การลงทุนย่อมมีจังหวะเวลา ตามยุครุ่งเรืองและช่วงตกต่ำของธุรกิจ เพราะโลกเปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แล้วมีการลงทุนอะไรไหม ที่อยู่เหนือกาลเวลา เป็นอมตะนิรันดร?
กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต นำแง่คิดเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ จาก คุณวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ Certified Financial Planner (CFP) นักวางแผนการเงิน
ไม่มีการลงทุนใดที่อยู่เหนือกาลเวลา
ทำไม?
เพราะโลกเปลี่ยนไป ทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพแวดล้อม แม้อาจมีผู้อ่านแย้งว่า “ลงทุนในตัวเอง” เป็นการลงทุนที่อยู่เหนือกาลเวลา แต่ก็อยู่เหนือได้เฉพาะในช่วงชีวิตของเราเท่านั้น
การลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ จะมีช่วงเวลาที่ “ดีที่สุด” อยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นช่วงเดียว หรือเป็นวัฏจักร คือผ่านไปอีกช่วงหนึ่งก็กลับมาดีอีก ซึ่งนักลงทุนทั้งหลายต่างก็ตระหนักกันดีอยู่แล้ว หากมีเวลามากพอสามารถถือลงทุนยาวได้นักลงทุนหลายคนก็ถือ จนฝ่าวัฏจักรช่วงตกต่ำรอให้รุ่งเรืองใหม่ได้
แต่ก็จะไม่เหมือนเดิมนะคะ หากธุรกิจนั้นไม่ปรับตัวหรือหากเราไม่ดำเนินการจัดการสินทรัพย์นั้นให้เหมาะสมกับสภาพทางเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้นผู้ลงทุนต้องจับจังหวะและรู้จักว่าสินทรัพย์ หรือธุรกิจ หรืออุตสาหกรรมนั้น ๆ อยู่ในจุดไหนของวัฏจักร เพื่อจะได้ “เลือกลงทุน” หรือ “หลีกเลี่ยงการลงทุน” ได้ถูกต้อง
ยกตัวอย่าง “อสังหาริมทรัพย์” หากท่านมีที่ดินในสถานที่ตั้งที่ดี ช่วงเศรษฐกิจบูม นักท่องเที่ยวจากตะวันตกเข้ามามาก ท่านก็อาจสร้างโรงแรมห้าดาว
- เวลาผ่านไป สัดส่วนของนักท่องเที่ยวตะวันตกลดลง สัดส่วนนักท่องเที่ยวเอเชียมากขึ้น ท่านก็อาจต้องปรับพื้นที่ข้างๆ ทำโรงแรมที่มีห้องขนาดเล็กลง ราคาย่อมเยาลง ทำเป็นอีกแบรนด์หนึ่ง เป็นโรงแรมสามดาวเพื่อใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์
- เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 มีความต้องการสถานที่กักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศ ท่านก็ใช้โรงแรมสามดาวเป็นที่กักตัว ASQ (Alternative State Quarantine) ส่วนโรงแรมห้าดาวก็จัดเป็นที่พักของผู้พำนักระยะยาว (Long Stay) บริการห้องพักพร้อมอาหารสามมื้อ อินเทอร์เน็ต ผู้พักสามารถใช้บริการซักรีด บริการรถรับส่ง บริการด้านเอกสาร
ห้องประชุมซึ่งมีขนาดใหญ่ก็จัดเป็นห้องสัมมนาที่เน้นการนั่งห่างๆ กัน ห้องอาหารของโรงแรมห้าดาวก็สามารถทำอาหารและขนมพรีเมียมส่งตามบ้านได้ ฯลฯ
- เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นจนโรงพยาบาลรับไม่ไหว และคนมาจากต่างประเทศที่จะต้องกักตัวมีน้อยลง ท่านก็ปรับห้องของสามดาวเป็น Hospitel เพื่อรับผู้ติดเชื้อที่ต้องการความสะดวกสบายมากกว่าโรงพยาบาลสนาม
“ทองคำ”
เป็นการลงทุนที่ดีเมื่อคน”กลัว” นักลงทุนรู้สึกไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แต่เมื่อนักลงทุน “กล้า” ขึ้นทองคำก็หมดรอบเล่น
“พันธบัตร” และ “หุ้นกู้” ระยะยาว
จะมีราคาปรับขึ้นเมื่อคนมองว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลง และจะหมดรอบเล่น คือราคาตก เมื่อคนมองว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นและอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น
“หุ้นทุน”
จะมีราคาปรับขึ้นลงตามวัฏจักรเศรษฐกิจ ถ้านักเศรษฐศาสตร์มองไปข้างหน้าว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว หุ้นทุนก็จะมีราคาปรับตัวขึ้น เพราะโดยพื้นฐานราคาของหุ้นวันนี้คือการคาดการณ์เงินปันผลที่จะได้รับในอนาคต บวกกับเงินที่จะได้คืนเมื่อขายหุ้นออกไปในอนาคตค่ะ และในทางตรงกันข้าม หากมองว่าเศรษฐกิจข้างหน้าจะซบเซาหรือชะลอตัวราคาหุ้นส่วนใหญ่ก็ย่อมตกลง
จะมีข้อยกเว้นก็เฉพาะกลุ่มหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ เพราะไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ความต้องการใช้สินค้าและบริการก็ยังคงมีอยู่ กลุ่มนี้ส่วนใหญ่เวลาตลาดหุ้นขึ้นแรง ๆ ราคาหุ้นก็จะขึ้นไม่แรงเท่ากลุ่มอื่น ๆ ในตลาด และเวลาตลาดหุ้นตกแรง ก็จะตกไม่แรงเท่ากลุ่มอื่น ๆ ในตลาด ภาษาการลงทุนเรียกว่า “หุ้นมีเบต้าต่ำ”
ตัวอย่างกลุ่มนี้คือหุ้นโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับสาธารณูปโภค เช่น น้ำประปา ไฟฟ้า บริการอินเทอร์เน็ต บริการคลาวด์ ฯลฯ
กลุ่ม “เบต้าสูง” ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการเติบโตและโครงการในอนาคตที่อาจยังเป็นโครงร่างอยู่ ที่อาจจะอยู่ในช่วงนำออกสู่ตลาดใหม่ ๆ การค้นคว้าวิจัยใหม่ กลุ่มนี้หากประสบความสำเร็จก็จะพุ่งแรง แต่หากล้มเหลวก็จะตกแรงจนอาจขาดทุน หรือแม้กระทั่งล้มไป
และรวมถึงกลุ่มที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งโดยทั่วไปจะมีราคาพุ่งสูงขึ้นเมื่อเศรษฐกิจเติบโตเร็ว ความต้องการใช้เพิ่ม และเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูง ราคาสินค้าปรับตัวขึ้นไปรวดเร็ว ผู้ที่มีสต๊อกสินค้าอยู่ในความครอบครองมาก จึงอาจมีกำไรพิเศษจากการปรับตัวขึ้นของสต๊อกสินค้า แต่ขาลงก็จะตรงกันข้ามกัน
สรุปแล้วคำว่า “การลงทุนที่เหนือกาลเวลา” มีเฉพาะคำขวัญในโฆษณาขายนาฬิการาคาแพงค่ะ เพราะเขาจะสื่อว่าส่งต่อให้ลูกหลานได้ แต่ส่งไปแล้วมูลค่าอาจขึ้นหรือไม่ขึ้นต้องดูปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ด้วย
สำหรับดิฉัน หลักการลงทุนที่จะอยู่เหนือกาลเวลา คือหลักของการปรับพอร์ตให้เข้ากับสถานการณ์ที่เรามองว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตนั่นเอง
กินอยู่เป็นขอขอบคุณที่มาจาก
วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ, “SMART MONEY การลงทุนที่เหนือกาลเวลา,” happiness 46 (กรกฎาคม-กันยายน 2564) : 28-29.
