ฝรั่งเป็นงง วาเลนไทน์ชาวเอเชียงัดสารพัดของขวัญมอบคนรัก “รักแท้ หรือ แค่การตลาด”

0
606
kinyupen

ใกล้ถึงวันวาเลนไทน์อีกแล้ว บรรดาหนุ่มสาวคงจะกำลังเตรียมตัวเพื่อต้อนรับวันวาเลนไทน์ที่กำลังใกล้เข้ามา  โดยเฉพาะการเตรียมของขวัญต่าง ๆ ที่สามารถสื่อความหมายดี ๆ ต่อคู่รักนั่นเอง

 

ประเทศในแถบเอเชียได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มประเทศที่ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์อย่างมาก ซึ่งความตื่นตัวแบบกลายเป็นวาระแห่งชาติของชาติตะวันออก อย่างญี่ปุ่น เกาหลี หรือ จีน หรือแม้กระทั่งไทยเราเอง ยิ่งใหญ่ถึงขนาดทำให้คนตะวันตกเองถึงกับต้องตกใจเมื่อเห็นว่าผู้คนในแถบตะวันออกมีความเชื่อในการให้ของขวัญแปลก ๆ เพื่อเป็นการแสดงความรักในวันวาเลนไทน์  อย่างอลังการมากขึ้นและ บางกิจกรรมก็ดูจะไม่เกี่ยวข้องกับตำนานของ “เซนต์วาเลนไทน์” เลยแม้แต่น้อย

ลองมาดูกันว่าแต่ละประเทศจะมีกิจกรรมการแสดงความรักกันอย่างไรบ้าง

 

ญี่ปุ่น

ในประเทศญี่ปุ่นดูจะเป็นการเฉลิมฉลองวาเลนไทน์ที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลก เมื่อหนุ่มสาวมีธรรมเนียมที่ฝ่ายหญิงจะเป็นผู้มอบ “ช็อกโกแลต” ให้กับฝ่ายชายเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนความรักแทนการมอบดอกไม้หรือของขวัญอื่น ๆ

แม้จะเป็นธรรมเนียมที่มีต้นตอมาจากแนวคิดทางการตลาดของบริษัทขายช็อกโกแลต ที่ต้องการสร้างยอดขายจากวันวาเลนไทน์ ด้วยการสร้างสตอรี่ขึ้นมา เมื่อ 40 กว่าปีก่อน แต่ธรรมเนียมทางการตลาดนี้ก็กลับกลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางของหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นมาถึงปัจจุบัน และกลายเป็นสิ่งที่นิยมปฏิบัติประจำประเทศไปในที่สุด

แต่เดิมในการมอบช็อกโกแลตที่กลายเป็นธรรมเนียม หญิงสาวชาวญี่ปุ่นจะมอบช็อกโกแลตให้กับชายคนรักเพียงคนเดียวในวันวาเลนไทน์ แต่ต่อมาด้วยแผนการตลาดที่แยบยลทำให้การมอบช็อกโกแลต ถูกแพร่หลายไปจนถึงการมอบช็อกโกแลตแก่เพื่อนในโรงเรียน เพื่อนร่วมงาน หรือเจ้านายที่เป็นผู้ชายโดยไม่จำเป็นต้องมีนัยเรื่องความรักด้วยก็ได้

ไม่เพียงเท่านั้น การที่จะให้ช็อกโกแลตขายได้กว้างขวางมากขึ้น การจัดระเบียบประเภท และความหมายของช็อกโกแลตจึงเกิดขึ้น ทำให้การมอบช็อกโกแลตของหญิงสาวชาวญี่ปุ่นมีรูปแบบที่แตกย่อยไปอีกหลายชนิดด้วย

 

 

 

ขอบคุณภาพจาก congerdesign

สำหรับผู้ที่สาว ๆ หมายมั่นปั้นมือ และถือว่าเป็นคนรัก หรือแอบชอบจริงจัง อยากจะมอบความรักและเปิดเผยความรู้สึกให้ พวกเธอจะมอบช็อกโกแลตที่เรียกว่า ฮองเมช็อกโกะ (本命チョコ) ที่จะมีลักษณะเป็นช็อกโกแลตที่ดีที่สุด ที่ส่วนใหญ่สาว ๆ มักจะลงมือทำเอง เพื่อสื่อถึงความตั้งใจจริง เป็นการหลอมช็อกโกแลตด้วยหัวใจ หรือไม่ก็จะเป็นช็อกโกแลตที่แพงที่สุด หรูที่สุด ที่เรียกได้ว่าใครได้ช็อกโกแลตประเภทนี้จากสาว ๆ หรือคนรักก็มั่นใจได้เลยว่าเธอให้ความสำคัญกับเขามากที่สุดนั่นเอง

 

แต่สำหรับผู้ชายคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน, ผู้ร่วมงาน หรือเจ้านายที่เป็นผู้ชาย หญิงสาวชาวญี่ปุ่นก็จะมอบช็อกโกแลตให้ด้วยเช่นกัน ช็อกโกแลตแบบนี้เรียกว่า กิริช็อกโกะ (義理チョコ) ที่เป็นช็อกโกแลตธรรมดาไม่พิเศษอะไร ไม่หรูหรา ก็แค่เป็นเพียงการมอบตามมารยาทเท่านั้น

 

และเมื่อมีการมอบช็อกโกแลตให้กับผู้ชายแล้ว ผู้ชายก็ควรจะมีการมอบของขวัญตอบแทนหญิงสาวบ้าง ธรรมเนียม “วันไวท์เดย์” 14 มีนาคม หรืออีกหนึ่งเดือนต่อมาก็เกิดขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ฝ่ายชายที่ได้รับ “ฮองเมช็อกโกะ” จะตอบรับความรักด้วยการมอบของขวัญสุดพิเศษซึ่งส่วนใหญ่จะมีมูลค่ามากกว่าช็อกโกแลตที่หญิงสาวมอบให้ โดยเฉพาะลูกกวาดสีหวานแหวว ที่สื่อความหมายว่า “ผมก็รักคุณ” นั่นเอง

แต่ถ้าหากว่าชายหนุ่มไม่ได้มีใจให้กับหญิงสาว พวกเขาก็จะมอบของขวัญตอบแทนเป็นของขวัญอื่นๆ เช่น คุ้กกี้ ที่สื่อความหมายกลางๆ ประมาณว่า เป็นเพื่อนที่ดีอย่างนี้ก็ดีมากแล้ว หรือขนม มาช์เมลโล่ ที่มีความหมายว่า “ขอโทษนะ ผมไม่สนใจคุณ” เป็นการปฏิเสธความรักที่ได้มาแบบนุ่ม ๆ ซอฟ ๆ นั่นเอง

 

เกาหลี

เกาหลีเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับวันแห่งความรัก แต่ว่าไม่ใช่แค่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ อย่างเดียว เพราะชาวเกาหลีจะมีวันแห่งความรักกันทั้งปีเลยทีเดียว โดยในทุกวันที่ 14 ของแต่ละเดือนก็จะถูกกำหนดให้เป็นวันที่เกี่ยวข้องกับความรักทั้งหมด มีอะไรบ้างไปดูกัน

  • เริ่มต้นที่ วันที่ 14 มกราคม ของเกาหลีคือวัน Diary Day เป็นวันที่คู่รักแลกสมุดไดอารี่ซึ่งกันและกัน หลังจากที่เขียนบันทึกถึงเรื่องราวความรัก ความรู้สึกมาทั้งปี
  • วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของเกาหลีคือวัน Valentine’ s Day วันแห่งความรักเหมือนกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ฝ่ายหญิงจะมอบช็อกโกแลตหรือของขวัญให้ฝ่ายชายเหมือนกับญี่ปุ่น
  • วันที่14 มีนาคม ก็เป็นวัน White Day ที่ผู้ชายต้องมอบของขวัญตอบแทนฝ่ายหญิงเหมือนกัน
  • นอกจากนี้ในวันที่ 14 เมษายน ที่เกาหลียังมีวัน Black Day เป็นวันที่คนโสดออกมารวมตัวกันรับประทานจาจังมยอน หรือบะหมี่ราดซอสสีดำ ๆ เพื่อประกาศตัวเองว่าเป็นคนโสด แต่ก็มีหลายคนเหมือนกันที่ได้คู่จากวันคนโสดนี้
  • ต่อมาในวันที่ 14 พฤษภาคม ของเกาหลีคือวัน Rose Day และ Yellow Day คู่รักจะมอบดอกกุหลาบให้กัน และถือเป็นวัน Yellow Day สำหรับคนโสด คือหนุ่มโสดสาวโสดที่ไม่ได้กินจาจังมยอนในวัน Black Day จะไปกินแกงกะหรีในวันนี้
  • 14 มิถุนายน ของเกาหลีคือวัน Kiss Day วันที่คู่รักจะจุมพิตกันเพื่อยืนยันความรัก อย่างที่เห็นกันในที่สาธารณะ อย่างสถานีรถไฟ หรือที่ที่คนเดินผ่านเยอะแยะ เพื่อประกาศถึงความรักของตัวเอง
  • 14 กรกฎาคม ของเกาหลีคือวัน Silver Day วันที่คู่รักแลกแหวนเงิน แต่สำหรับคนโสดว่ากันว่าเป็นวัน Blue Day เขาจะใส่เสื้อผ้าสีฟ้าออกไปใช้ชีวิตให้มันส์ ๆ ออกแนวประชดน้อยใจ
  • 14 สิงหาคม จะเป็นวัน Green Day เป็นวันที่คนโสดจะมาดื่มเหล้าเกาหลี โชจูเขียว (Green Soju) คนมีคู่ก็จะใส่ชุดคู่สีเขียวเดินเคียงคู่กันในทางเดินที่ปูด้วยไม้
  • 14 กันยายน วัน Music Day เป็นวันที่คู่รักจะนำเพลงมาแลกเปลี่ยนกัน ข้อมูลบางแหล่งก็บอกว่า วันนี้เป็นทั้งวัน Music Day และ Photo Day (วันถ่ายรูปที่ระลึกกับคนรักในสถานที่ดี ๆ)
  • 14 ตุลาคม เป็นวัน Red Day วันนี้คนโสดไร้คู่จะไปกินต๊อกโบกี้ เพื่อแสดงความโสดของตัวเองอีกแล้ว
  • 14 พฤศจิกายน ของเกาหลีคือวัน Orange & Movie Day วันนี้คู่รักเขาจะพากันไปทำกิจกรรม พากันไปดูหนัง และดื่มน้ำส้มด้วยกัน (ช่างเป็นวันที่น่ารัก มุ้งมิ้งจริง ๆ เชียว)
  • จบด้วย 14 ธันวาคม คือวัน Hug Day วันกอดคน กอดกับคนที่เรารัก ข้อมูลบางแหล่งบอกว่าวัน Hug Day คือวันที่ 14 พ.ย. ส่วน 14 ธ.ค. เป็นวัน Money Day วันที่คู่รักเปย์เต็มที่เพื่อซื้อของให้แฟนตัวเอง

 

จีน

จริง ๆ แล้วจีนมีวันแห่งความรักตามตำนานของตัวเอง ตรงกับวัน Qixi หรือเทศกาลคืนที่ 7 ซึ่งตรงกับวันที่ 7 ของเดือนจันทรคติที่ 7 ในแต่ละปี ไม่ใช่วันวาเลนไทน์สากล 14 กุมภาพันธ์ เหมือนกับประเทศอื่น

สำหรับวันแห่งความรักของจีน มีตำนานว่า Zhinu ลูกสาวของกษัตริย์แห่งสวรรค์และ Niulang คนเลี้ยงวัวที่ยากจนต่างตกหลุมรักกัน พวกเขาแต่งงานและมีลูกแฝด เมื่อพ่อของฝ่ายหญิงสาวรับรู้จึงแยกทั้งคู่ออกจากกัน แต่หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อได้ยินเสียงร่ำไห้ของลูกสาว เขาก็ใจอ่อนและยอมให้ทั้งคู่ได้พบกันปีละครั้ง (คล้ายกับวันทานาบาตะของญี่ปุ่น)

ในช่วงวัน Qixi หญิงสาวชาวจีนจะเตรียมผลไม้ที่ตกแต่งแต่งสวยงาม ไว้เซ่นไหว้ Zhinu เพื่ออธิษฐานขอให้สมหวังในการได้พบสามีที่ดี ความสุขและความมั่งคั่ง

แต่ปัจจุบันเมื่อวัฒนธรรมตะวันตกแพร่เข้ามาในจีน หนุ่มสาวชาวจีนก็นิยมมอบของขวัญเพื่อแสดงความรักให้แก่กันเช่นเดียวกับคู่รักในประเทศอื่น ๆ ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้, ช็อกโกแลต หรือ ของขวัญที่มีค่าอื่น ๆ แต่พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะแสดงความรักต่อกันในวันแห่งความรัก วันที่เจ็ด เดือนเจ็ด ด้วยเช่นกัน

 

ไทย

ประเทศไทยเคยตกเป็นข่าวว่าเป็นหนึ่งประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่หนุ่มสาวให้ความสำคัญกับการซื้อของขวัญวันวาเลนไทน์ด้วยการทุ่มเงินไม่อั้นในการซื้อของขวัญให้คู่รักมากที่สุด โดยของขวัญยอดนิยม หนีไม่พ้นดอกกุหลาบขนาดต่าง ๆ ตุ๊กตาตัวใหญ่ ตั้งแต่ของขวัญขนาดเล็กไปจนถึงแหวนเพชร หรือ ของขวัญมีค่าอื่น ๆ ซึ่งอาจจะดูมีอะไรแตกต่างจากชาติอื่น

แต่สิ่งที่ดูจะพิเศษกว่าก็คือกิจกรรมพิเศษสำหรับคู่รักในวัยที่กำลังจะสร้างครอบครัว เพราะจะมีการจัดกิจกรรมจดทะเบียนสมรสแบบแปลก ๆ ให้กับคู่รักในวันวาเลนไทน์ ตามจุดเด่นของแต่ละพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่มีความมุ่งหวังว่าการจัดให้มีการจดทะเบียนในวันวาเลนไทน์ จะช่วยประชาสัมพันธ์ชื่อเสียงของพื้นที่นั้นๆ ไปด้วยในตัว โดยกิจกรรมจดทะเบียนสมรสของไทยที่โดดเด่น เช่น

 

ในกรุงเทพฯ หนุ่มสาวนิยมที่จะไปจดทะเบียนสมรสวันวาเลนไทน์ กันที่เขต บางรัก เพราะมีชื่อที่เป็นมงคล สื่อถึงความรักอย่างชัดเจน โดยทางเขตก็จะเตรียมของขวัญไว้มากมายสำหรับคู่รักที่เดินทางมาจดทะเบียนสมรส เช่นทองคำ หรือของรางวัลมีค่าอื่น ๆ เป็นคู่แรก ๆ นอกจากนี้ยังมีบริษัทห้างร้านต่าง ๆ นำของรางวัลมามอบให้กับผู้ที่มาจดทะเบียนสมรสกันในวันวาเลนไทน์อย่างคึกคักในแต่ละปี

 

ที่จังหวัดตรัง มีการจัดให้มีการจดทะเบียนสมรสใต้น้ำ โดยคู่รักจะต้องดำน้ำลงไปลึก 8 เมตร เพื่อลงไปจดทะเบียนสมรส ซึ่งจะมีนายทะเบียนดำน้ำลงไปทำการจดทะเบียนให้กับบ่าวสาวด้วย ก่อนที่จะขึ้นมาจดทะเบียนสมรสจริงบนบก และ มีพิธีฉลองมงคลสมรสให้กับคู่บ่าวสาวในยามค่ำคืน บริเวณชาวหาดปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง

 

ที่ จ.เชียงราย มีการจัดให้มีการจดทะเบียนสมรสในวันวาเลนไทน์ลอยฟ้า บนบอลลูนยักษ์ โดยคู่รักทั้งหมดจะจดทะเบียนสมรสกันก่อนที่จะ ขึ้นบอลลูนชมทัศนียภาพของสถานที่จัดงาน  สิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย

 

ส่วนที่ จ.กระบี่ มีการจัดให้มีการจดทะเบียนกันที่หน้าผาใช้ชื่องานว่า ปีนผาจดทะเบียนสมรส ที่อ่าวไร่เลย์ ตำบลอ่าวนางเพื่อโดยใช้แนวคิดว่า เป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้มีความมั่นคง มีความรักความเข้าใจ มีความผูกพันหนักแน่นเหมือนภูผาที่แข็งแกร่ง สร้างความอบอุ่นในครอบครัว เป็นที่ยอมรับของสังคม และครอบครัวได้รับสิทธิตามกฎหมาย

 

ที่ จ.เลย มีการจัดงานให้คู่รักได้จดทะเบียนกันทีภูกระดึง ก่อนที่จะให้ทั้งคู่ จูงมือกันเดินขึ้นสู่ยอดเขาภูกระดึง เสมือนเป็นการฝ่าฟันอุปสรรค ความยากลำบากบนเส้นทางที่สูงชันและยาวไกลถือเป็นการพิสูจน์รักแท้ และให้คู่รักได้ช่วยกันเอาชนะความลำบากตลอดเส้นทางการเดินขึ้นภูกระดึง พิสูจน์รักบนความสูง 1,288 เมตร ท่ามกลางอากาศหนาว ยอดภูกระดึง 8 องศาฯ

 

ที่จังหวัดสุรินทร์ มีการจัดงานสมรสบนหลังช้างและการประกอบพิธีแต่งงานแบบชาวกวย หรือ “พิธีซัตเต” เป็นการสู่ขวัญคู่บ่าวสาวแบบชาวกวย และจะมีพิธีแห่ขันหมากบนหลังช้าง การเลี้ยงอาหารช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล และร่วมนั่งช้างจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง สัตว์มงคลขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีการประกอบพิธีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น

 

kinyupen