Work from Home แบบนี้ทาสแมวหลายคนคง happy เพราะได้อยู่กับแมวแล้ว!!!! แต่หารู้ไม่ว่าเจ้าทาสทั้งหลายอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้แมวเครียด และรู้สึกว่าไม่มีความสุขเหมือนเมื่อก่อน ต้องบอกว่าอาการเครียดเกิดได้ทั้งคนและสัตว์ ซึ่งคนแต่ละคนก็จะมีอาการเครียดที่แตกต่างกันออกไป
แต่อาการของสัตว์นั้นส่วนใหญ่จะคล้ายกันเนื่องจากเขามีความรู้สึกนึกคิดว่าชอบ หรือไม่ชอบ สิ่งไหนทำให้มีความสุขสิ่งไหนทำให้เครียด ซึ่งเหตุผลไม่ได้มีมากเท่ากับมนุษย์เพราะสัตว์ส่วนใหญ่ อย่างเช่น แมว เรียนรู้พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีและปลอดภัยจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว แล้วสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้ให้แมวเครียดกันล่ะ?
เรื่องเครียดของแมว ต้องบอกว่าถ้าปล่อยน้องอยู่ตามธรรมชาติปกติ น้องแมวที่น่ารักของเราก็จะไม่เครียดมาก แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ที่มนุษย์ต้องอยู่บ้าน ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในบ้านต้องการเยียวยาความเครียดตัวเองด้วยความน่ารักของน้องเหมียว แต่ไม่รู้เลยว่าน้องเหมียวเองนั้นก็รำคาญ และเครียดไม่แพ้กัน
เหมียว เหมียว เหมียวว เหมียว! (แปล: เลิกตอแยเลาได้แล้ว นุด!!! ขอเรานอนหน่อย)
เมื่อรู้แบบนี้แล้วการเครียด ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์มันก็ไม่ดีต่อร่างกายทั้งนั้น กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต จึงมาบอกพฤติกรรมที่คุณอาจทำร้ายน้องแมว ให้เครียดมากเกินไป โดยที่ไม่รู้ตัว
บ้านเกิดการเปลี่ยนแปลง
อยู่บ้านทั้งที จัดที่หลับที่นอนให้น้องใหม่ดีกว่า จะได้เปลี่ยนบรรยากาศ เหมียว!!! (แปล: หยุดเลยนุด!!!) นิสัยส่วนตัว น้องเหมียวเป็นสัตว์ที่หวงอาณาเขตมาก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมภายในบ้านจึงทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการจัดหรือการเพิ่มเฟอร์นิเจอร์ใหม่ หรือแม้แต่บ้านที่รกขึ้นก็เช่นกัน สิ่งนี้ก็ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่สำหรับน้องแล้วล่ะ
ดังนั้นเมื่อ ต้องการเปลี่ยนแปลงการจัดบ้าน สิ่งที่ต้องระมัดระวังมากที่สุดคือตำแหน่งของ จุดที่ให้น้ำให้อาหาร ที่นอนแมว กระบะทรายแมว รวมถึงกล่องใบเล็กๆ ที่ใช้หลบภัยของเขา จะต้องไม่ถูกขยับออกจากจุดเดิม หรือไม่ควรจะมีสิ่งกีดขวางใดมาบดบังไม่ให้น้องแมวเดินไปยังจุดคุ้นชินแม้แต่น้อย เนื่องจากการเคลื่อนย้ายของของเขา หรือแม้แต่การปิดทางเข้า สามารถสร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างทันทีให้กับเจ้าเหมียวของเราได้ จนกลายเป็นสาเหตุของความเครียด
ย้ายบ้าน
สถานการณ์ในพื้นที่ ที่อาศัยอยู่ตอนนี้เป็นเขตสีแดงเข้ม ย้ายบ้านกลับต่างจังหวัดดีกว่าปลอดภัย เอาน้องกลับไปด้วยจะได้ไม่ติดเชื้อ เหมียววว เหมียว เหมียวว (แปล: แงงง นุดเลาไม่อยากไปเลย) การถูกย้ายไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ที่น้องแมวคาดเดาไม่ได้นับเป็นเรื่องยาก อย่าลืมว่าน้องแมวเป็นสัตว์นักล่า และโดยวิสัยของนักล่าแล้วเขาย่อมระมัดระวังและต้องการรู้จักทุกอย่างรอบๆ ตัวอยู่เสมอ ดังนั้นหาก มีความจำเป็นจะต้องย้ายบ้าน ลองทำตามข้อแนะนำดังต่อไปนี้
- แกะกล่องจัดของภายในบ้าน ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ก่อนที่เจ้าเหมียวของเราจะมาถึง เพื่อช่วยให้เขาไม่ต้องเครียดขึ้นเรื่อยๆไป พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นระหว่างที่เราแกะกล่องต่างๆ
- นำของเล่นชิ้นโปรดของเขามาด้วย และวางไว้ในที่ที่คล้ายๆ กับที่เคยวาง
- ปล่อยให้น้องได้ทำความคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมใหม่ของเขาด้วยวิธีของเขาเอง
- ให้ความรักความอบอุ่นแก่เขามากเท่าที่เราจะทำได้
มีเพื่อนใหม่หรือคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ด้วย
ตั้งแต่อยู่บ้านเยอะขึ้นเห็นน้องซึมๆ เอ๊ะ หรือน้องจะเหงานะ หาเพื่อนให้น้องดีกว่าจะได้เล่นกัน เหมียว!! เหมียว เหมียว (แปล: ไม่! ไม่! ไม่นะ!!!! ) ปกติแมวสร้างอาณาเขตของเขาด้วย “กลิ่น” ซึ่งเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญ และกลิ่นที่ไม่คุ้นเคยอาจถูกตีความว่าเป็นการรุกล้ำไปยังดินแดนของพวกเขา และสร้างความตึงเครียดได้ แมวตัวใหม่ สุนัข เด็กทารก หรือแม้แต่คู่รักของเราอาจจะเป็นตัวกระตุ้นความวิตกกังวลของเขาได้ อันที่จริงแค่แขกที่แวะมาเยี่ยม หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงที่เข้ามาชั่วครั้งชั่วคราวก็เป็นสาเหตุของความเครียดได้ด้วยนะ
แล้วจะทำอย่างไรดีหากต้องเพิ่มสมาชิกใหม่ภายในบ้าน?
- สร้างความคุ้นเคยด้วยผ้าห่ม ของเล่น หรือเสื้อผ้าที่เป็นของของผู้มาใหม่
- ให้เจ้าเหมียวและเพื่อนใหม่ของเขาได้พบกันแบบสั้นๆ ในบริเวณที่เราคอยดูแลแมวได้
- ค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาการอยู่ด้วยกันระหว่างเพื่อนใหม่ทั้งสอง ไม่ว่าคนหรือสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าเจ้าเหมียวจะรู้สึกสบายใจ
คนรู้ใจหายไป
เหมียว…(แปล: ไหนนุดบอกจะอยู่แต่บ้านไง Work from home ทิพย์เหรอ?) การสูญเสียหรือการหายไปของใครบางคน (หรือบางตัว) นั้นยากเสมอสำหรับน้องแมว เหมือนๆ กับมนุษย์นั่นแหละที่เมื่อเวลาเราเสียคนสำคัญ หรือคนที่เราสนิทด้วยไปก็จะทำให้เรารู้สึกไม่ดี เหตุการณ์เหล่านี้อาจจะทำให้เจ้าเหมียวของเราต้องประสบปัญหาความเครียดได้
เราสามารถเยียวยาน้องแมวได้ด้วยการเพิ่มกิจกรรมนอกบ้านหรือในสถานที่ใหม่ๆ โดยไม่บังคับเขาจนมากเกินไปเพื่อให้บรรยากาศนั้นช่วยบรรเทาความเครียดของเขาลงนั่นเอง
ถูกเล่นด้วยมากเกินไป
น้องแมวชอบตามรอยเสียงแปลกๆ ก็จริง แต่จำไว้ว่าต้องอยู่ในระดับที่พอดีเท่านั้น!!!! เหมียววววววว (แปล: คำว่าพอดีนุดรู้จักไหม?) เพราะเสียงดนตรีดังๆ เสียงโทรทัศน์ หรือเสียงของสัตว์เลี้ยงตัวอื่น อาจทำให้เจ้าเหมียวของเราวิตกกังวลได้ ถ้าเขาดูเริ่มเครียดแล้ว ลองหรี่เสียงลงดูก็เป็นวิธีที่ช่วยได้มาก
การสัมผัสเนื้อตัวของเขาเช่นกัน ถ้ามากเกินไปก็อาจทำให้เจ้าเหมียวของเราทำตัวไม่ถูก ลองสังเกตภาษากายของเขาเวลาที่ถูกแตะตัวดู เราจะสามารถบอกได้ว่า สัมผัสประมาณไหนที่พอดี สัมผัสไหนพอนิ่งแล้วเอาใหญ่เลยนะนุด แง่ม!! ถ้าแมวของเราต้องการการสัมผัส ให้ลองนวดเขาเบาๆ ใช้ปลายนิ้วของเราหมุนเป็นวงกลมไปเรื่อยๆ การนวดแบบนี้จะช่วยให้น้องเหมียวรู้สึกผ่อนคลายได้
เมื่อทุกคนได้รู้วิธีจัดการความเครียดของแมวตัวเองแล้ว ก็พยายามเลี่ยงในสิ่งที่เขาไม่ชอบหรือบังคับเขาเกินไปเหมือนกับคนที่ไม่ชอบกินผัก ป้อนให้กินยังไงก็ไม่กิน การเลี้ยงแมว หรือสัตว์ตัวอื่นๆ ก็เช่นกัน เราเลี้ยงเขา เพื่อให้เขาช่วยเยียวยาเรา อย่าลืมว่าเขาเองก็ต้องการ การเยียวยาเหมือนกัน เปรียบเหมือนความสัมพันธ์ที่ไม่มีจบสิ้นต้องเข้าใจและส่งเสริมซึ่งกันและกัน เรียกได้ว่าเป็นมิตรภาพที่สวยงาม สุดท้ายนี้ อยู่บ้านอย่าลืมให้เวลาส่วนตัวกับน้องแมวบ้างนะเหล่าทาส
ขอบคุณข้อมูลจาก Purina ONE