัวลง ก็ไม่ได้ร่วงรุนแรงเหมือนหุ้นกลุ่มอื่นๆ ในขณะที่กลุ่ม New economy ก็ยังไปต่อได้ เพราะหากสุดท้ายคนต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านอีกครั้ง เทคโนโลยีก็กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างกองทุนแห่งอนาคต
-
- B-INNOTECH : อินโนเวชั่นและเทคโนโลยี
- SCBDIGI : ดิจิตอล
- WE-PLAY : เกมและอีสปอร์ต
- PRINCIPAL GCLOUD : คลาวด์
2. กองทุน ESG (Environment, Social, Governance) หรือกองทุนความยั่งยืน จะเป็นเทรนด์ที่มาใน 10 ปีข้างหน้า
บริษัททั่วโลกเริ่มให้ความสนใจในการดำเนินธุรกิจที่ช่วยทำให้โลกเราดีขึ้น ไม่ต้องเบียดเบียนใคร ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และทำตามหลักธรรมมาภิบาล ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า การลงทุนจะมีเรื่องของ ESG เข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกที่ทุกประเทศ
ที่เห็นได้ชัดคือ จีน-สหรัฐฯ กำลังแข่งกันลดปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ และทั่วโลกเริ่มมีนโยบายลดภาวะโลกร้อนที่กำลังเป็นเทรนด์ในตอนนี้
ตัวอย่างกองทุน ESG ที่มีนโยบายเน้นการลงทุนอย่างยั่งยืน
-
- MRENEW
- WE-GSECURE
- K-CHANGE
- UESG
3. Health Care
เนื่องจากผู้คนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น มีเทคโนโลยีที่ช่วยลดต้นทุนและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เปิดโอกาสในการเข้าถึงยิ่งขึ้น
- กลุ่มยา (Pharmaceutical)
- กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)
- กลุ่มเครื่องมือแพทย์ (Health Care Devices)
- กลุ่มบริการทางการแพทย์ (Health Care Services)
- กลุ่มประกันสุขภาพ (Health Insurance)
- กลุ่มเทคโนโลยีการแพทย์ (Data Management & IT)
ตัวอย่างกองทุน Health Care
-
- BCARE (Global Healthcare)
- K-GHEALTH (Global Healthcare)
- TBIOTECH (Biotech)
- PRINCIPAL GHEALTH (HealthTech)
4. ธีมหุ้นรับการฟื้นตัวเศรษฐกิจ และได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นในวันข้างหน้า
– สถาบันการเงิน ไฟแนนซ์ และฟินเทค
– กองทุนที่ลงทุนในประเทศเวียดนาม** ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา มีดอกเบี้ยสูง เศรษฐกิจเติบโตไว
ตัวอย่างกองทุนเวียดนาม
-
- E1VFVN3001 (ตัวนี้เป็น ETF ต้องซื้อกองทุนนี้ในตลาดหลักทรัพย์)
- K-VIETNAM
- PRINCIPAL VNEQ-A
- ASP-VIET
5. กองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก
สินทรัพย์ทางเลือกจะเติบโตพร้อมกับเงินเฟ้อ ซึ่งหลังเศรษฐกิจฟื้นตัวเงินเฟ้อมาแน่ ได้แก่ สินทรัพย์ดิจิทัล ทอง น้ำมัน กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งควรมีสัดส่วน 10-20% ของพอร์ตการลงทุน
ตัวอย่างกองทุนสินทรัพย์ทางเลือก
-
- SCBGOLDH (ทองคำ)
- K-GOLD (ทองคำ)
- TISCOOIL (น้ำมัน)
อย่างไรก็ตาม “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน”
สำหรับมือใหม่หัดลงทุนกินอยู่เป็นแนะนำให้ศึกษาจากบทความเก่าๆ ควบคู่กัน และควรใช้เงินเย็นในการลงทุน เพื่อไม่ให้เกิดกระทบกับชีวิตประจำวันเมื่อเกิดวิกฤตฉุกเฉิน เพราะการลงทุนในความรู้ จะช่วยลดความเสี่ยงไปได้มาก
กินอยู่เป็นของขอบคุณที่มาจาก