“หมูกระทะ” กับทฤษฎีความพึงพอใจของมนุษย์

0
864
kinyupen

กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต พาไปติดตามเรื่องราว “หมูกระทะ” กับทฤษฎีความพึงพอใจของมนุษย์ เพราะมนุษย์มีความต้องการมากมาย โดยเฉพาะเรื่องกิน เพื่อเยียวยาจิตใจจากปัจจัยหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต

 

หมูกระทะจะเยียวยาทุกสิ่ง… คำพูดนี้ที่หลายคนคุ้นหู ไม่ว่าจะเศร้าจากงาน ความรัก สอบตก เจอเรื่องแย่มาแค่ไหน… การกินจะช่วยได้

 

ในความเป็นจริงการกินจะช่วยได้จริงหรือไม่? ซึ่งตามทฤษฎีควรจะเป็น “Time heals all wounds” หมายความว่าเวลาจะเยียวยาทุกสิ่ง หรืออันที่จริง การเยียวยาด้วยการกิน เป็นเพราะเรามีเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้าง ผสานกับเสียงหัวเราะที่ได้พูดคุยกับคนสนิทกัน?

 

ถ้าจะให้พูดตามหลักทฤษฎีและความเป็นไปได้คงพูดถึงทฤษฎีของ Maslow ‘ทฤษฎีความต้องการตามลำดับขั้น’

ประกอบไปด้วย 5 ระดับ (1.) ความต้องการทางสรีระ , (2.) ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย , (3.) ความต้องการความรักและเป็นส่วนหนึ่งของหมู่คณะ , (4.) ความต้องการที่จะรู้สึกว่าตนเองมีค่า และ (5.) ความต้องการที่จะรู้จักตนเองตามสภาพที่แท้จริงและพัฒนาศักยภาพของตน หากเปรียบการผิดหวังหรือการอกหัก ตามทฤษฎีนี้ คงเสมือนว่าผิดหวังจากลำดับที่ 3 หรือ 4 ตามทฤษฎี

 

ตามทฤษฎีของ Maslow กล่าวไว้ว่า “มนุษย์จะแสวงหาสิ่งใหม่ตามลำดับขั้นความต้องการ” กล่าวง่ายๆ คือ เมื่อผิดหวัง มนุษย์จะย้อนกลับมาที่ข้อ 1 คือขั้นพื้นฐาน(ความต้องการทางสรีระ) นั่นคือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย ฉะนั้นการกินแบบไร้ขีดจำกัดนี้ จึงทำให้มนุษย์รู้สึก Success ในขั้นพื้นฐานในระยะเวลาหนึ่ง เพราะฉะนั้นคำที่กล่าวว่า “หมูกระทะจะเยียวยาทุกสิ่ง” อาจจะไม่ใช่เพียงแค่คำพูดสนุกปากอีกต่อไป

 

 

เมื่อเราทำความเข้าใจกับลักษณะความนึกคิดหรือการเข้าใจมนุษย์แล้ว หากการกินแบบไร้ขีดจำกัดนี้จะเยียวยาได้จริงอย่างที่ว่า ปัญหาที่จะตามมาจากการกินไร้ขีดจำกัดนี้ คือ “อาการแน่นท้อง” หากมันเป็น Lifecycle ปกติของมนุษย์ในการไต่ลำดับความต้องการ คงต้องหาวิธีเยียวยาอาการที่จะตามมา…

 

เกร็ดความรู้: ในความเป็นจริงการกินอาหารที่ไม่ดีเข้าไป ถึงจะอิ่มแค่ไหนก็ต้องได้รับอาหารที่ดีเข้าไปเพื่อหักล้าง วันนี้แนะนำอาหาร 5 ชนิด ช่วยย่อยลดอาการแน่นท้อง หลังเยียวยาจิตใจ!

 

1. เปปเปอร์มินท์ เคยได้รับลูกอมรสมินท์จากการกินอาหารมื้อหนัก ตามร้านอาหารไหม? เนื่องจากมินท์มีสรรพคุณในการช่วยลดแก็สในกระเพาะอาหาร และกระตุ้นการย่อยให้ดีขึ้น
2. โยเกิร์ต ซึ่งมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการเผาผลาญอาหาร เนื่องจากมีแบคทีเรียแล็คโตบาซิลัส ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ จึงช่วยลดอาการท้องอืดได้ดี
3. น้ำมะนาว ช่วยแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แถมยังช่วยย่อยอาหาร เนื่องจากกรดในมะนาวจะช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ทำให้อาหารในกระเพาะอาหารถูกย่อยเร็วขึ้น
4. ชาคาโมมายล์ ช่วยเรื่องขับลม บรรเทาอาการอักเสบและยับยั้งการเกิดแผลในทางเดินอาหาร
5. สับปะรด เนื่องจากเอนไซม์โบรมีเลน (Bromelain) ในสับปะรดมีฤทธิ์ย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ให้มีขนาดโมเลกุลเล็กลง ทำให้ร่างกายย่อยเนื้อสัตว์เหล่านี้ได้ดียิ่งขึ้น และเอนไซม์ในสับปะรดยังมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร

 

หากการกินที่ว่าคือการเยียวยาจิตใจ เป็นการหาทางออกกับปัญหาที่เกิดของมนุษย์ในระยะเวลาหนึ่งแล้ว การจัดการกับปัญหาที่ถูกวิธีแบบยั่งยืนคงสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งวิธีการหาทางออกของแต่ละคนคงแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแย่แค่ไหนก็ตาม ในแง่มุมของเรื่องแย่ๆ อาจมีมุมเล็กๆ ที่เป็นข้อดีอยู่…

“จะดีหรือร้ายอยู่ที่ใจจะเลือกมอง” นี่คือหนึ่งในวิถีแห่ง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต

kinyupen