รู้จักกุ้งกันดีแค่ไหน

0
2001
kinyupen

หากพูดถึงวัตถุดิบที่มาจากแหล่งน้ำ ชื่อแรกที่หลายคนนึกถึงคงเป็น กุ้ง” ด้วยรสชาติความหวานและความนุ้มเด้งของเนื้อ สามารถปรุงอาหารได้หลากหลายประเภท กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต รวบรวมบรรดากุ้งนานาชนิดที่พบเห็นกันอยู่ทั่วไปว่ากี่ชนิด แต่ละชนิดมีที่มาที่ไปอย่างไร แล้วนำมาทำอาหารชนิดไหนถึงจะอร่อย

 

1.กุ้งขาว

 

เป็นกุ้งที่พบหรือเลี้ยงในน้ำกร่อย (พื้นที่ที่น้ำทะเลผสมกับน้ำจืด) และน้ำเค็ม ลักษณะลำตัวขาวใส หางสีแดง เนื้อจะนุ่มและแน่น เปลือกแกะง่าย เมื่อปรุงสุกจะมีสีส้มสด

ขนาด/น้ำหนัก ความยาวประมาณ 8 – 9 นิ้ว น้ำหนัก 40 – 135 กรัมต่อตัว ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงด้วย

เมนูอาหาร กุ้งชนิดนี้เอามาทำอาหารได้หลายแบบ เช่น ข้าวผัดกุ้ง กุ้งชุบแป้งทอด กุ้งทอดกระเทียม ทำเป็น “กุ้งแก้ว”    ใส่ในแกงส้มหรือส้มตำกุ้งสดก็อร่อย

 

กุ้งขาว

 

2.กุ้งแชบ๊วย

 

เป็นกุ้งน้ำเค็ม ขนาดพอๆ กับกุ้งขาว แต่รสชาติดีกว่า เนื้อแน่นกว่า กุ้งแชบ๊วยที่มาจากธรรมชาติ ลำตัวจะมีสีขาวอมเหลืองอ่อน และมีจุดสีดำตามลำตัว

ขนาด/น้ำหนัก ความยาวประมาณ 8 – 9 นิ้ว น้ำหนัก 50 – 100 กรัมขึ้นไป ถ้าเป็นกุ้งตามธรรมชาติน้ำหนักมากกว่านั้น

เมนูอาหาร กุ้งอบวุ้นเส้น กุ้งอบเกลือ กุ้งเผา ต้มยำกุ้ง ภัตตาคารอาหารจีนนิยมใช้ทำติ่มซำเพราะเนื้อแน่นสับแล้วเหนียว

 

กุ้งแชบ๊วย

 

3.กุ้งลายเสือ

 

ส่วนใหญ่เป็นกุ้งธรรมชาติ เพราะเลี้ยงยาก พบได้บริเวณชายฝั่งถึงระดับน้ำทะเลลึก ลำตัวสีน้ำตาลอ่อน มีแถบสีน้ำตาล น้ำตาลอมแดง หรือสีดำพาดขวาง เป็นที่มาของชื่อ “กุ้งลายเสือ

ขนาด/ น้ำหนัก ความยาวขนาดใหญ่สุด 12 นิ้ว น้ำหนักอยู่ที่ 400-500 กรัม

เมนูอาหาร กุ้งเผา กุ้งอบเนย กุ้งอบเกลือ กุ้งราดซอสมะขาม

 

กุ้งลายเสือ

 

4.กุ้งแม่น้ำ

 

หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กุ้งก้ามกราม ทั้ง 2 ชนิด คือ กุ้งสายพันธุ์เดียวกัน

กุ้งแม่น้ำ เป็นกุ้งที่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เนื้อแน่นกว่ากุ้งก้ามกราม ขนาดและก้ามใหญ่กว่า อาศัยตามแหล่งน้ำธรรมชาติทั้งในน้ำจืดและน้ำกร่อย

กุ้งก้ามกราม เป็นกุ้งที่เกิดจากการเพาะพันธุ์ ทั้งเลี้ยงแบบวังกุ้ง นำลูกพันธุ์มากักเลี้ยงไว้ในแหล่งพักธรรมชาติ มักพบตามพื้นที่ที่เป็นน้ำกร่อย และเลี้ยงแบบฟาร์มที่ใช้วิธีเพาะพันธุ์ในบ่อหรือกระชัง

ขนาด/ น้ำหนัก ขนาดใหญ่ความยาวจะอยู่ที่ 12 นิ้ว ส่วนขนาดเล็ก 3 – 4 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 300 – 600 กรัม

เมนูอาหาร กุ้งแม่น้ำเผา เมนูยอดนิยมของใครหลายคน แต่ก็ใช่ว่าจะนำไปทำอย่างอื่นไม่ได้ ทำเมนูกุ้งอบ กุ้งคั่วเกลือก็ได้เช่นกัน ส่วนที่เป็นมันของกุ้งแม่น้ำนิยมนำมาทำข้าวผัดหรือผัดไทย

 

 

นอกจากเรียก “กุ้งก้ามกราม” ยังมีชื่อเรียกอื่นๆ ตามลักษณะการเลี้ยง บางชื่อคุณอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน

กุ้งนาง เป็นกุ้งตัวเมีย มีขนาดก้ามที่เล็กและสั้นกว่าตัวผู้ มีไข่ที่ท้อง ถ้าไม่มีไข่จะเรียกว่า “กุ้งโปร่งไข่”

กุ้งหลวง หรือ กุ้งแม่น้ำ คือ กุ้งตัวผู้ มีลักษณะตัวใหญ่ เนื้อแน่น มันเยอะ มีก้ามแข็งและยาว

กุ้งแก้ว หรือ กุ้งหัวแก้ว,กุ้งมันแก้ว ส่วนใหญ่เป็นกุ้งตัวเมีย ที่ยังไม่มีไข่ ที่หัวจะมีมันเป็นก้อนแข็ง สีแดงเข้ม เหมาะกับคนที่ชอบมันกุ้งแบบกรุบๆ

กุ้งโก๋ หรือ กุ้งจิ๊กโก๋ คือ กุ้งตามบ่อเลี้ยง ขนาดไม่ได้มาตรฐาน ตัวเล็กหัวโต นิยมใช้ตามร้านหมูกระทะ หรือ ร้านบุฟเฟต์

 

 

5.กุ้งเครย์ฟิช

 

กุ้งน้ำจืดสายพันธุ์ใกล้เคียงกับล็อบสเตอร์ มีเลือดสีฟ้าจนได้ฉายาว่า “ล็อบสเตอร์น้ำจืด” เป็นที่นิยมทั้งในยุโรปและเอเชีย มีเปลือกสีแดงจัดจ้าน รสอร่อย เนื้อแน่นหนึบเหมือนเนื้อกั้งผสมเนื้อปู

ขนาด/ น้ำหนัก ความยาว 2 – 6 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 50 – 100 กรัม

เมนูอาหาร นิยมที่สุดคือเอามาทำ “กุ้งถัง” หรือกุ้งผัดซอสที่เสิร์ฟมาบนกระดาษไข รวมกับหอย ปลาหมึก ข้าวโพด หรือจะนึ่ง ต้ม อบก็ได้เช่นกัน

 

กุ้งเครย์ฟิช

 

เคล็ดลับการเลือกกุ้งให้ดี กินให้อร่อย

  • ดูจากสี : ตัวกุ้งเป็นสีใส หากเป็นกุ้งขาวจะออกสีเทา ไม่ควรมีจุดสีดำหรือเหลือง ซึ่งแปลว่ากุ้งตัวนั้นผ่านการฟอกขาวมา ยกเว้นกุ้งลายเสือบางสายพันธุ์อาจจะมีจุดสีดำ
  • ดูที่เปลือก : เปลือกกุ้งต้องแข็ง แน่น หยิบแล้วไม่มีเมือกเหนียวติดมือ
  • กุ้งดียังมีหัวอยู่ : หัวกุ้งควรยังติดแน่นอยู่กับตัว และมีความแข็งไม่อ่อนหรือเละจนเกินไป
  • กลิ่นกุ้งต้องไม่คาว : การดมกลิ่นคือวิธีหนึ่งที่ชัดเจนที่สุด หากกุ้งมีกลิ่นคาวรู้ได้ทันทีเลยว่ากุ้งไม่สด

 

เมื่อทำความรู้จักกับกุ้งมาพอสมควรแล้ว รู้วิธีการเลือกและเมนูอาหารที่มาจากกุ้ง ถึงเวลาออกไปจับจ่ายหาซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารทานกันดีกว่า ใครทำเมนูอะไร แวะมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะ….

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก

– wongnai.com

– waterlibrary.com

– greenery.org

– cooking.kapook.com

– makrohorecaacademy.com

kinyupen