เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันถือว่าเข้าขั้นวิกฤตร้ายแรง ก่อความวิตกกังวลแก่ใครหลายคนที่คิดจะใช้เงินลงทุนช่วงนี้ แต่แม้จะแย่อย่างก็ตามก็ต้องมีสักวันที่โลกจะกลับมาฟื้นตัวเหมือนเคย
ธนาคารแห่งประเทศไทย (20 กรกฎาคม 2563) ชี้ว่า ถ้าเราไม่มีการระบาดของโรคโควิด -19 ซ้ำ เศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้นกลับมาได้ แบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งอาจใช้เวลาถึงปลายปีหน้า (ปี 2564) หรือใช้เวลาเกือบ 2 ปี ในลักษณะ ไนกี้ เชฟ แบบเครื่องหมายถูก หางยาว
- Nike-shape หรือ Swoosh-shape คือ การฟื้นตัวที่เป็น V-shaped ในช่วงแรก แต่ค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ในช่วงท้าย และเศรษฐกิจจะเติบโตช้าในระยะยาว
- V shape คือใช้เวลาสั้นในการฟื้นตัว อย่างจีน หรืออังกฤษ
- U shape ใช้เวลาฟื้นตัวยาวมากกว่า v
- แย่สุด คือ L shape
ในโลกที่เปลี่ยนไวและซับซ้อน เพื่อให้ปรับตัวได้ไว้เราควรจัดสรรเงินและเก็บเงินอย่างไรนั้น กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต แนะนำให้วางแผนการเงิน 3 ระยะ เพื่อให้รอดพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน ดังนี้
การออมระยะสั้น
เพื่อรับมือกับโลกใหม่ในอนาคตที่มีความไม่แน่นอน ควรเน้นเรื่องการรักษาสภาพคล่อง (ถือเงินสด) ไว้ก่อน ทองที่มีอยู่ยังไม่ควรขาย
การลงทุนระยะกลาง 3-5 ปี
อาจดูกองทุนต่างประเทศ ที่มีโอกาสน่าจะฟื้นตัวง่ายกว่าในไทยจากสถานการณ์ในประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ และการเมือง โดยกองทุนในต่างประเทศต้องดูสัมพันธ์กับทิศทางของอุตสาหกรรมที่สัมพันธ์กับนิวนอร์มอล
การลงทุนระยะยาว 5 ปีขี้นไป
อาจหุ้นกู้ของสถาบันหรือองค์กรที่แข็งแกร่ง
สำหรับใครที่สนใจกองทุน เราสามารถไปธนาคารแล้วขอคำปรึกษาเรื่องการวางแผนบริหารการใช้เงินของเราจากผู้จัดการกองทุนได้ แต่ล่าสุดในช่วงนี้ยังคงแนะนำให้เก็บเงินสดกับ ทองไว้จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ไทยจะฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหนต้องรอดู เดือนตุลาคมว่าสถานการณ์ หรือภาพรวมเศรษฐกิจ จะเป็นอย่างไร
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง