เป็นที่ยอมรับกันในโลกของความเป็นจริงอยู่แล้วว่า ชีวิตมนุษย์คงไม่มีใครที่จะมีความสมบูรณ์แบบไปทุกด้าน ทุกคนล้วนต่างมีด้านสว่างและด้านมืด แอบซ่อนอยู่แล้ว อยู่ที่บุคลิกของแต่ละคนว่าใครจะเปิดเผยมุมนั้นออกมาในรูปแบบใดเท่านั้น โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมาเรื่องของความดี ความชั่ว ความแข็งแกร่ง ความอ่อนแอ ได้ถูกนำมาวิเคราะห์พูดถึงอย่างมากในสังคมไทยขณะนี้
เรื่องราวของ เดคิสึงิ ฮิเดะโทะชิ หนึ่งในตัวละครในการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดังโดราเอมอน อาจจะเป็นหนึ่งในตัวอย่างของความพยายามของผู้เขียนอย่างอาจารย์ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ ที่ต้องการสะท้อนให้เห็นว่าในโลกนี้ แม้ว่าภายนอกมนุษย์คนหนึ่งจะเป็นคนที่ดีและเก่ง สมบูรณ์แบบชนิด 100% มีบุคลิกอ่อนโยนและเป็นมิตรกับทุกคน แต่ก็อาจจะซ่อนความลึกลับที่ยากจะคาดเดาได้ จนเป็นปริศนาว่าแท้จริงแล้ว เขามีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ หรือ ในใจคิดอะไรกันแน่ และที่สำคัญคนที่ดีงามขนาดนี้ น่าจะมีอยู่เพียงแต่ในอุดมคติเท่านั้น
เดคิสึงิ เป็นตัวละครตัวหนึ่งในการ์ตูน โดราเอมอน มังงะอมตะชื่อดังของญี่ปุ่น เขียนโดยฟูจิโกะ ฟูจิโอะ นักเขียนการ์ตูนชื่อดังที่สร้างเจ้าแมวหุ่นยนต์ สีฟ้าที่มีของวิเศษมากมายจากกระเป๋าหน้าท้อง อย่างโดราเอมอน ขึ้นมาเพื่อเป็นเพื่อนคู่คิดกับเด็กชายชั้นประถมผู้มีความอ่อนแอ ขี้เกียจและไม่ฉลาด อันเป็นจุดเด่นของ โนบิตะ ที่ต้องผจญภัยกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ร่วมกับเพื่อน ๆ นักเรียนประถมในละแวกเดียวกัน
เดคิสึงิ ถูกสร้างให้เป็นตัวละครที่เป็นนักเรียนประถมที่ฉลาดที่สุดในชั้นเรียน มีความฉลาดรอบรู้ไปซะทุกเรื่อง ประกอบกับมีความสมบูรณ์แบบทั้งเรื่องของครอบครัว ต้นตระกูล และความหล่อเหลาของเขาทำให้ เดคิสึงิกลายเป็นที่นิยมที่สุดในหมู่เด็กผู้หญิงรวมถึงชิซุกะ ที่โนบิตะหมายปองอยู่ด้วย และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขากลายเป็นศัตรูของโนบิตะไปในที่สุด
เดคิสึงิ มีบุคลิกร่าเริง และมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนจนได้รับการยอมรับว่าเป็น “คนดี” ยิ่งสร้างความให้กับโนบิตะริษยามากมายขึ้นไปอีก แต่เหมือนเขาเองจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะว่าไม่เคยคิดร้ายกับใคร และมักจะสุขุมและเป็นผู้ใหญ่อยู่เสมออีกด้วย
เรื่องราวเดคิสึงิ เด็กผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ 100% ที่ถูกสร้างขึ้นในการ์ตูน ถูกนำมาพูดถึงและวิเคราะห์กันอย่างจริงจังเชิงวิชาการในสังคมญี่ปุ่น ว่าแท้จริงแล้วการที่ตัวตนของเขา ถูกสร้างขึ้นมานั้นผู้เขียนมีเหตุผลอะไรกันแน่ เพราะหากย้อนกลับไปดูเนื้อหาของการ์ตูนเรื่องโดราเอมอน ตัวละคร เดคิสึงิ ไม่ได้ถูกกำหนดให้มีตัวตนตั้งแต่ต้นเรื่องแต่เพิ่งจะมาปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่เรื่องราวผ่านไปแล้ว 22 เล่ม จากทั้งหมด 45 เล่ม นั่นคือเขาเพิ่งมีตัวตนแค่เพียงช่วงครึ่งท้ายของเรื่องเท่านั้น
มีการวิเคราะห์กันว่าการที่ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ สร้างเดคิสึงิ ขึ้นมาเป็นอีกตัวละครหนึ่ง ด้วยอาจจะต้องการสร้าง “มนุษย์ในอุดมคติ” ที่ผสมรวมทุกอย่างของสุดยอดแห่งความเก่ง ความดี ความหล่อ ความสมบูรณ์แบบของครอบครัว ชนิดไม่มีข้อด้อยอะไรเลย และบุคคลอย่างเดคิสึงินี่แหละ คือ รูปแบบที่มนุษย์ต้องการ ทั้งที่รู้ดีว่าในโลกแห่งความเป็นจริงจะหามนุษย์ที่มีความเป็นเลิศแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ
บางเหตุผลก็บอกว่า การที่มีเดคิสึงิขึ้นมา ผู้เขียนต้องการให้เป็นตัวเปรียบเทียบในโลกของโนบิตะ ที่แม้ว่าจะทำให้โนบิตะ ดูด้อยลงแต่นั่นก็อาจจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้โนบิตะผลักดันตัวเองขึ้นมาเพื่อเอาชนะเดคิสึงิให้ได้ หรือเป็นการสร้างแรงผลักดันให้เด็กญี่ปุ่นเอาชนะด้านด้อยของตัวเองเพื่อให้เกิดการพัฒนาตัวเองไปถึงจุดที่สังคมชี้ว่าเป็น “คนดี” นั่นเอง แต่โนบิตะเองก็ดูเหมือนว่าจะไม่เคยเอาชนะเดคิสึงิได้ด้วยตัวเองสักครั้ง เพราะเขามักกลับมาขอของวิเศษต่างๆ ของโดราเอมอนไปใช้ สุดท้ายก็ผิดพลาดจนทำให้เดคิสึงิ ดูดีขึ้นไปอีกในสายตาของคนอื่นๆ โดยเฉพาะชิซุกะ
แม้ว่าเดคิสึงิ จะถูกเขียนขึ้นมาให้มีตัวตนในลักษณะของไอดอลยอดนิยมของคนทั่วไป แต่ในมุมหนึ่งกลับมีการตั้งข้อสังเกตว่าเด็กผู้ชายผู้สมบูรณ์แบบคนนี้กลับมีความลึกลับที่ยากจะหาตัวตนที่แท้จริงได้ ทั้งเรื่องของครอบครัว พ่อแม่ที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร ชื่อที่แท้จริงของเดคิสุงิ คืออะไร เพราะชื่อของเขาถูกเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และก็ไม่เคยได้รับการอธิบายจากผู้เขียน จนแฟนคลับต้องวิเคราะห์และเดากันเอาเองจากการจับเรื่องราวที่ถูกเขียนขึ้นมาปะติดปะต่อกัน เขาจึงได้ชื่อว่า เดคิสึงิ ฮิเดะโทะชิ (出木杉英才) อย่างเป็นทางการไปในที่สุด ทั้งนี้จะใช่หรือเปล่าก็ไม่มีใครทราบ
นอกจากนี้แม้เดคิสึงิจะเป็นที่นิยมของเพื่อนๆ แต่เขากลับเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนเลย เวลาเดินกลับบ้าน หรืออยู่ที่โรงเรียน ก็มักจะเล่นคนเดียว แม้ว่าในเนื้อเรื่องจะมีการกล่าวถึง สมิธ ที่ระบุว่าเป็นเพื่อน Pen-friend ชาวต่างประเทศแต่ก็ไม่เคยมีใครรู้จักสมิธ ในขณะที่เพื่อนๆ มักจะเรียกเขาด้วย “นามสกุล” เสมอ ไม่มีใครเรียกชื่อจริงของเขา ต่างกับกลุ่มเพื่อนคนอื่นๆ ที่มักจะเรียกชื่อกันเสมอ และนั่นก็หมายถึงความไม่สนิทสนมในสังคมญี่ปุ่น แต่เป็นการเรียกแบบสุภาพกับคนที่ไม่ได้สนิทสนมอะไรนัก อาจจะตีความได้ว่า แท้จริงแล้วเดคิสึงิ ไม่มีใครคบอย่างใกล้ชิดเลย แม้แต่ชิซุกะเองก็ตาม
เดคิสึงิ ไม่เคยถูกไจแอนท์ แกล้งเลยทั้งที่คนอื่นๆ ถูกบังคับกลั่นแกล้งทุกคน และเขาก็ไม่เคยถูกไจแอนท์เชิญไปฟังเสียงอันแสนโหดร้ายของเขาในคอนเสิร์ตที่เพื่อนๆ ทุกคนมักจะถูกบังคับให้มาร่วมงาน และไจแอนท์มักจะได้รับการต้อนรับอย่างดีในทุกครั้งที่เชิญเดคิสุงิไปร่วมเล่นเบสบอล จากทักษะการกีฬาที่เป็นเลิศของเขา
ความลึกลับ ที่ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีตัวตน ไม่มีเพื่อน ไม่มีความรู้สึกที่ใครสามารถเข้าถึงได้ของ เดคิสึงิ จึงเปรียบเสมือน “มนุษย์ในอุดมคติที่ไม่มีอยู่จริงบนโลกนี้” แต่ถ้าหากคุณมีทั้งมุมสว่าง มุมมืด ความดี ความชั่ว การแพ้ การชนะ ฉลาด และโง่ บ้าง นั่นหมายถึงคุณคือมนุษย์ที่มีชีวิตจริงๆ บนโลกใบนี้ที่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบไปซะทุกเรื่องก็ได้ และอาจจะเป็นความหมายแฝงของฟูจิโอะ ฟูจิโกะ ที่ต้องการจะสื่อถึงเด็ก ๆ ด้วยการสร้าง “เดคิสึงิ ฮิเดะโทะชิ” คนนี้ขึ้นมาเป็นทั้งตัวเปรียบเทียบ และแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ นั่นเอง