Virtual vs Reality

0
416
kinyupen
บนความเป็นจริงที่เราต้องเรียนรู้และปรับตัวเพื่อเฟ้นหาความสุขในชีวิต นับเป็นโจทย์ที่ท้าทายของคนในสังคมปัจจุบันและด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย Social media จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่คนใช้สร้างความสุข เราคงต้องยอมรับว่านี่คือยุค Social media อย่างแท้จริง…ที่ไม่ใช่โลกของความเป็นจริง

ด้วยค่านิยมของคนในปัจจุบันคงปฏิเสธได้ยากว่าค่านิยม “เปลือกนอก” ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Instagram, Youtube หรือถ้าให้ย้อนกลับไปสมัย 10กว่าปีก่อนอย่าง Hi5 ไม่ว่าใครก็ต้องการลงเรื่องราวของตัวเองในด้านบวก ใช้อวดความร่ำรวยบ้าง ใช้อวดวิถีชีวิตของตัวเองบ้าง หรือรูปที่ใช้บน Profile ก็ต้องดูดี (บางทีก็อาจจะดูดีกว่าตัวจริง) จนเกิดเป็นการปิ๊งรักปักอก นัดเจอกัน บนโลกแห่งความจริง พอเจอกันกลับไม่เหมือนในรูปทำให้หลายคนก็ห่างหายกันไป บางคนก็ต้อง Block กันเพราะไม่อยากติดต่อกันอีกเป็นที่มาของศัพท์วัยรุ่นที่ว่า “หนังไม่ตรงปก” ใครรู้สึกมากกว่าคนนั้นก็แพ้ไป บางคนถึงกับเสียสุขภาพจิต กลายเป็นคนคิดมาก ไม่มั่นใจในตัวเอง ยอมอยู่แค่บนโลก Social Media เพื่อทำให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับ มีแต่คนชื่นชอบ มาเอาอกเอาใจ กระทำบางอย่างเพื่อเรียก like, comment หรือ share จนเรียกได้ว่า

“Social media ทำให้คนหลงโลกของเงา”

ด้วยสังคมที่เปลี่ยนไปนี้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ การแบ่งปันข้อมูลและการกระจายข่าวสาร มีทั้งด้านดีและด้านลบ เฉกเช่นเดียวกับคนในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี ด้วยการเจริญเติบโตของเทคโนโลยี ทำให้ช่องทางบนโลกเสมือนจริงนี้ เป็นอีกหนึ่งช่องทางของผู้ไม่หวังดีสามารถแสวงหาผลประโยชน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการฉ้อโกง การหลอกลวง การล่วงละเมิดต่างๆ ที่เราเห็นได้อยู่ทุกวันบนสื่อช่องทางนี้  หากกล่าวว่า Social Media ทำให้สังคมเสื่อมโทรมลงก็คงไม่แปลก

“สังคมไทยปัจจุบัน คือ สังคมแห่งเปลือกนอก”

เปลือกคือสิ่งที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีต่างๆ เปลือกคือความสวยงามแค่ผิวเผินภายนอก คือกลิ่นหอมหวานที่น่าหลงใหล เปลือกมีคุณค่าสำหรับสัตว์สังคมอย่างมนุษย์ การยอมรับจากสังคมเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่หา คนที่มีแก่นอ่อนแอก็ย่อมต้องการเปลือกที่แข็งแรงมากกว่าผู้ที่มีแก่นแข็งแรงไม่หวั่นไหวต่อกระแสสังคม เฉกเช่นเดียวกับไข่ ที่ต้องมีเปลือกไว้ปกป้องตัวเอง แต่สุดท้ายแล้ว “เปลือกก็คือ เปลือก” ย่อมมีวันแตกออกและหายไป เปลือกแห่งกระแสสังคมนี้มีกันให้เห็นอยู่เรื่อยๆ เปลี่ยนไปตามกาลเวลา แก่นเนื้อในต่างหากที่แข็งแรง ที่จะบอกถึงความเป็นตัวตนของคนนั้นๆ เป็นสิ่งที่มันไม่มีวันจะดับสลาย กระจกบานใหญ่นี้ที่มีชื่อเรียกว่า Social media ได้สะท้อนอะไรบางอย่างให้เราได้เห็น จะดีกว่าไหมถ้าเราลองหยุดแล้วคิดไตร่ตรองดูสักนิด หันมาสร้างแก่นบนโลกแห่งความจริง แทนที่จะสร้างเปลือกบนโลกแห่งเงานี้ หันมาสร้างความสุขที่แท้จริง ใช่ว่าเป็นแค่ “ความสุขบนกระจกวิเศษของตนเอง”

 

นี่คือหนึ่งในวิถีแห่ง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต

kinyupen