ปี 1918 เกิดโรคระบาดร้ายแรงที่ชื่อว่า “ไข้หวัดสเปน” ในทวีปยุโรป การดูแลรักษาของคนในยุคนั้น คล้ายกับปัจจุบันที่เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดทั่วโลก คือการตั้งโรงพยาบาลสนามแยกผู้ที่ติดเชื้อออกมารักษา ป้องกันการแพร่ระบาดที่จะเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้น ในยุคที่ไม่มียาปฏิชีวนะ ไม่มีวัคซีน มีการใช้อาหารเข้ามาช่วยรักษา ซึ่งพบรายงานมากว่าร้อยปีว่า “ซุปไก่” นับเป็นอาหารที่ช่วยฟื้นฟูและรักษาอาการไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดทั่วไปได้
นักวิทยาศาสตร์และนักโภชนาการต่างพยายามค้นหาว่าในซุปไก่นั้นมีสารอาหารหรือตัวยาอะไรซ่อนอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าช่วยได้อย่างไร ขนาดราชสำนักอังกฤษยังใช้ซุปไก่ในการช่วยฟื้นฟูร่างกายของคนในราชวงศ์ยามเจ็บป่วย
แต่เมื่อยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีมีความก้าวหน้า เกิดซุปไก่สกัดขึ้นมาในท้องตลาดเพิ่มทางเลือกในการรักษาสุขภาพ
ฟัง 100+ พอดแคสต์ EP36 : ถอดบทเรียน โรคระบาดครั้งใหญ่ ไข้หวัดใหญ่สเปน 1918
แล้วทำไมถึงต้อง “ซุปไก่”
ใครจะเชื่อว่าซุปไก่คืออาหารยอดนิยมที่ทุกชาติใช้ต้านหวัด ว่ากันว่าใช้กันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ตามรายงานวิจัยพบว่า ซุปไก่มีฤทธิ์ยับยั้งการเคลื่อนที่ของเม็ดเลือดขาวชนิดที่เรียกว่านิวโทรฟิลด์ไปยังเนื้อเยื่อปอด ทำให้ลดกระบวนการอักเสบในปอด และลดอาการไอได้
โดยซุปไก่ที่ใช้ทำการศึกษาวิจัยนั้นเป็นซุปไก่ทางฝั่งยุโรปที่ประกอบด้วย ไก่ มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ มันฝรั่ง ก้านขึ้นฉ่าย ผักชี แครอท หัวผักกาด เกลือ และพริกไทย ซึ่งบรรดาส่วนประกอบทั้งหลายมีสรรพคุณช่วยต้านหวัดเป็นอย่างดี เช่น
- หัวหอมใหญ่ ช่วยลดเสมหะ บรรเทาอาการไอ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นต่อสู้กับความหนาวเย็นได้
- มะเขือเทศ ช่วยเสริมคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง และมันฝรั่งที่มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันไข้หวัดได้เป็นอย่างดี
- กระเทียม ช่วยบรรเทาอาการหวัด ช่วยขยายทางเดินหายใจ ทำให้หายใจสะดวกขึ้น เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยในกระเทียมมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัส
- พริกไทย มีรสเผ็ดร้อน ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายและเสริมภูมิต้านทาน
นอกจากซุปไก่ทางฝั่งยุโรปแล้ว ซุปไก่แบบเอเชีย อย่างอาหารจำพวกต้มยำไก่ ต้มข่าไก่ แกงไก่ ของไทยก็มีสรรพคุณต้านวัดเช่นเดียวกัน เพราะมีสมุนไพรที่ออกฤทธิ์ร้อนรวมอยู่หลายชนิดทั้งพริก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ซดร้อนๆ คล่องคอดีทีเดียว
แต่หากเป็นซุปไก่แบบจีนมักจะตุ๋นพร้อมกับเครื่องยาจีนต่างๆ เพราะคนจีนสอนกันมาชั่วลูกหลานว่า “อาหารคือยา” ไม่ใช่กินยาเป็นอาหาร จึงเห็นว่าอาหารการกินในวัฒนธรรมจีนจะมีสมุนไพรเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้นเช่น เก๋ากี้ เง็กเต็ก ปักคี้ ตังเซียม โป๊ยกั๊ก แปะเจียก และโสมเป็นต้น
นอกจากซุปไก่แล้ว ยังมีซุปประเภทอื่นที่ช่วยรักษาหรือบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้
ก่อนที่จะใช้การรักษาทางการแพทย์ ลองหันมาดูแลรักษาตัวเองเบื้องต้นก่อน ด้วยหลัก “อาหารคือยา” น่าจะเหมาะกับสถานการณ์ช่วงนี้
ซุปปลาช่อน
ศาสตร์แพทย์แผนจีน ปลาช่อน มีรสหวาน ฤทธิ์เย็นจัด การนำปลาช่อนมาทำซุป ถือว่าช่วยบำรุงสุขภาพได้เป็นอย่างดี รับประทานได้ทั้งเด็กไปจนถึงผู้สูงวัย มีสรรพคุณช่วยบำรุงเลือด บำรุงกำลัง ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง เจริญอาหาร นำมาปรุงพร้อมกับโสมจีนจะเสริมประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น เหมาะกับผู้ป่วยหลังฟื้นไข้ หรือหลังการผ่าตัด ร่างกายอ่อนเพลียเพราะเสียเลือด ไม่มีแรง เซื่องซึม สามารถนำมาต้มพร้อมกับสมุนไพรจีนอย่าง เก๋ากี้ ปักคี้ พุทราจีน โสม และตังกุยเป็นต้น
ซุปผัก
ขึ้นชื่อว่า “ผัก” ยังไงก็มีประโยชน์ อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ เส้นใยอาหารสูง ไม่ต้องไปหาวัตถุดิบจากที่ไหน ผักที่มีในตู้เย็นก็นำมาใช้ได้หมดไม่ว่าจะเป็น กะหล่ำปลี หัวไชเท้า แครอท หอมหัวใหญ่ ผักกาดขาว ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย ไม่ต้องพึ่งซุปก้อนสำเร็จรูปช่วยเพิ่มรสชาติ ใช้แค่รสหวานจากผักและเค็มจากเกลือพอ นอกจากจะอร่อยแล้วก็ยังได้สุขภาพดีอีกด้วย
ทุกท้ายนี้ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหน สมุนไพร และอาหาร ก็เป็นภูมิปัญหาช่วยรักษาโรคได้อีกทาง เห็นได้จากความร้อนแรงของอาหารคลีน-โฮลฟู้ด-แพลนต์เบส-ออร์แกนิก ในอนาคตเอง ยา คงต้องถูกแทรกแซงหน้าที่รักษาด้วยอาหารสักวัน
ระหว่างที่รอวัคซีน หรือยารักษาอะไรก็ตาม การดูแลตนเองก่อนถือเป็นสิ่งสำคัญ ดูแลคนในครอบครัวให้ห่างไกลจากโรคถือเป็นสิ่งสำคัญ และต้องไม่ลืมว่าคุณต้องพักผ่อนให้เพียงพอด้วย
กินอยู่เป็นขอขอบคุณข้อมูลจาก