คนเรามีชีวิตเฉลี่ยอยู่ที่ 70 ปี..แม้ว่าพันธุศาสตร์เป็นหนึ่งในตัวช่วยกำหนดอายุขัยร่างกายเราไว้แล้ว แต่วิถีชีวิตก็เป็นปัจจัยที่ทำให้อายุยืนยาวเช่นกัน วันนี้ กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจะพาคุณไขความลับอายุยืนยาวในแบบฉบับชาว Blue Zone หรือ กลุ่มคนที่มีอายุเกิน 100 ปี ว่าเขาใช้ชีวิต หรือ มีความเป็นอยู่กันอย่างไร
Blue Zone คืออะไร?
แดน บิวท์เนอร์ (Dan Buettner) นักเขียนชาวสหรัฐฯ นิยามคำว่า “Blue Zone” หมายถึง ชุมชนที่ผู้คนมีอัตราการเป็นโรคเรื้อรังต่ำและมีอายุยืนยาวกว่าที่อื่น กล่าวคือมีคนอายุเกิน 100 ปีมากที่สุด ซึ่งแดนได้เลือกชุมชนที่อายุยืนที่สุดในโลก หรือ Blue Zone ไว้ 5 แห่งคือ
- แคว้นบาราเจีย (อิตาลี): ตั้งอยู่บนเขาสูง มีผู้ชายอายุเกิน 100 ปีมากที่สุด
- คาบสมุทรนิโกยา (คอสตาริกา): ชุมชนที่มีอัตราการเสียชีวิตในวัยกลางคนต่ำที่สุด และมีจำนวนผู้ชายอายุเกิน 100 ปีมากเป็นที่สองรองจากบาราเจีย
- อิคาเรีย (กรีซ): เกาะในกรีซเป็นชุมชนที่มีอัตราการเป็นโรคสมองเสื่อมต่ำสุด ทั้งมีอัตราเสียชีวิตในวัยกลางคนต่ำที่สุดด้วย
- โลมา ลินดา (USA): ชุมชนผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายเซเวนเดย์แอดเวนตีส ที่กินแต่พืชผัก ตั้งอยู่ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ผู้คนมีอายุเฉลี่ยมากกว่าชาวอเมริกันทั่วไป 10 ปี
- โอกินาว่า (ญี่ปุ่น): มีผู้หญิงอายุยืนมากที่สุดในโลก
เทคนิคใช้ชีวิตแบบชาว Blue Zone
อาหารการกิน คนในพื้นที่ Blue Zone มักทานอาหารที่มีพืชเป็นส่วนประกอบ 95% ซึ่งอุดมไปด้วยพืชผักตระกูลถั่ว เมล็ดธัญพืชทั้งหมดนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยด้านอาหารอื่น ๆ ที่กำหนดเขต Blue Zone แต่ละแห่ง เช่น ในอิคาเรียและซาร์ดิเนียมักกินปลา ซึ่งเป็นแหล่งที่ดีของไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อหัวใจและสมอง ทั้งนี้ข้อมูลจากการสำรวจของ Blue Zone นั้นเป็นหลักฐานชั้นดีที่บ่งชี้ว่า การกินอาหารพืชเป็นหลักกินเนื้อสัตว์ให้น้อยที่สุด สัมพันธ์กับการมีอายุยืน
ทำตามกฎ 80% กินอย่างช้าๆ และหยุดกินเมื่อมีอาหารร้อยละ 80 ของกระเพาะอาหาร ไม่รอให้อาหารเต็มกระเพาะอาหาร สิ่งนี้ป้องกันไม่ให้พวกเขากินแคลอรีมากเกินไปซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มน้ำหนักและโรคเรื้อรัง หรือ ถ้าจะตีความให้ง่ายก็คือ ไม่ทานจนอิ่มมากเกินไปนั่นเอง
แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกาย ผู้คนกลุ่มนี้ไม่ได้ออกกำลังกายแบบหักโหม หรือ ต้องไปเข้ายิม แต่การออกกำลังกายถูกผนวกเข้ากับชีวิตประจำวันของพวกเขาอยู่แล้ว โดยเน้นเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือเครื่องทุ่นแรงอะไรมากนัก อาทิ การทำสวน เดิน ปีนบันได ทำอาหาร และทำงานบ้านอื่นๆ ช่วยในด้านสุขภาพ เพิ่มความกระฉับกระเฉง ช่วยยืดอายุได้
นอนหลับเพียงพอ นอนหลับตอนกลางคืน 7 ชั่วโมง และนอนไม่เกิน 30 นาทีระหว่างวันอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและการเสียชีวิตได้
ดื่มแอลกอฮอล์พอเหมาะ บางคนดื่มไวน์แดงวันละ 1-2 แก้วซึ่งอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจและลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต และยังทำให้คุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้นอีกด้วย
ปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยให้อายุยืน
- ตั้งเป้าหมายในชีวิต แม้อายุเป็นร้อย แต่ต้องมีเป้าหมายว่าวันนี้จะทำอะไร
- ชุมชนทางศาสนา พบว่า ศาสนามีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต อาจเพราะช่วยสนับสนุนให้เกิดการสร้างสัมพันธ์และอัตราการลดลงของภาวะซึมเศร้า
- สังคมที่ดี ในโอกินาว่าเรียกเพื่อนร่วมสาบานว่า “โมอาย” มีเกื้อหนุนกันตลอดชีวิตไม่ทิ้งกัน และที่สำคัญเพื่อนฝูงเองก็ส่งผลต่อชีวิตของเรา เช่น หากมีเพื่อนเป็นโรคอ้วนคุณมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนมากขึ้น โดยอาจเกิดจากพฤติกรรมทางสังคม
- หลากวัยในครอบครัว จากการศึกษาพบว่าปู่ย่าตายายที่ดูแลลูกหลานมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตลดลง
ปัจจัยเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเกี่ยวข้องกับชีวิตที่ยืนยาวขึ้น นอกเหนือจากอาหารและการออกกำลังกายจะมีบทบาทสำคัญในการมีอายุยืนยาว วัตถุประสงค์ในชีวิต ครอบครัวและเครือข่ายสังคมเองก็มีอิทธิพลต่อเวลาชีวิตที่คุณจะใช้มัน อย่างไรก็ตามทุกช่วงเวลาชีวิตล้วนมีสิ่งที่ดีที่สุดให้เราได้เรียนรู้ ดังนั้นชีวิตของคุณย่อมมีคุณค่าไม่ว่าคุณจะมีเวลาเหลือน้อยแค่ไหนก็ตาม
ที่มา : healthline.com