ความรู้รอบตัวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสิ่งที่ตาเห็นอาจมีที่มามากกว่านั้น กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตรวบรวมสาระน่ารู้ที่เราคาใจมาตลอดจาก Delight MAGAZINE ซึ่งรู้ไว้ก็ไม่เสียหลาย
1. ท้องร้อง ไม่ใช่เพราะหิว
เคยสังเกตกันไหมว่า บางครั้งเวลาเราหิว ท้องก็ไม่ได้ร้องเสมอไป นั่นเพราะเสียงท้องร้องไม่ได้มาจากกระเพาะอาหาร หรือเพราะว่าเรากำลังหิว แต่มาจากการบีบตัวระหว่างมื้ออาหาร ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากที่ลำไส้เล็กย่อยอาหารเสร็จแล้ว และกำลังเริ่มทำความสะอาดลำไส้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอาหารชุดใหม่ โดยลำไส้เล็กจะบีบตัวแบบลูกคลื่นเพื่อกวาดเศษอาหารตกค้างลงไปจนถึงลำไส้ใหญ่
แต่หากเราทานอาหารเข้าไปก่อนจะเกิดการบีบตัวระหว่างมื้ออาหาร (ก่อนท้องจะร้อง) ลำไส้เล็กจะหยุดกระบวนการ ดังกล่าวทันที ซึ่งส่งผลให้การย่อยอาหารไม่สมบูรณ์
ควรเว้นระยะเวลาให้ลำไส้เล็ก ทำการย่อยอาหารจนเสร็จสมบูรณ์เสียก่อน เพราะจะส่งผลดีต่อยีนเซอร์ทูอิน (Sirtuin) ซึ่งมีหน้าที่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและกระตุ้นการผลิต Growth Hormones เพื่อช่วยให้เรายังคงความหนุ่มสาวและมีผิวพรรณที่ดี ฉะนั้นการปล่อยให้ท้องร้อง สักหน่อยแล้วค่อยรับประทานไม่เสียหายเท่าไรนัก
2. จริง ๆ แล้ว “รถยนต์ไฟฟ้า” ไม่มีเสียง
รถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมแห่งอนาคตที่คาดว่าอีกไม่นานจะเข้ามาแทนที่รถยนต์น้ำมันอย่างสมบูรณ์ ว่ากันว่าเครื่องยนต์ของรถยนต์ไฟฟ้านั้นแทบไม่มีเสียงเลย ซึ่งมองเผิน ๆ อาจเป็นข้อดีที่เรา ไม่ต้องทนฟังเสียงเร่งเครื่องยนต์ให้ปวดหู
แต่การที่รถไม่มีเสียงเลย กลับเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้ทำให้หลายประเทศ ทั้งสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ออกนโยบายให้กลุ่มผู้ผลิตต้องติดตั้งระบบเสียงเครื่องยนต์ปลอม (Acoustic Vehicle Alerting System: AVAS) ขึ้นมาทดแทนสำหรับรถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตใหม่ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2019 เป็นต้นไป โดยเสียงที่ว่านี้จะเริ่มทำงานเมื่อรถขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำ 19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อให้ผู้ใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังนั่นเอง
3. ทำไมทานสับปะรด แล้วแสบลิ้น
เคยรู้สึกแสบลิ้นตอนทานสับปะรดบ้างไหม สับปะรดเป็นผลไม้รสเปรี้ยวอาจมีความเป็นกรดทำให้รู้สึกแสบ แต่ทำไมผลไม้รสเปรี้ยวชนิดอื่นทานแล้วถึงไม่แสบลิ้น สาเหตุเพราะในสับปะรดมีเอนไซม์ “บรอมีเลน” (Bromelain) ที่มีคุณสมบัติย่อยสลายโปรตีน ช่วยไม่ให้โปรตีนตกค้างในลำไส้
แต่บังเอิญว่าบนลิ้นของเราก็มีโปรตีนตามธรรมชาติเคลือบอยู่ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อกินสับปะรดเข้าไป เอนไซม์บรอมีเลนก็จะย่อยโปรตีนบนผิวลิ้นของเราแต่ไม่ได้เป็นเรื่องอันตรายใดๆ เพราะเมื่อเราหยุดทานสับปะรดลิ้นจะสร้างโปรตีนขึ้นมาเคลือบผิวเอาไว้ตามเดิมและอาการแสบๆ คันๆ จะหายไปเอง
4. Breakdancing เป็นกีฬาโอลิมปิกสากลแล้ว
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ในการประชุมบอร์ดบริหารคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ที่สวิตเซอร์แลนด์ ได้มีมติเห็นชอบให้การแข่งขันปารีสเกมส์ 2024 บรรจุการแข่งขัน “เบรกกิ้ง” ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการแข่งเต้นประเภทเบรกแดนซ์ เข้าเป็นหนึ่งในกีฬาชิงแชมป์เหรียญทองโอลิมปิกด้วย โดยจะเรียกผู้เข้าแข่งขันว่า B-Boy และ B-Girl ด้านการตัดสินผลคะแนน
นอกจากจะเน้นเทคนิคการเต้นแล้ว ยังตัดสินจากความคิด สร้างสรรค์ การออกแบบท่าเต้น ความแข็งแรงของร่างกาย ความคล่องตัว และจังหวะเคลื่อนไหวอีกด้วย
ซึ่งผู้จัดการแข่งขันเชื่อมั่นว่า กีฬาเบรกแดนซ์ จะสามารถดึงดูดคนหนุ่มสาวให้เข้าชมมหกรรมโอลิมปิกในปี 2024 ได้เพิ่มมากขึ้น
5. นอนกรน เพราะลิ้นอ้วนเกินไป
รู้หรือไม่ ว่าภัยร้ายที่แฝงมากับการนอนกรน คือ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) เพราะผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า ลิ้นที่อ้วน หนา และอุดมไปด้วยเนื้อเยื่อไขมันนั้นเองที่เป็นสาเหตุหลักของการกรนและเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โดยไขมันที่สะสมบริเวณส่วนหลังของลิ้นจะดึงลิ้นให้ค่อย ๆ ถอยหลังขณะเราหลับ และเสี่ยงที่จะยุบตัวลงไปปิดกั้นทางเดินหายใจบางส่วน (หรือส่วนบนทั้งหมด) เอาไว้
ดังนั้นหากลดระดับไขมันที่ลิ้นลงได้ อาการหยุดหายใจขณะหลับจะดีขึ้น ซึ่งการลดปริมาณไขมันของร่างกายทำได้ด้วยการหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ หรือใช้การบริหารลิ้นด้วยการยกลิ้นแตะเพดานซ้ำๆ ซึ่งแบ่งเป็นเซต รวมถึงการเล่นเครื่องดนตรีจำพวกเครื่องเป่าก็ช่วยได้เช่นกัน
6. อวยพรครอบคลุมด้วย “HAPPY HOLIDAYS”
ยุคสมัยที่สังคมโลกเต็มไปด้วย “พหุศาสนา” ผสมกลมกลืนไปด้วยความเชื่อ ค่านิยม และตัวตนที่หลากหลาย การเลือกใช้คำอวยพรแบบกลาง ๆ น่าจะช่วย สร้างความรู้สึกที่ดีต่อคนทุกกลุ่มมากกว่า
เราจึงเริ่มได้ยินว่า ในบางวัฒนธรรมเลือกใช้คำอวยพรว่า “Happy Holidays” แทนคำว่า “Merry Christmas” ด้วย 3 เหตุผลหลักคือ
- บางวัฒนธรรมไม่ได้ฉลองคริสต์มาส การเลี่ยงคำอวยพรที่เจาะจงถึงความเชื่อจะช่วยให้คนต่างศาสนาไม่รู้สึกคับข้องใจเมื่อได้ยิน
- ผู้คนไม่ได้ฉลองคริสต์มาสภายใต้ความเชื่อเดิม ในหลายประเทศรับเอาเทศกาลคริสต์มาสมาเป็นหนึ่งในวันที่จะได้หยุดพักผ่อน โดยไม่เกี่ยวกับพิธีกรรมทางศาสนา
- สาม คำว่า “Happy Holidays” เป็นคำอวยพรที่ครอบคลุม ได้ทุกวันหยุดยาวและทุกเทศกาล ไม่อิงกับลัทธิความเชื่อใด ๆ
อ่านความรู้รอบตัว ตอนที่ 2 | ตอนที่ 3 | ตอนที่ 4 | ตอนที่ 5
JIM, “DID YOU KNOW,” Delight BY SCG Debenture Club 20, 2 (เมษายน-มิถุนายน 2564) : 66-67.