ก่อนหน้านี้เราเคยคุยกันถึงเรื่องของการใช้กัวซาใบหน้าเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกที่อยู่ในรูขุมขนได้มากยิ่งขึ้น วันนี้ กิน อยู่ เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต เจาะลึกเรื่องการล้างหน้ามากขึ้น ในยุคที่โควิดบังคับให้เราต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ต้องเดินทาง ทำให้ใบหน้าก็หมักหมมไปด้วยแบคทีเรียที่อุดมในช่องปากรวมถึงเครื่องสำอางค์บนใบหน้าที่สีไปสีมาจนไม่รู้ว่าจริงๆแล้วแต่งหน้า หรือแต่งแมสก์กันแน่ ประเด็นการล้างหน้า จึงกลายเป็นประเด็นสำคัญที่หลายคนยังคงกังวลในช่วงนี้ และด้วยอุปกรณ์ที่ทุกคนยังคงสงสัยว่ามันดีจริงหรือ? อย่างอุปกรณ์ล้างหน้าด้วยแปรงซิลิโคน ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำความสะอาดผิวพรรณ แต่ราคาก็ล้ำหน้าด้วยเหมือนกันสำหรับยุคโควิดที่ราคาข้าวแกงจะแซงเงินเดือนอย่างนี้
เครื่องล้างหน้าอัตโนมัติ ดีกว่าการล้างหน้าแบบอัตโนมืออย่างไร?
เสียงลือเสียงเล่าอ้างที่มาจากคนส่วนใหญ่ก็คือ เครื่องล้างหน้าอัตโนมัติ ช่วยให้ล้างหน้าได้ “สะอ๊าดสะอาด” มากยิ่งขึ้น
ซึ่งอุปกรณ์ล้างหน้าก็มีวิวัฒนาการ มาตั้งแต่การใช้ฟองน้ำล้างหน้าเรื่อยมาจนการใช้แปรงล้างหน้า ด้วยลักษณะพิเศษที่ขนแปรงจะช่วยเข้าไปทำความสะอาดได้ล้ำลึกถึงรูขุมขน ลดแรงเสียดสีที่อาจเกิดขึ้นจากน้ำหนักมือของเรา แต่ถึงแม้ว่าจะมีข้อดีอยู่มาก แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน คือ ทั้งการใช้ฟองน้ำหรือแปรงล้างหน้านั้น อาจทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย หากเลือกจากราคาและไม่ดูคุณภาพที่ตามมา ก็อาจจะทำให้มีความเสี่ยงที่หน้าจะ “พัง” มากกว่า “ปัง” ได้
หลังจากหลายแบรนด์เริ่มเข้าใจปัญหานี้ จึงคิดค้นเครื่องล้างหน้าที่แก้ปัญหาเรื่องขนแปรงที่อาจหมักหมมได้ง่าย ให้เป็นขนแปรง “ซิลิโคน” และเพิ่มเทคโนโลยีเข้าไปอีก เช่น แบรนด์ FOREO ผู้ผลิตเครื่องนวดทำความสะอาดผิวหน้า ที่ออกมาด้วยกันหลายรุ่น ทั้งใช้เทคโนโลยี T-Sonic เข้ามาช่วยในการสั่น (8,000 ครั้ง/นาที) สามารถปรับระดับได้สูงสุด 12 ระดับ เพื่อการทำความสะอาดที่ล้ำลึกและยังมีฟังก์ชั่นนวด ไม่ใช่แค่สีสันที่เปลี่ยนไป เพราะในแต่ละรุ่นก็จะมีเทคโนโลยีและแก้ไขปัญหาแต่ละจุดที่ต่างกันไป เช่น Foreo รุ่น Luna Foto ที่สามารถล้างหน้าและวิเคราะห์สภาพผิวไปได้ในเวลาเดียวกัน โดยผลลัพท์จากการวิเคราะห์จะถูกส่งไปยัง Application FOREO For You ที่สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android
และอีกหลายแบรนด์เช่น CBG DEVICES ที่ออกซิลิโคนอ่อนนุ่มมา ด้วยอัตราการสั่น 10000/นาที ปรับได้สูงสุด 15 ระดับ หรือแม้แต่ XiaoMi แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำจากประเทศจีน ที่ออก XiaoMi Inface ที่เคลมว่า ซิลิโคนที่ใช้เป็นซิลิโคนเกรดทางการแพทย์ แถมยังเหมาะสำหรับใครๆที่อยากเริ่มใช้เครื่องล้างหน้าอัตโนมัติด้วยราคาที่ย่อมเยาว์จับต้องได้ง่าย
นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องล้างหน้าอัตโนมัติที่ผลิตออกมาเพื่อผู้ชายอีกด้วย เนื่องจากผู้ชายส่วนใหญ่ก็มีปัญหาในเรื่องของน้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้า รวมถึงปรับให้เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวผสม ผิวธรรมดา ผิวบอบบาง หรือผิวมัน ซึ่งมีการดีไซน์ที่คิดมาแล้วว่าเวิร์คด้วยลักษณะขนซิลิโคนรูปแบบต่างๆ
สรุป
ข้อดี คือ ด้วยการทำงานของขนแปรงที่ช่วยทำความสะอาดรูขุมขนได้มากขึ้น ช่วยลดสิวอุดตัน และผลัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยน ลดริ้วรอย และในบางรุ่นยังมีเทคโนโลยีนวด Anti Aging ช่วยให้ผิวกระชับและทำให้ผิวเปิดรับสกินแคร์ได้ดียิ่งขึ้น สะดวกสบายเพราะในรุ่นใหม่ๆ ก็ปรับให้ใช้การชาร์จแทนการใส่ถ่าน ใช้ได้นาน 6-7 เดือน
ข้อควรระวัง ในผู้ที่มีผิวบอบบาง หรือมีอาการแพ้หรือหน้าแดงเส้นเลือดฝอยเปราะบางแตกได้ง่าย ควรระมัดระวังอย่าลงน้ำหนัก หรือลงแรงหรือนานจนเกินไป เพราะอาจจำให้หน้าบาง ทางที่ดีไม่ควรใช้นานเกิน 1 นาทีในขั้นตอนการล้างหน้า และไม่ควรเกิน 3-5 นาทีระหว่างปรับเป็นระบบนวด และในบางรุ่นที่ต้องใส่ถ่าน อาจมีน้ำขังทำให้เกิดสนิมได้
หมายเหตุ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องล้างหน้าซิลิโคน ควรเลือกใช้ตัวคลีนเซอร์ที่ไม่มีส่วนผสมของเนื้อโคลน หรือเม็ดบีทเพราะจำให้ขนแปรงซิลิโคนเสื่อมเร็วซะก่อน
แต่ไม่ว่ายังไงเครื่องล้างหน้าอัตโนมัติ ก็เป็นเหมือนเครื่องมือที่ช่วยให้เราทำความสะอาดใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและลักษณะการใช้งานด้วย เพราะเทคโนโลยีที่เรานำมาเล่าให้ฟังนั้นมีราคาตั้งแต่หลักร้อยปลายๆ ถึงราคาเกินครึ่งหมื่น จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครๆ ยังคงเข้า Google และ Search หาว่า มันดีอย่างไร แต่ทั้งนี้หากคุณได้เครื่องล้างหน้าอัตโนมัติมาครอบครองแล้ว ก็ขอแนะนำให้ใช้อย่างรอบครอบไม่เร่งระดับมากจนเกินไป และไปควรใช้ถี่จนเกินพอดี ควรใช้ 1 ครั้งต่อวันหรืออาทิตย์ละ 3-5 ครั้งตามสภาพผิวหน้าของคุณ เพราะการล้างหน้ามากเกินไปก็อาจเป็นเหตุให้ผิวแห้งได้เช่นกัน
