ปัจจุบัน ไมโครเวฟ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่ ใช้กันอยู่ทั่วไป จัดเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกที่บ้านเรือนส่วนใหญ่ใช้กันเกือบทั่วโลก
จนกระทั่งวันดีคืนดี มีข่าวว่า ไมโครเวฟ ทำให้เป็นมะเร็งได้
บางคนเชื่อ บางคนไม่เชื่อและยังใช้ต่อไป
ก่อนที่จะไปสู่ประเด็นที่ว่า ไมโครเวฟทำให้เป็นมะเร็งได้หรือไม่นั้น
เรามาดูก่อนว่า ไมโครเวฟมีหลักการทำงานอย่างไร
เว็บไซต์ cancer.net ได้เผยแพร่บทความเรื่อง การใช้ไมโครเวฟจะทำให้เป็นมะเร็งได้หรือไม่ โดยให้คำตอบดังต่อไปนี้
ไมโครเวฟทำงานอย่างไร?
เตาไมโครเวฟแปลงไฟฟ้าเป็นรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ ที่เรียกว่า “ไมโครเวฟ” ซึ่งมีอำนาจในการทะลุทะลวงต่ำ จึงไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ร่างกายของเรา
แต่สำหรับรังสีเอ็กซ์ที่ใช้ฆ่าเซลล์มะเร็งนั้น มีพลังงานสูงกว่าและทะลุทะลวงเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่า
ส่วนแมกนีตรอนหรือหลอดสุญญากาศกำลังสูงภายในเตาไมโครเวฟสร้าง ไมโครเวฟ และผนังโลหะภายในไมโครเวฟจะสะท้อนคลื่นเหล่านี้ไปมาอย่างต่อเนื่อง ไมโครเวฟทำให้อาหารร้อนขึ้นโดยการทำให้โมเลกุลของน้ำภายในอาหารสั่นสะเทือน
ทำไมรังสีไม่ออกจากไมโครเวฟ?
รังสีจะอยู่ภายในไมโครเวฟตราบเท่าที่ปิดประตู ในความเป็นจริงแล้ว ไมโครเวฟถูกสร้างขึ้นมาให้ทำงานเมื่อปิดประตูเท่านั้น
รังสีสามารถรั่วไหลจากไมโครเวฟได้หรือไม่?
ปกติรังสีจำนวนหนึ่งอาจรั่วไหลออกจากไมโครเวฟได้ แต่อยู่ในระยะไม่ไกล (2-5 นิ้ว) โดยมีระดับรังสีที่ไม่เป็นอันตรายต่อคน
การยืนให้ห่างจากไมโครเวฟจะช่วยลดความเสี่ยงในการได้รับรังสีไมโครเวฟ เนื่องจากพลังงานไมโครเวฟจะลดลงเมื่ออยู่ห่างจากไมโครเวฟมากขึ้น ดังนั้นเวลาอุ่นอาหาร แนะนำให้ยืนห่างจากไมโครเวฟ 2-3 ฟุตเพื่อลดความเสี่ยงจากคลื่นไมโครเวฟ
รังสีหรือไมโครเวฟสามารถคงอยู่ในอาหารได้หรือไม่?
อาหารไม่กักเก็บไมโครเวฟหรือรังสีหลังจากปรุงอาหาร องค์การอนามัยโลก (WHO) เปรียบเทียบเตาอบไมโครเวฟกับการทำงานของหลอดไฟ “เมื่อปิดหลอดไฟ ไฟจะไม่เหลือ” ในทำนองเดียวกัน “เมื่อปิดไมโครเวฟ จะไม่มีรังสีอีกต่อไป”
สรุปได้ว่า คลื่นไมโครเวฟไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ ไม่ทำให้เกิดมะเร็ง และไม่ตกค้างในอาหาร นอกจากนี้ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการอุ่นอาหารด้วยไมโครเวฟจะเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง