หลายปีที่ผ่านมามีเหล่าบิวตี้ บล็อกเกอร์มากมายที่ออกมารีวิวเครื่องสำอาง และทำ make up tutorial สไตล์ต่างๆ ออกมาให้สาวๆ ได้แต่งสวยตาม แต่เมื่อมีความสวยงามที่เกิดจากการ makeup มากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีเหล่าบิวตี้สายออแกนิกและเซเลบริตี้ออกมาให้ความสนใจกับการล้างหน้าและการปรนนิบัติผิว และการทำเฟเชียลทรีทเม้นท์กันมากขึ้น
ซึ่ง Jade Roller หรือการบำบัดผิวพรรณด้วยหินก็จัดเป็น 1 ในการทำเฟเชียลทรีตเม้นท์ที่มักถูกพูดถึงกันอยู่เสมอ เช่น Miranda kerr อดีตนางแบบจากวิคตอเรียซีเคร็ต ที่ชื่นชอบและเห็นความสำคัญของการนวดหน้าด้วยหิน จนถึงขั้นนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลผิวหน้าของตัวเอง เพราะเธอเชื่อว่า การนวดหน้าด้วย Jade Roller จะช่วยยกกระชับใบหน้าและผลักครีมลงไปสู่ชั้นผิวได้ลึกมากขึ้น ด้วยหินจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและกระตุ้นคอลลาเจนอีกด้วย
กัวซา กับ Jade Roller เหมือนหรือต่าง?
ความเป็นมาของกัวซา เชื่อกันว่า กว่า 5,000 ปีมาแล้ว มีหญิงสาวชาวจีนได้ไปอาบน้ำที่ลำธาร และนำหินบริเวณนั้นขึ้นมาขัดนวด จนกลับมาบ้านเมื่อมีอาการปวดก็จะนำกรเบื้อง หรือช้อนที่หาได้ง่ายตามก้นครัวมานวดคลึง หรือขูดบริเวณที่เมื่อยหรือปวด จนขึ้นซาหรือรอยแดง ซึ่งความหมายของ “กัวซา” (Guasha หรือ Skin Scraping) กวา แปลว่า ขูด ซา คือ อาการซา ศาสตร์แขนงนี้เริ่มเป็นที่รู้จักกันในสมัยราชวงศ์ถัง และราชวงศ์หมิง และแพร่หลายมากขึ้นเมื่อชาวจีนเดินทางไปค้าขายในต่างแดนก็จะนำการทำกัวซาติดตัวไปด้วย เมื่อไรที่รู้สึกเจ็บหรือปวดเมื่อย ก็จะนำหินหรือช้อนกระเบื้องขึ้นมาขูดหรือคลึงบริเวณนั้นๆ จึงอาจกล่าวได้ว่ากัวซา คือ การผ่อนคลายร่างกาย ขับสารพิษด้วยการขูด แต่พูดถึงกัวซา หลายคนอาจจะตกใจว่ามันจะนำมาใช้กับใบหน้าได้จริงหรือ เพราะอาจจะด้วยภาพติดตาจาก “ห้อเลือด” ตามหลังไหล่ บ่า ที่มองแล้วดูน่ากลัว
แต่การทำกัวซาใบหน้านั้นต่างกัน
เพราะ เราไม่ได้ทำเพื่อขจัดความปวดเมื่อยๆใด จึงไม่จำเป็นที่จะต้อง “ขูด” หรือ กด ใช้น้ำหนักกับส่วนนี้มากนัก ขณะทำก็ระลึกอยู่เสมอว่า การทำกัวซาใบหน้า ก็เพื่อให้เลือดลมไหลเวียน ใช้น้ำหนักในส่วนกรอบหน้า ซึ่งหลักการนวดก็มีอยู่ทั่วไป
หินแต่ละชนิด ช่วยเรื่องอะไรและต่างกันอย่างไร?
ส่วนใหญ่แล้ว หินที่ถูกนำมาบำบัดส่วนใหญ่ ก็จะมีอยู่ 4-5 ชนิดที่ให้พลังงานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนหนึ่งก็คล้ายกันกับการใส่กำไลหินนั่นเอง ซึ่งในศาสตร์ของการนำหินมาทำเฟเชียลทรีทเม้นท์ส่วนใหญ่ใช้หินต่างๆ ดังนี้
Jade : หินหยก มีแร่ธาตุพลังงานที่ช่วยให้ผ่อนคลายและกระตุ้นการไหลเวียนของเหลวในชั้นผิว ทั้งระบบไหลเวียนเลือดและระบบน้ำเหลือง จึงช่วยกำจัดของเสียที่ค้างในผิวผ่านรูขุมขนได้
Rose Quart : หินสีชมพูอ่อน ถือเป็นเคล็ดลับความงามของชาวอียิปต์ ที่ช่วยคืนความสดชื่นให้ผิว ฟื้นความอ่อนเยาว์และลดเลือนริ้วรอยเป็นอย่างดี
Amethyst : หินสีม่วง ขึ้นชื่อในเรื่องพลังงานที่ช่วยขจัดความเครียด ปรับสมดุลอารมณ์แปรปรวนและทำให้นอนหลับสบาย
Moonstone : หินสีฟ้าใส ความเชื่อจากชาวโรมบอกว่าเป็นหินจากพระจันทร์ ช่วยเรื่องการปรับสมดุลผิวเพื่อคืนความแข็งแรงกลับสู่ผิว ให้ดูสุขภาพดี
จุดเด่นของการทำกัวซาใบหน้า ด้วย Jade Roller
- ช่วยขับสารพิษบนใบหน้า อันเป็นสาเหตุของสิว ฝ้า หน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส
- กระตุ้นเส้นชีพจรบนใบหน้า เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิวหน้า และอวัยวะภายใน
- ลบเลือนริ้วรอยแห่งวัย เช่น ถุงใต้ตา หางตา ร่องแก้ม รอยระหว่างคิ้ว
- ยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า หนังตา แก้ม ปรับเปลี่ยนรูปหน้า
- กระตุ้นการหมุนเวียนเลือด ทำให้ใบหน้าได้รับออกซิเจนและสารอาหารเต็มที่
- ผิวพรรณสดใส ผิวหน้าเต่งตึง เด้งกระชับ กลับไปเยาว์วัยอีกครั้ง
และที่สำคัญหากใช่ร่วมกับครีมบำรุงและเซรั่ม ก็จะช่วยผลักเนื้อผลิตภัณฑ์บำรุงให้ซึมลึกลงสู่ชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้น
ในปัจจุบันเองก็มีกัวซาใบหน้าในรูปแบบต่างๆในสาวๆได้เลือกให้เหมาะกับใบหน้า
- หินกัวซารูปหัวใจ เพื่อความถนัดมือ แล้วเข้าถึงขณะนวดได้ในทุกมุมของใบหน้า
- Sonic-Vibration Facial Roller ที่ใช้หินกัวซา ผสานเทคโนโลยี Sonic Vibration โดยใช้แรงสั่นสะเทือนเพื่อยกกระชับผิวหน้าและช่วยผลักดันเซรั่มหรือครีมให้ซึมลึกยิ่งขึ้น
- 2 in 1 Roller ที่มีหินกัวซา 2 ขนาดพร้อมด้ามจับที่ปรับให้เข้ากับรูปหน้า บริเวณซอกมุมต่างๆ
- Guasha for Eye Flowies Treatment ทีจะช่วยยกกระชับถุงใต้ตา ช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้า หรือสามารถนำไปใช้กับบริเวณอื่นๆ ตามจุดที่ปวดเมื่อได้อีกด้วย
นอกจากนี้การทรีตเมนต์ใบหน้าด้วยหินกัวซา ก็ทำได้ง่ายๆ สามารถทำได้ทุกวัน เพราะ กัวซาเป็นศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเซีย ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย ลาว พม่า กัมพูชา อินเดีย อินโดนีเซีย และบรูไน เพราะฉะนั้นลองได้ไม่เสียหาย แต่ก็ควรเลือกใช้หินแท้ ในราคาที่จับต้องได้ก็จะช่วยให้หน้าตึง สวยได้ ไม่ต้องจ่ายแพงอีกด้วย
