มีหลายอุบายที่มาจากคำว่า “โบราณเขาถือ” แม้ฟังดูงมงาย แต่ทุกอย่างมีเหตุผลของมันอยู่ เช่น “ห้ามสร้างรั้วก่อนสร้างบ้าน” เพราะเหมือนการสร้างคุกเพื่อรอคนเข้าไปอยู่
แต่สาเหตุจริงๆ คือก็เพื่อความสะดวกในการขนย้ายวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างบ้าน รวมถึงเพื่อไม่ให้รั้วเกิดการทรุดตัวไปเสียก่อน หลักการสร้างบ้านที่ดีต้องสร้างจากด้านในออกมาสู้ด้านนอกจึงจะเหมาะ รั้วจึงต้องเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการก่อสร้าง
กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต มี 6 ข้อห้ามต้องรู้ก่อนสร้างรั้วบ้าน จากนิตยสาร Delight Magazine ที่ผสานทั้งความเชื่อและความเป็นจริงอย่างมีเหตุผล ให้เจ้าของบ้านทุกท่านมีข้อมูลไว้ประกอบการตัดสินใจ
1. สร้างสูงไป ใช่ว่าดี
ในทางฮวงจุ้ยนั้น ขนาดความสูงของรั้วหรือกำแพงบ้านจะต้องได้สัดส่วนกับพื้นที่และขนาดของตัวบ้าน กล่าวคือหากพื้นที่ภายในบ้านน้อยและไม่สูงมาก แต่กลับสร้างรั้วไว้สูง ผู้อยู่อาศัยอาจเปรียบได้กับ “อยู่ในหลุม” ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่มีความเจริญก้าวหน้า
ถ้ามาวิเคราะห์ในแง่ของกายภาพแล้ว รั้วที่สูงมักจะบังทิศทางลม ทำให้บ้านร้อนอับ ผู้อยู่อาศัยอาจเจ็บไข้ได้ป่วยง่าย เนื่องจากอากาศไม่ถ่ายเท อีกทั้งรั้วที่สูงมากและทึบตันอาจสร้างความรู้สึกเสมือนกำแพงเรือนจำ ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยก็ห้ามไว้เช่นกัน เพราะถือว่าอับโชคและจะส่งผลให้ขาดวิสัยทัศน์ไปด้วย
แม้จะมีผู้อยู่อาศัยบางท่านอาจมองว่าดี เพราะได้ความเป็นส่วนตัว บุคคลภายนอกไม่สามารถสอดแนมหรือรับรู้ความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้ แต่ในขณะเดียวกัน คนที่อยู่ภายในก็ไม่อาจรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวภายนอกได้เช่นกัน เรียกได้ว่าจะกลายเป็นโดดเดี่ยว ไร้ซึ่งสังคม ไร้สัมพันธภาพกับคนรอบข้างไปโดยปริยาย
แต่ก็มีข้อยกเว้นในเรื่องนี้เช่นกัน กล่าวคือ หากเนื้อที่ภายในบ้านมีมาก การสร้างรั้วสูงจะไม่ไปกระทบกับหลักฮวงจุ้ยเพียงแค่ทำให้ส่วนบนมีความโปร่งไว้ ก็ถือว่าแก้เคล็ดในจุดนี้ได้ แต่เน้นย้ำว่าต้องมีบริเวณที่กว้างมากพอจริง ๆ
2. ปลูกไม้เลื้อยปืนรั้วไม่ดีนะ
บางบ้านนิยมใช้ต้นตีนตุ๊กแกหรือไม้เลื้อยชนิดอื่นๆ มาปลูกให้เกาะติดรั้วไว้ เพื่อเพิ่มความสวยงามให้ความรู้สึกสบายตาและลดความแข็งของรั้วปูน
แต่ในทางฮวงจุ้ย กลับกลายเป็นข้อห้าม เพราะอาจสร้างรอยให้กับตัวกำแพง แลดูเหมือนปูนร้าว ซึ่งในทาง ฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะทำให้ทรัพย์สินเสื่อมสลาย ค้าขายขาดทุน และไม่มีความมั่นคง ซึ่งไปสอดคล้องกับหลักการทางกายภาพที่ว่า หากเป็นผนังปูนเรียบๆ งู หรือ สัตว์เลื้อยคลานมีพิษย่อมเกาะไต่ขึ้นมาได้ยากกว่าผนังปูนที่มีต้นไม้เลื้อยเกาะอยู่
3. ประตูรั้ว ประตูบ้าน ห้ามตรงกัน
ข้อนี้หลายคนอาจเคยได้ยินได้ฟังกันมาบ้าง กับการวางแนวประตูรั้วและประตูบ้านที่ไม่ควรตรงกัน เพราะในทางฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะเก็บทรัพย์ไว้ไม่อยู่ บ้านหลังใหญ่จึงมักมีแนวต้นไม้หรือน้ำพุไว้ตรงกลาง
เพราะหากพิจารณาตามหลักกายภาพแล้ว เมื่อเวลาขับรถกลับมาบ้านหรือมีแขกไป ใครมา ไฟหน้ารถเหล่านั้นจะสาดเข้าสู่ตัวบ้านหรือหากรถเบรกไม่ทันก็อาจพุ่งเข้าหาตัวบ้านได้ รวมไปถึงลมที่อาจพัดพาเอาฝุ่นและเศษขยะจากภายนอกให้ปลิวเข้าตัวบ้านได้ง่าย
4. รั้วทรุดตัว แตกร้าว พาปัญหามาให้
รั้วที่ชำรุด ทรุดตัว หรือแตกร้าว ถือเป็นลางร้ายทางฮวงจุ้ย เพราะเชื่อว่าทรัพย์จะสูญสลาย โดยการทรุดหรือแตกร้าวในจุดใดนั้นจะส่งผลต่อผู้อยู่อาศัยที่แตกต่างกัน เช่น หากรั้วทรุดชำรุดด้านซ้ายจะส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยที่เป็นผู้ชายมีปัญหาสุขภาพหรือได้รับความเดือดร้อน
หากรั้วทรุดชำรุดด้านขวาจะส่งผลต่อผู้อยู่อาศัยที่เป็นผู้หญิงในเรื่องสุขภาพหรือได้รับความเดือดร้อน ซึ่งตามหลักแล้ว ผู้อยู่อาศัยไม่ควรปล่อยให้รั่วทรุดหรือชำรุด เพราะย่อมส่งผลเสียไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยต่อทรัพย์สิน หรือหากรั้วพังทลายโดนใครเข้าก็อาจได้รับบาดเจ็บหรือล้มตายได้
5.เจาะหน้าต่างที่รั้ว เพิ่มทางลัดให้โจร
บางบ้านยังนิยมเจาะช่องหน้าต่างไว้ตามกำแพงรั้ว ข้อนี้ถือว่าผิดหลักฮวงจุ้ยเพราะจะทำให้เงินทองรั่วไหลและหากพิจารณากันง่ายๆ ถ้ามีใครคิดจะลักขโมย การมีช่องหน้าต่างก็จะช่วยให้ผู้ไม่หวังดีสะดวกขึ้นไม่น้อย อีกทั้งคนภายนอกรวมถึงโจรขโมยยังสามารถเห็นภายในได้ชัดเจนขึ้นด้วย
6.ปลายเหล็กต้องชี้ออก ห้ามชี้เข้า
เรื่องของซี่เหล็กที่ปักอยู่ด้านบนของรั้ว เพื่อป้องกันไม่ให้คนหรือสัตว์ปืนเข้ามาได้ง่ายนั้นก็ส่งผลกระทบต่อฮวงจุ้ยเช่นกัน
แม้ในทางฮวงจุ้ยจะไม่ได้มองว่าปลายเหล็กที่แหลมชี้ขึ้นฟ้าเป็นปัญหา แต่หากปลายเหล็กแหลมที่เหมือนหัวลูกศรนั้นโค้งชี้เข้าสู่ตัวบ้าน (แบบที่หลายๆ บ้านนิยมทำกัน) เหล่านี้ถือว่าเป็นปัญหาทางฮวงจุ้ย เพราะเชื่อว่าจะทำให้ผู้อยู่อาศัยมีโรคภัยไข้เจ็บ ต้องมีการผ่าตัดหรือมีอุบัติเหตุ
อีกทั้งในความเป็นจริงแล้วปลายเหล็กแหลมที่ชี้เข้ามาที่ตัวบ้านก็ไม่ได้มีประโยชน์มากพอที่ควรจะทำไว้ ต่างจากปลายเหล็กแหลมที่ชี้ออกไปนอกบ้านมากกว่าที่ช่วยให้เกิดความปลอดภัยยิ่งขึ้น
แต่ถึงจะอย่างไร ตามหลักฮวงจุ้ยก็ไม่แนะนำเช่นกัน เพราะเชื่อว่าจะทำให้เกิดความบาดหมาง มีปัญหากับเพื่อนบ้าน แต่ในยุคปัจจุบันการทำเหล็กแหลมที่ชี้ออกไปรอบบ้านถือว่าสำคัญและหลายคนยังคงนิยมทำ เพราะช่วยเรื่องการปกป้องทรัพย์สินได้ดีในระดับหนึ่งทีเดียว
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเงื่อนไขและบริบทของบ้านท่านจะเป็นอย่างไร แต่หลักการที่ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจคือ รั้วกำแพงที่ดีควรสมดุลกับเนื้อที่บ้านที่ก่อสร้างให้มีความมั่นคงแข็งแรง และถ้าจะให้ดีต้องสวยงาม เพื่อให้ตัวบ้านแลดูสง่างามมากขึ้นนั่นเอง
กินอยู่เป็นขอขอบคุณที่มาจาก
อาจารย์ บอยด์ ศรัทธาอาคม, “6 ข้อห้ามต้องรู้ ก่อนสร้างรั้วบ้าน,” Delight Magazine 20 (กรกฎาคม-กันยายน 2564): 48-49.