อย.คอนเฟิร์ม ชาบางชนิดใส่สีได้ ไม่อันตรายอย่างที่คิด

0
110
kinyupen

เครื่องดื่มยอดฮิต อย. ชี้แจงล่าสุด ชาบางชนิดใส่สีได้ แต่ต้องรู้วิธีเลือกให้ถูก อย่าเพิ่งตกใจ แนะวิธีบริโภคอย่างปลอดภัย อย. แจงชาบางประเภทใส่สีได้ แนะวิธีบริโภคอย่างปลอดภัย

จากกระแสข่าวแชร์เรื่องชาใส่สี อย. เผยชามีหลายประเภท บางประเภทอนุญาตให้ใส่สีผสมอาหารได้ในปริมาณไม่เกินที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล แนะผู้บริโภคอ่านฉลากก่อนซื้อหากซื้อชาปรุงสำเร็จตามร้านให้ยึดหลักเลือกที่มีสีอ่อนตามธรรมชาติ

นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากการที่มีกระแสข่าวแชร์ทางออนไลน์เกี่ยวกับชาใส่สี  yellow no 6  หรือสี sunset yellow สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ว่า ผลิตภัณฑ์ชามีหลายประเภท ได้แก่ ชาใบ ชาผงสำเร็จรูป และชาปรุงสำเร็จ  ซึ่งส่วนใหญ่ชาที่มีการใส่สี จะเป็นประเภทชาปรุงสำเร็จ ที่มีการปรุงแต่งสีกลิ่นรส  ตามกฎหมายจะอนุญาตให้ใส่สี  yellow no 6  หรือสี sunset yellow ได้ไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ในสภาพพร้อมบริโภค ซึ่งสอดคล้องตามมาตรฐานสากล โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ถือว่าสีดังกล่าวยังปลอดภัยสำหรับการใช้ในอาหารตามขีดจำกัดที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ควรมีการควบคุมการใช้และการบริโภคอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการใช้ในปริมาณที่เกินขีดจำกัดที่กำหนดไว้

สำหรับความเกี่ยวข้องกับภาวะสมาธิสั้นในเด็ก จากผลการศึกษาวิจัยยังมีข้อมูลไม่เพียงพอที่ระบุได้ว่าสีผสมอาหารสังเคราะห์เป็นสาเหตุทำให้เกิดสมาธิสั้นในเด็ก ทั้งนี้ การเลือกซื้อชาในภาชนะบรรจุมารับประทาน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาต สังเกตบนฉลากต้องมีเลข อย. ชื่อที่ตั้งของผู้ผลิตหรือนำเข้า มีการแสดงส่วนประกอบของชา หากต้องการดื่มชาที่มีสีและกลิ่นตามธรรมชาติของชานั้น ให้เลือกใบชาหรือผงชาเป็นส่วนประกอบหลักโดยในส่วนประกอบที่แสดงบนฉลากจะไม่มีสีและน้ำตาล แต่หากต้องการดื่มชาปรุงสำเร็จที่มีการแต่งสี และปรุงรส เช่น เติมน้ำตาล บนฉลากจะมีการแสดงคำว่า “สีสังเคราะห์ หรือสีธรรมชาติ (INS…หรือ ชื่อของสี) เช่น สี INS110 หรือ สี Sunset yellow

นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์  เลขาธิการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า  ในการดื่มชาผู้บริโภคควรสังเกตสีเมื่อชงพร้อมดื่มแล้ว จะต้องมีสีตามธรรมชาติ ไม่เข้มฉูดฉาด ส่วนการซื้อเครื่องดื่มชาตามร้านค้าหรือคาเฟ่ ควรเลือกซื้อเครื่องดื่มชาสีอ่อน ไม่เข้มฉูดฉาดเช่นเดียวกัน  และไม่ควรดื่มวันละหลาย ๆ แก้ว ควรเลือกดื่มเครื่องดื่มให้หลากหลายเพื่อลดความเสี่ยงจากการได้รับสีผสมอาหารชนิดเดิมซ้ำ ๆ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ

ด้านจ่าพิชืต เจ้าของเพจ Drama Addict ก็ได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า

“ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา มีเพจด้านสุขภาพ และแชนเนล หรือ podcast สุขภาพหลายช่องพูดเตือนภัย เรื่องการกินชาเย็น เครื่องดื่มโคตรพ่อโคตรแม่ฮิตของคนไทย ว่ารู้หรือไม่ว่า ในชาเย็นเนี่ย มันมีการใส่สีผสมอาหาร sunset yellow ที่ต่างประเทศเขาไม่อนุญาตให้ใส่นะ และเตือนว่า ถ้ากินเยอะๆ ก็จะทำให้เป็นสมาธิสั้นได้ โดยอ้างว่ามีข้อมูลจาก ตปท ว่าเด็กที่กินชาที่ผสมสีผสมอาหารตัวนี้จะทำให้สมาธิสั้น

ซึ่งอันนี้พ่อแม่พี่น้องยังไม่ต้องแตกตื่น มาดูข้อเท็จจริงกันก่อน

1. สีผสมอาหารที่ว่าชื่อ sunset yellow ซึ่ง อย อนุญาตให้ใส่ในอาหารได้ ในชา จะอนุญาตให้ใส่ได้ ไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อกิโล โดยอนุญาตให้ใส่ได้เฉพาะในชาผงแบบปรุงสำเร็จ ใส่ในใบชาแบบที่เป็นใบๆไม่ได้

2. บางประเทศมีการห้ามไม่ให้ใส่สีตัวนี้ในอาหารจริง เพราะช่วงปี 70 มีคนตั้งข้อสันนิษฐานว่า การกินอาหารที่ใส่สีผสมอาหารตัวนี้ หรือสารกันบูดบางตัว อาจทำให้เด็กเสี่ยงเป็นสมาธิสั้นได้ แต่ยังไม่มีงานวิจัยที่มีหลักฐานชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกัน การศึกษาล่าสุดเป็นงานวิจัยปี 2007 บอกว่าต้องศึกษาเพิ่มเติม ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีความสัมพันธ์กับโรคสมาธิสั้นในเด็ก ดังนั้นในบางประเทศที่กังวล จึงห้ามไม่ให้ใส่สีผสมอาหารตัวนี้ไปก่อน แต่อีกหลายๆประเทศก็ให้ไส่

3. โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ปัจจุบันจัดให้สีตัวนี้มีความปลอดภัย ไม่มีสารก่อมะเร็ง หรือก่อโรคอื่นๆ

4. แต่อย่างไรก็ดี ไม่แนะนำให้เด็กอายุน้อยกว่า 6 ขวบ บริโภคอาหารที่ใส่สีตัวนี้ อีกทั้งชาไทยยังมีคาเฟอีนด้วย ไม่แนะนำให้เด็กเล็กกินเพราะมีผลกับการหลับนอนและการเจริญเติบโตได้ ดังนั้นถ้าเป็นเด็กเล็ก ก็อย่าเพิ่งกิน รอให้โตก่อน ส่วนผู้ใหญ่ก็แดกไป

5. แต่อะไรก็ตามถ้าแดกเยอะไปล้วนเป็นอันตรายได้ทั้งสิ้น แนะนำให้แดกแต่พอดีเช่นกัน วันละ 1-2 แก้วก็เพียงพอแล้ว อย่าแดกยัดห่าวันละเป็นแกลลอน แบบนั้นไม่ต้องกลัวสมาธิสั้นหรอก กลัวเบาหวานแดXจะดีกว่า”

ที่มา : (อย.) คณะกรรมการอาหารและยา
ที่มา : Drama Addict

kinyupen

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here