สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นเราจึงใส่ใจในทุกคำเตือนโดยเฉพาะโทษของการกินหวาน และ กินเค็มมากเกินไป ส่งผลเป็นเหตุให้ผู้คนงดกินเค็ม งดกินหวานหากในอีกด้านหวานและเค็ม ก็สำคัญกับร่างกายเพราะหากขาดไปเลยอันตรายก็สูงไม่หย่อนกว่ามากเกินไปด้วยเสี่ยงถึงชีวิตโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัย
กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจึงนำข้อมูลโทษของการขาดเค็มในร่างกายเพื่อให้ทุกท่านได้สร้างสมดุลมีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะ “ขาดเค็ม” เป็นสิ่งที่หลายคนอาจลืมนึกถึง โดยสิ่งที่ร่างกายต้องการคือ โซเดียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ส่วนใหญ่อยู่ในเกลือ
ร่างกายคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญถึง 60% และรองมาคือ โซเดียมที่มีปริมาณในร่างกาย 15%
เพราะโซเดียมมีหน้าที่ควบคุมถ่ายเทน้ำในเซลล์และเป็นสื่อสัญญาณไฟฟ้าระหว่างเซลล์ประสาทที่ควบคุมการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อ ตลอดจนเผาผลาญโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตในร่างกาย ดังนั้นปริมาณเกลือที่ร่างกายต้องการต่อวันจะอยู่ที่ 400 มิลลิกรัมเพื่อหมุนเวียนดชดเชยเกลือในร่างกายผ่านทางหลอดเลือด
หากร่างกายมีภาวะโซเดียมต่ำการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อจะเสื่อมลง อาการที่จะเกิดขึ้นคือ คลื่นไส้อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นตะคริว ทั้งอาจเกิดอาการทางสมองเช่น ซึม ชัก หรือหมดสติ
โดยสาเหตุที่คนจะขาดเกลือส่วนใหญ่เกิดจากการเสียเหงื่อ หรือน้ำในร่างกาย คือ เสียเหงื่อ อาเจียน ท้องเสีย อาการที่แสดงให้เห็นเบื้องต้นจะ ไม่มีแรง ปากแห้ง ปัสสาวะน้อยผิดปกติ
ดังนั้นผู้ที่ลดน้ำหนักลดแป้ง (Low-carb Diet) ควรจะต้องระวังในประเด็นนี้เพราะเมื่อร่างกายดึงไขมันสะสมไปเป็นพลังงาน ไตจะขับธาตุโซเดียมออกจากร่างกายมากกว่าปกติดังนั้นจึงควรกินอาหารที่มีโซเดียมมากกว่าปกติ เช่นเดียวกับกลุ่มที่ลดน้ำหนักโดยกินคีโต ด้วยเหตุผลเดียวกัน
สำหรับคนที่มีภาวะโซเดียมในเลือดต่ำบางที่เกิดจากปัญหาของสุขภาพ เช่นเป็นไทรอยด์กลุ่มไฮโปร (ทำงานน้อยกว่าปกติ) หรือกินยาบางประเภทอย่างยาขับปัสสาวะ ยากันชัก ยาที่เกี่ยวกับระบบประสาทหรือจิตเวช ยาลดความดัน ยาแก้หอบ รวมถึงมีอาการท้องร่วงเรื้อรัง หรือเสียเหงื่อจากการออกกำลังมากเกินไป
แต่ถ้าร่างกายมีโซเดียมมากเกินไป โรคที่จะเสี่ยงตามมาคือความดันโลหิตสูง รวมถึงระบบไต หัวใจ หลอดเลือดหัวใจ และสมองซึ่งต้องทำงานหนักขึ้น ฉะนั้นกินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจึงขอให้เราเลือกบริโภค เลือกกินแบบทางสายกลางไม่มาก ไม่น้อยไป