ในช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลโอบ้ง หรือ เทศกาลที่ชาวญี่ปุ่นจะกลับไปยังบ้านเกิดเพื่อไหว้บรรพบุรุษที่หลุมศพ ตามความเชื่อที่ว่าในช่วงนี้เหล่าบรรดาวิญญาณของบรรพบุรุษได้รับอนุญาตให้สามารถเดินทางกลับมายังโลกมนุษย์ได้ชั่วคราว
โดยปกติแล้วเทศกาลโอบ้ง จะจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนหรือช่วงวันที่ 13-16 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเทศกาลของชาวญี่ปุ่นที่มีความสำคัญพอๆ กับปีใหม่ บริษัทส่วนมากจะปิดทำการในช่วงนี้ โดยในแต่ละพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่นก็จะมีพิธีการหรือเทศกาลที่แตกต่างกันออกไป เช่น บางพื้นที่มีการจุดไฟนำทางให้บรรพบุรุษกลับบ้าน,บางแห่งก็จะไปลอยโคมในแม่น้ำ หรือบางพื้นที่จะมีการรำบงโอโดริ ร่วมกันที่วัดหรือศาลเจ้า
แต่ในระหว่างที่หลายคนกำลังเตรียมตัวที่จะกลับบ้านในช่วงเทศกาลโอบ้ง ก็กลับเกิดเหตุที่ทำเอาชาวญี่ปุ่นตกอกตกใจกันขึ้นมา เมื่อชาวเนตญี่ปุ่น เกิดไปพบว่า บนจอเรดาร์การบินของสนามบินนาริตะ มีการแจ้งว่ามีเครื่องบินของเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบิน JL 123 ปรากฏอยู่ในระบบการบิน สร้างความแตกตื่นให้กับชาวญี่ปุ่นกันยกใหญ่ เพราะเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 1985 เครื่องบินลำนี้ได้เกิดอุบัติเหตุตก จนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์เครื่องบินโดยสารของโลกคือจำนวน 520 ราย เป็นข่าวโด่งดังในระดับโลก แต่ในคืนวันที่ 5 สิงหาคม ต่อเนื่องวันที่ 6 สิงหาคม ก่อนเทศกาลโอบ้ง 1สัปดาห์ เที่ยวบินนี้กลับปรากฏขึ้นอีกครั้งเมื่อเวลา 23:56 นาที ถึง 0:22 นาที และเป็น Flightradar24 ที่ใช้อยู่ในระบบการควบคุมการบินของสนามบินนาริตะที่มีข้อมูลปรากฏชัดเจนทางเทคโนโลยี ไม่ได้เป็นการมโนกันขึ้นมาเองแต่อย่างใดซะด้วย
เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะชาวเนตญี่ปุ่นที่พากันแตกตื่นว่า เที่ยวบิน JL123 กลับมาได้อย่างไร หรือว่าบรรพบุรุษจะนั่งเครื่องบินกลับมาจากโลกวิญญาณ เพื่อเยี่ยมลูกหลานที่โลกมนุษย์จริงๆ และที่สำคัญมากันทั้งลำเครื่องบินเลยทีเดียว หลายคนพยายามจะหาความจริง บ้างก็จินตนาการกันไปยกใหญ่ ทั้งลุ้นและขนหัวลุกไปตามๆ กัน
ร้อนถึงสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ ที่ต้องรีบออกมาชี้แจงว่า การที่เที่ยวบิน JL123 ปรากฏบนจอเรด้าดังกล่าว ไม่ได้เป็นการกลับมาของบรรพบุรุษจากโลกอื่นแต่อย่างใด แต่เป็นการคีย์หมายเลขผิดของเจ้าหน้าที่ เพื่อนำเครื่องบิน บินโบอิ้ง 777-300 “JA740J” ของ JAL ที่เดินทางกลับจากสิงคโปร์ไปยังสนามบินนาริตะรหัสเที่ยวบินคือ “JL712” เข้าจอดพักในแผนกซ่อมบำรุง ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการคีย์รหัสเพื่อให้ทราบว่ามีการนำเครื่องเข้าซ่อมบำรุง โดยหมายเลขสำหรับการนำเข้าซ่อมบำรุง สามารถใช้ตัวเลขได้ก็ได้ แต่อาจจะด้วยความที่เจ้าหน้าที่แผนกซ่อมบำรุงไม่ได้คิดว่าจะเป็นความบังเอิญแบบนี้ขึ้นมา จึงได้คีย์รหัส เป็น JL123 ที่ดันไปตรงกับเครื่องบินที่เคยประสบอุบัติเหตุตกไปเมื่อ 35 ปีที่แล้ว จนกลายเป็นความแตกตื่นขึ้นมาดังกล่าว อย่างไรก็ตามเครื่องบินลำดังกล่าวก็ได้ออกเดินทางกลับสิงคโปร์ตามรหัสเที่ยวบิน “JL711” ในเช้าวันต่อมา
เจ้าหน้าที่ของเจแปนแอร์ไลน์ ออกมากล่าวขอโทษที่ทำให้เกิดความแตกตื่นของชาวญี่ปุ่นในช่วงก่อนเทศกาลโอบ้ง และว่าบริษัทอาจจะจำเป็นต้องหาวิธีการใหม่สำหรับการกำหนดหมายเลขในการนำเครื่องบินเข้าซ่อมบำรุงเพื่อไม่ให้กลายเป็นปัญหาสร้างความแตกตื่นขึ้นมาอีก ทั้งนี้ ที่ผ่านมา รหัส “”JL123” ไม่ได้ปรากฏขึ้นในครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ก่อนหน้านั้นก็เคยปรากฏขึ้นที่สนามบินนาริตะเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2020 และที่เมืองตูลูสประเทศฝรั่งเศส ที่ตั้งของบริษัทผลิตเครื่องบินแอร์บัส ในวันที่ 28 สิงหาคม 2019 มาแล้วเช่นกัน
แต่การปรากฏในครั้งนั้นไม่ได้บังเอิญพอดิบพอดีกับช่วงเทศกาลวิญญาณบรรพบุรุษกลับมาเยี่ยมลูกหลาน ก็เลยไม่ได้มีปัญหาเหมือนครั้งนี้ ที่ทำเอาตกใจกันไปทั้งโลกออนไลน์ของชาวยุ่น …นึกว่าปู่ย่าตายายจะเหมาเครื่องบินกลับมาหาซะแล้ว!!!!
