กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตอยากให้ทุกคนหันมารักตัวเองขึ้นสักนิด โดยมีบทความดีๆ จากสารคดีวิทยุ ชุดวัคซีนใจสู้ภัยโควิด-19 ของกรมสุขภาพจิต มาฝากกัน
เสียงอึกทึกในห้องฉุกเฉินคืนนั้น ทำให้ผมนึกถึง “วิไล”
วิไล เป็นสาวสวย อายุประมาณ 24 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากพยายามที่จะไม่มีชีวิตอยู่ หมอและพยาบาลในห้องฉุกเฉิน ช่วยเหลือจนวิไล..ปลอดภัย
แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้วิไลพยายามทำแบบนี้มาแล้วถึง 3 ครั้ง
เกิดอะไรขึ้นในชีวิตของวิไล ถึงทำให้เธอไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้ และพยายามจะหนีจากโลกไป
หลังจากหลับสนิทอย่างเต็มที่นานกว่า 10 ชั่วโมง จากการให้ยานอนหลับอ่อนๆ วิไลก็ดีขึ้น พูดจารู้เรื่องขึ้น เธอบอกกับจิตแพทย์ว่า อยากตายเพราะไม่มีใครรัก
ฟังแล้วน่าตกใจมั้ยครับ แค่ไม่มีใครรักถึงขนาดต้องฆ่าตัวตายเลยทีเดียว
หลังจากฟัง วิไล เล่าเรื่องราวของเธอไปสักพัก คุณหมอบอกกับวิไล ว่า จริงๆ แล้ว ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ “ไม่มีใครรัก” แต่อยู่ที่วิไลต่างหากที่ไม่รักตัวเอง
คนที่รักตัวเอง จะเห็นคุณค่าของตัวเอง และพยายามทำทุกอย่างให้ตัวเองดีขึ้น ไม่ทำร้ายตัวเอง ไม่ทำให้ตัวเองเจ็บปวดไม่ว่าจะเป็นร่างกาย หรือ จิตใจ
วิไล บอกว่า เธอรักแฟนของเธอมาก แต่เขากลับทำให้เธอเสียใจตลอดเวลา ด้วยการไปมีผู้หญิงอื่น และเมื่อเธอพยายามบอกเขาถึงความรักที่เธอมีให้ เขากลับทำร้ายเธอด้วยคำพูดและการกระทำที่ทำให้เธอยิ่งเจ็บช้ำมากขึ้น
คุณหมอบอกกับวิไล ว่า สิ่งที่ทำให้เธอเจ็บช้ำไม่ใช่เขา แต่คือ ใจของเธอเองที่ไปยึดติด อยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขา เมื่อไม่ได้ดังใจ ก็เป็นทุกข์เสียใจอยู่แบบนี้
คุณหมอบอกให้วิไล ปรับวิธีคิด โดยเล่าเรื่องคนไข้ระยะสุดท้ายในห้องไอซียู ที่ร่างกายเต็มไปด้วยสายระโยงรยางค์นอนติดเตียงมาเป็นเดือน สำหรับคนอื่นๆ คนไข้อาการขนาดนี้ ไม่น่าจะมีคุณค่าอะไรแล้ว แต่สำหรับลูก เมีย ที่มาเยี่ยม แค่รู้ว่าหัวใจยังเต้น เลือดยังสูบฉีดในร่างกาย ชีวิตที่เปรียบเสมือนไร้ชีวิตก็ยังคงมีคุณค่าในใจของพวกเขา
แล้วหมอก็ถามวิไล ว่า คุณยังเดินได้มั้ย กินข้าวได้มั้ย พูดได้มั้ย คำตอบ คือ วิไล ทำได้ทุกอย่างนั่นละ ชีวิตที่มีคุณค่าล่ะ อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีค่า โดยมองแค่สิ่งที่เราสูญเสีย
สำคัญที่สุด คือ เรายังมีชีวิต และเรามีค่าเสมอตราบเท่าที่เรายังหายใจ
คุณหมอทิ้งท้าย ก่อนเดินออกจากห้องไปว่า คุณวิไลครับ นาฬิกาที่ตายแล้ว ยังบอกเวลาถูกตรงถึง 2 ในทุกวัน คุณวิไล ยังไม่ตาย…ต้องลุกขึ้นสู้นะครับ